รายงานผลการเยือนงานแสดงสินค้า Fiera Del Levante 2011

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 17, 2011 15:23 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ชื่องานฯ             Fiera Del Lavante (จัดขึ้นเป็นครั้งที่ ๗๕)
ประเภทสินค้า         ทั่วไป (เครื่องจักรและเครื่องใช้ทางการเกษตร พืชสวน การทำสวน และปศุสัตว์ อุปกรณ์

สร้างและตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ภายในบ้าน รถยนต์/รถจักรยานยนต์ การ

ให้บริการด้านธุรกิจ)

วันจัดงาน            ๑๐-๑๘ กันยายน ๒๕๕๔ (จัดปีละ ๑ ครั้งในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี)
สถานที่จัดงาน         ศูนย์แสดงสินค้า ณ เมืองบารี
เวลาเปิด-ปิดงาน      วันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๔ ระหว่างเวลา ๑๕.๐๐ - ๒๑.๓๐ น.

วันจันทร์ - ศุกร์ ระหว่างเวลา ๙.๐๐ - ๒๐.๓๐ น.

วันเสาร์ - อาทิตย์ ระหว่างเวลา ๘.๓๐ - ๒๑.๓๐ น.

พื้นที่จัดงานฯ          ๓๐๐,๐๐๐ ตารางเมตร
ค่าบัตรเข้างานฯ       ค่าบัตรเข้างาน ๗ ยูโร
ผู้เข้าร่วมแสดงสินค้า    ประมาณ  ๖๕๔ บริษัท (ลดลงจากปีที่แล้วจำนวน ๖๙๘ บริษัท หรือ ๖%)

(เป็นบริษัทในอิตาลี ๗๙.๐๕% และต่างชาติ ๒๐.๙๕%

ผู้เข้าชมงานฯ         ๑๘๐,๐๐๐ ราย (ปี ๒๕๕๓ จำนวน ๒๗๐,๐๐๐ ราย)
ผู้จัดงานฯ            Ente Autonomo Fiera Del Lavante

Lungomare Starita 70123 Bari

โทร. +๓๙๐๘๐๕๓๖๖๓๔๙

โทรสาร +๓๙๐๘๐๕๓๖๖๔๙๑

เวปไซด์ www.fieradellevante.it

๑. ข้อมูลเกี่ยวกับงาน

งานแสดงสินค้า Bari International Trade Fair หรือ Fiera Del Levante เป็นงานแสดงสินค้าประเภทขายปลีกสำหรับสินค้าทั่วไป จัดขึ้น ๑ ครั้งต่อปีในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๗๕ ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๘ กันยายน ๒๕๕๔ ด้วยพื้นที่จัดแสดงกว่า ๓๐๐,๐๐๐ ตารางเมตร ประกอบด้วยผู้จัดแสดงสินค้ากว่า ๖๕๐ บริษัทจากทั้งในอิตาลีและต่างประเทศ เช่น จีน อินเดีย เลบานอน อิยิปต์ คูเวต เปรู ปากีสถาน ฮ่องกง ฯลฯ จัดได้ว่าเป็นงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเขตภาคใต้ของอิตาลีหรือ Mezzogiorno

สินค้าในงานประกอบด้วยสินค้า ๗ กลุ่มโดยจัดแสดงแยกกันไปตามอาคารต่างๆ ได้แก่

๑. กลุ่มสินค้าอาหาร (Agrimed) เป็นอาคารที่จัดแสดงสินค้ากลุ่มเกษตรกรรมและผลิตภัณฑ์อาหาร กระบวนการผลิตอาหารแปรรูป การควบคุมคุณภาพสินค้าและอาหารสำคัญๆ ของแต่ละแคว้น รวมถึงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าอาหาร

๒. กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน (Salone Dell'Arredamento) มีพื้นที่จัดแสดง ๒๗,๐๐๐ ตรม. เป็นอาคารที่จัดแสดงสินค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านต่างๆ ทั้งในสไตล์ทันสมัยและแบบคลาสิค เคหะสิ่งทอ โคมไฟ สินค้าต่างๆ ที่มีดีไซน์และเหมาะกับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ การตกแต่งภายในบ้านและสำนักงาน

๓. กลุ่มสินค้า (Abitare) มีพื้นที่จัดแสดง ๑๐,๐๐๐ ตรม. เป็นอาคารที่จัดแสดงสินค้ากลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์ก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง นวัตกรรมต่างๆ ทั้งในรูปแบบประหยัดพลังงานและเทคโนโลยีเกี่ยวกับบ้าน

๔. กลุ่มสินค้ารถยนต์ (Motus) เป็นอาคารที่จัดแสดงสินค้ากลุ่มรถยนต์ทั้งรุ่นใหม่และแบบมือสอง รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีรถเพื่อการพาณิชย์ บริการให้ความช่วยเหลือต่างๆ และบริการทำความสะอาดและล้างรถด้วย

๕. กลุ่มสินค้าหัตถกรรมจากต่างประเทศ (Galleria delle Nazioni) เป็นอาคารที่จัดแสดงสินค้าหัตถกรรมจากต่างประเทศ ได้แก่ อาเจนติน่า อัลบาเนีย ปาเลสไตน์ คาเมรูน เดนมาร์ก อิยิปต์ ฟิลิปปินส์ ฝรั่งเศส เฮติ อินเดีย เคนยา มาลี โมรอคโค ซิมบับเว จีน คิวบา เอกวาดอร์ อินโดนีเซีย อิหร่าน รัสเซีย สเปน เวียดนาม เป็นต้น รวมถึงมีคูหาของสำนักงานการค้าของประเทศต่างๆ เพื่อทำหน้าที่ให้ข้อมูลประเทศและให้บริการจัดทำการจับคู่ทางธุรกิจให้ด้วย

๖. กลุ่มสินค้าทั่วไป ได้แก่ ของเก่า (Antique) ของประดิษฐ์เอง (Do it yourself) เสื้อผ้า ของเด็กเล่น เครื่องหนัง เครื่องประดับเทียม และของขวัญของชำร่วย ขนมอบและอุปกรณ์และเครื่องทำขนม

๗. ภาคบริการต่างๆ (Business Center) เป็นอาคารที่จัดแสดงกลุ่มบริษัทด้านการเงิน การประกันภัย รวมถึงหน่วยงานภาครัฐต่างๆ

นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการภาพศิลปะของศิลปินรุ่นเยาว์ รวมถึงการจัดกิจกรรมพิเศษโดยสมาคมชุมชนไทยในฟลอเรนส์ร่วมกับสมาคมวัฒนธรรมเมืองบารีเรียกว่า "For Quality of Life" เพื่อให้ผู้เข้าเยี่ยมชมงานได้รับประทานอาหารว่างและดื่มชาและชื่นชมกับทัศนียภาพธรรมชาติในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนและเมืองเขตร้อน

ค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมจัดแสดงสินค้า (เฉพาะส่วนอาคารสินค้าหัตถกรรมจากต่างประเทศ) แบ่งออกเป็น ๒ อัตรา ได้แก่

๑. อัตราสำหรับภาคเอกชน ราคา ๑๘๓ ยูโรต่อตรม. สำหรับคูหาธรรมดา และ ๑๘๕ ยูโรต่อตรม.สำหรับคูหาบริเวณมุม (เปิดได้สองด้าน) ขนาดคูหามี ๔ ขนาดได้แก่ ๒๙ ตรม. ๒๗ ตรม. ๒๖ ตรม. และ ๒๑ ตรม.

๒. อัตราสำหรับภาครัฐ ราคา ๑๖๕ ยูโรต่อตรม. สำหรับคูหาธรรมดา และ ๑๖๗ ยูโรต่อตรม. สำหรับคูหาบริเวณมุม (เปิดได้สองด้าน) ขนาดคูหามี ๒ ขนาดได้แก ๒๑ ตรม. และ ๒๖ ตรม.

สถานที่จัดงานอยู่ในแคว้นปูเลียหรืออบูเลียเป็นแคว้นที่ตั้งอยู่ปลายชายแดนด้านใต้ของคาบสมุทร (ส้นรองเท้าบูท) ประกอบด้วย ๔ เมืองคือ เมืองบารี (Bari) เมืองฟอเจีย (Foggia) เมืองเลชเช (Lecce) เมืองตารานโต (Taranto) และเมือง บรินดิซี (Brindisi) พื้นที่ของแคว้นส่วนใหญ่เป็นที่ราบจึงเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่สำคัญ เช่น มะเขือเทศ (ผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี) สลัด แครอท มะกอก มะเขือยาว อาติโช๊ค อัลมอน และซีตัส (ส้ม/มะนาว) และเป็นแหล่งผลิตไวน์และน้ำมันมะกอกที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเลี้ยงแกะและทำประมงอีกด้วย เนื่องจากมีลักษณะภูมิศาสตร์ที่โดดเด่นจึงทำให้เป็นส่วนผสมของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแหล่งเกษตรกรรม กล่าวคือมีชาดหาดที่สวยงามและที่ราบสำหรับเพาะปลูกข้าวสาลีและมะกอก ทำให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สำคัญ ท่าเรือขนาดใหญ่

แคว้นปูเลียเป็นแคว้นที่มีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั่งเดิมของตนเอง ประวัติศาสตร์และการผลิต ผนวกกับการคิดค้นเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆในอุตสาหกรรมหลายด้าน มีรายได้ต่อหัว ๑๓,๒๐๐ ยูโร รัฐบาลได้นำนโยบายการให้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนมาใช้ ทำให้มีการลงทุนจากต่างชาติมากกว่า ๔๐ แขนงทั้งทางด้านยานอากาศ อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ เคมีภัณฑ์ และอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ICT

ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม แคว้นปูเลียเริ่มกลายเป็นแคว้นที่มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจขึ้นใน ๒๐ ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีโรงงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในแคว้นนี้ เช่น โรงงานทำเหล็ก ILVA ในเมือง Taranto โรงงานปิโตรเคมีของ ENI ในเมือง Brindisi และเมือง Manfredonia นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายของบริษัทขนาดกลางและย่อมที่เริ่มขยายตัวมากขึ้นทำให้ปัจจุบันมีคนทำงานอยู่ในบริษัทดังกล่าว ๗๐% ทั้งนี้บริษัทส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากเงินทุนในแคว้นด้วย อุตสาหกรรมที่สำคัญๆ ในแคว้นนี้ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหารและยานยนต์ในเมือง

Foggia อุตสาหกรรมรองเท้า สิ่งทอ ไม้และเฟอร์นิเจอร์ในเมือง Barletta ทางตอนเหนือของ Bari ไม้และเฟอร์นิเจอร์ในเมือง Murge ไปทางตอนตะวันตก วิศวกรรม ยาง เฟอร์นิเจอร์และไม้ คอมพิวเตอร์ซอฟแวร์รอบเมือง Bari สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในเมือง Monopoli - Putignano ไปทางตอนใต้ ทั้งนี้พบว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้ โดยเฉพาะ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ยานยนต์และอาหารมีความได้เปรียบด้านการแข่งขันกับผู้ผลิตต่างชาติเนื่องจากแคว้นได้ลงทุนในด้านการศึกษาวิจัยเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรม โดยจัดตั้งศูนย์ศึกษาวิจัยขึ้น เช่น Tecnopolis - CSATA ใกล้เมือง Bari, the Cittadella della ricerca (Centre for research and new materials) ใกล้เมือง Brindisi และศูนย์พัฒนาซอฟแวร์ใกล้เมือง Bari

นอกจากนี้แคว้นนี้ยังมีปัจจัยโครงสร้างพื้นฐานที่ดี เช่น เครือข่ายถนน (แต่รถไฟยังมีจำกัดโดยเฉพาะในภาคใต้) นอกจากนี้ยังมีชายฝั่งทะเลยาวถึง ๘๐๐ กิโลเมตรที่มีท่าเรือต่างๆ ทำให้แคว้นนี้เป็นศูนย์กลางที่สำคัญด้านการขนส่งและการเดินเรือท่องเที่ยวไปยังประเทศกรีซและทางตะวันออกของทะเลเมดิเตเรเนียนด้วย

๒. ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับงาน

งานแสดงสินค้า Fiera Del Lavente เป็นงานแสดงสินค้าขายปลีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตภาคใต้ ทั้งนี้มีผู้เข้าชมงานจากในอิตาลีและประเทศต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในเขตเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งสามารถใช้งานดังกล่าวเป็นสะพานเชื่อมต่อไปยังประเทศเล็กๆ ในแถบเมดิเตอร์เรเนียนได้อีกทางหนึ่ง

๓. โอกาสของสินค้าและบริการของไทย

จากการสัมภาษณ์ผู้เข้าชมงานบางรายได้แสดงความเห็นว่า รู้จักประเทศไทยในด้านการท่องเที่ยวว่ามีทะเลสวยงาม แต่สำหรับสินค้าและบริการไทยยังไม่ค่อยรู้จักดีเท่าที่ควร ดังนั้นการนำสินค้าและบริการของไทยมาจัดแสดงในงานแสดงสินค้าดังกล่าวจึงจะเป็นโอกาสและช่องทางในการประชาสัมพันธ์สินค้าไทยในตลาดอิตาลีให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น ทั้งนี้จะเห็นได้ว่ามีผู้จัดแสดงสินค้าจากต่างประเทศหลายประเทศนำสินค้ามาจัดแสดงในงานดังกล่าว ซึ่งถือได้ว่าไม่เพียงแต่เป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าแต่จะถือเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศในแง่ต่างๆ ไปด้วยในคราวเดียวกัน

๔. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ

๔.๑ ในการเจาะตลาดอิตาลี ผู้ส่งออกไทยควรเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ โดยเฉพาะควรจัดให้มีกิจกรรมด้านการประชาสัมพันธ์ประเทศและสินค้า/บริการเข้าไว้ด้วยกัน ในลักษณะแนวคิด "Taste of Thailand" ได้แก่ การจัดแสดงวัฒนธรรมต่างๆ การรำไทย/มวยไทย จัดสาธิตการปรุงอาหารและชิมผลไม้ นวดสปาไทย รวมถึงการจัดขายสินค้าเอกลักษณ์ไทยต่างๆ รวมไปกับสินค้าที่มีดีไซน์ โดยเข้าร่วมแสดงสินค้าในงานต่างๆ เหล่านี้อย่างต่อเนื่องและกระจายไปทั่วทุกภาค เพื่อสร้างความรับรู้ของผู้บริโภคอิตาเลี่ยนในตลาดให้ยอมรับสินค้าไทย

๔.๒ โอกาสของการขยายตลาดสินค้าในอิตาลีส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการส่งเสริมการตลาดและการประชาสัมพันธ์สินค้าดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น เนื่องจากสังเกตได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักสินค้าไทยอย่างแพร่หลายในตลาดอิตาลี โดยเฉพาะสินค้าอาหาร/ผลไม้จากประเทศไทย

๔.๓ แนวโน้มตลาดอิตาลี มีความต้องการสินค้าใหม่ๆ ที่น่าสนใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ไม้ทั้งในและนอกอาคาร สินค้ากลุ่มแฟชั่น (เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องหนังและรองเท้า) ของตกแต่งบ้านสไตล์เอเชีย สินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้าอาหารสำเร็จรูปและแปรรูปต่างๆ ผัก/ผลไม้สดตัดแต่ง (Fresh-cut) ซึ่งเหมาะกับการกระจายสินค้าเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ และบริการเช่น นวดสปาไทย ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอิตาลีทางตอนเหนือ

๔.๔ อย่างไรก็ดี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของอิตาลีในปัจจุบัน จึงพบว่างานแสดงสินค้าดังกล่าวมีผู้จัดแสดงสินค้าและผู้เข้าเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าลดน้อยลงทุกๆ ปี ในขณะเดียวกัน มีการจัดการไม่สู้ดีนัก เนื่องจากมีพื้นที่ว่างในงานอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร และระบบเครื่องทำความเย็นเสีย ทำให้ผู้จัดแสดงสินค้าบางรายตำหนิว่า ค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมงานสูงไม่เหมาะสมกับบริการที่ได้รับ โดยเมื่อสคร.โรมไปสำรวจงานในวันแรกของการเปิดงานยังพบว่า มีการก่อสร้างคูหายังไม่เสร็จเรียบร้อย และบางคูหาก็ยังทาสีอยู่เลย

๔.๕ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า คนอิตาเลี่ยนในภาคใต้จะมีรายได้ต่ำกว่าในภาคเหนือ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจยังตกอยู่ในภาวะถดถอย ผู้ซื้อสินค้าในงานจะพิจารณาเรื่องราคาเป็นหลัก โดยเฉพาะผู้ซื้อในเขตภาคใต้ซึ่งมีกำลังซื้อต่ำ ผู้ส่งออกไทยที่สนใจเข้าร่วมงานดังกล่าวควรคำนวณราคาสินค้าให้เหมาะสมก่อนตั้งราคาขายจะช่วยให้มีโอกาสในการขายสินค้าได้มากยิ่งขึ้น

๕. สรุป

งานแสดงสินค้า Fiera Del Levente เป็นงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติจัดขึ้นเป็นปีที่ ๗๕ และเป็นงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตภาคใต้ของอิตาลี จึงเป็นที่น่าสนใจแก่ผู้เข้าชมงานทั้งในแถบดังกล่าวของอิตาลีเองและจากในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เนื่องจากอิตาลีเป็นฐานผู้ผลิตรายใหญ่ด้านอาหารของสหภาพยุโรป รวมถึงเป็นผู้นำในการผลิตสินค้าที่มีดีไซน์และคุณภาพดีของภูมิภาคดังกล่าว ดังนั้นการเข้าร่วมแสดงสินค้าของผู้ส่งออกไทยจึงเป็นช่องทางหนึ่งในการเจาะตลาดอิตาลีตอนใต้และกลุ่มตลาดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้

ทั้งนี้ในปี ๒๕๕๕ จากการลงนามในข้อตกลงระหว่างผู้จัดงานและแคว้นปูเลียและ ARTI (Regional Agency for the Technology and Innovation) งานแสดงสินค้าดังกล่าวจะปรับบทบาทตัวเองเป็นงานแสดงสินค้าที่เน้นด้านการนำเสนอสินค้าสร้างสรรค์จากกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นเยาว์หรือบริษัทผู้ประกอบการใหม่ๆ เพื่อให้งานดังกล่าวกลายเป็นงานมีความหลากหลายมากขึ้น

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโรม

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ