การขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการของออสเตรเลีย

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 2, 2012 15:46 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ในขณะที่อุตสาหกรรมเหมืองแร่ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานทักษะ (skill shortage) อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการของออสเตรเลียกำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลมีแนวคิดที่จะนำเข้าแรงงานจากต่างประเทศมากถึง 36,000 ราย ซึ่งครอบคลุม บาร์เทนเดอร์ เชฟ และพนักงานเสิร์ฟอาหาร โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการหารือระหว่างภาครัฐและตัวแทนภาคอุตสาหกรรมฯ เพื่อให้รัฐบาลอนุญาตให้อุตสาหกรรมจ้างพนักงานจากต่างประเทศเข้ามาทำงานในประเทศชั่วคราว ภายใต้วีซ่า 475 (Skilled Regional Sponsor Visa) ซึ่งเป็นวีซ่าที่สามารถทำงานได้ภายใต้การสนับสนุน (sponsor) ของนายจ้างในประเทศออสเตรเลียได้เป็นเวลาไม่เกิน 4 ปี เช่นเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่

ผู้ประกอบการชาวออสเตรเลียแสดงความเห็นไปในทางเดียวกันว่ามีความประสงค์จ้างพนักงานชาวออสเตรเลีย แต่แรงงานท้องถิ่นมีทัศนคติทางลบต่อการทำงานบริการ โดยสาเหตุสำคัญของการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการของออสเตรเลีย คือ จำนวนนักเรียนต่างชาติที่ลดลงเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบการขอวีซ่า และการอพยพเข้าเมือง และผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะทำงานในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ซึ่งให้ค่าแรงสูงกว่ามาก

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการสร้างรายได้ให้เศรษฐกิจของประเทศประมาณปีละ 35,000 ล้านเหรียญออสเตรเลีย โดยนายมาร์ติน เฟอกูสัน Federal Tourism Minister เห็นว่า National Long-Term Strategy 2020 จะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานและทักษะในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมฯ นอกจากนี้ แผนงานดังกล่าวจะครอบคลุมบุคลากรที่มีประสพการณ์ เช่น พนักงานเสิร์ฟ พ่อครัว บาร์เทนเดอร์ ผู้จัดการโรงแรม และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมฯ ซึ่งเป็นอาชีพที่ไม่สามารถเข้ามาทำงานในออสเตรเลีย ตามบัญชีรายงานต่างชาติที่มีฝีมือภายใต้โครงการ General skilled migration Program ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตัวอย่างอาชีพที่อยู่ภายใต้ general skilled migration เช่น นักการบัญชี วิศวกร เป็นต้น

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการขาดแคลนแรงงาน 36,000 ตำแหน่ง และคาดว่าภายในปี 2015 จะขาดแคลนแรงงานเพิ่มขึ้นอีก 56,000 ตำแหน่ง โดยนายลี แห่ง Tourism and Transport Forum เห็นว่ารัฐบาลสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้านการขาดแคลนแรงงานซึ่งมีสาเหตุมาจากการย้ายไปทำงานในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ได้ โดยการปรับข้อกฎหมายในเรื่องสิทธิ์การต่อวีซ่าของผู้ทำงานในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการให้เท่าเทียมกันในพื้นที่ที่ขาดแคลนแรงงาน โดยในปัจจุบันผู้ถือวีซ่า working holiday visa สามารถทำงานในออสเตรเลียได้เป็นเวลา 1 ปี แต่หากทำงานในฟาร์มหรืออุตสาหกรรมเหมืองแร่จะสามารถต่ออายุวีซ่า ได้อีก 1 ปี โดยการทำงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการไม่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าว ซึ่งในบางพื้นที่ นักท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการถึง 40% ของแรงงานทั้งหมด

อย่างไรก็ดี สหภาพได้กล่าวเตือนรัฐบาลว่า ก่อนการออกมาตรการนำเข้าแรงงานจากต่างประเทศ รัฐบาลต้องแสดงให้เห็นว่าได้พยายามอย่างถึงที่สุดในการจ้างแรงงานท้องถิ่นเสียก่อน

ข้อคิดเห็น

สถานการณ์การขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการของออสเตรเลียในปัจจุบัน ส่งผลให้รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของแรงงานจากต่างประเทศ เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการเป็นอุตสาหกรรมสำคัญที่ทำรายได้ให้กับประเทศ และพิจารณาออกมาตรการการนำเข้าแรงงานต่างชาติที่มีฝีมือ จึงนับเป็นโอกาสอันดีของไทยในการเจรจาขอปรับเงื่อนไขการเข้ามาทำงานในประเทศออสเตรเลียสำหรับแรงงานต่างชาติภายใต้วีซ่าประเภท 475 เช่น เงื่อนไขทางทักษะด้านภาษาอังกฤษ ที่กำหนดให้ต้องผ่าน IELTS ระดับ 5 ในทุกทักษะ ซึ่งที่ผ่านมาเป็นอุปสรรคสำคัญของแรงงานไทยที่มีฝีมือ โดยเฉพาะเชฟ (chef)

สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ นครซิดนีย์

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ