นโยบายปรับภาษีสินค้านำเข้าของจีนปี 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 16, 2012 11:11 —กรมส่งเสริมการส่งออก

นโยบายปรับภาษีสินค้านำเข้าของจีนปี 2555

การปรับลดภาษีสินค้านำเข้าของจีน

กระทรวงการคลังของประเทศจีนเปิดเผยว่า ทางรัฐบาลจีนได้เริ่มดำเนินนโยบายปรับลดภาษีนำเข้า — ส่งออกชั่วคราวของสินค้าจำนวน 8,194 รายการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นมา โดยกระทรวงการคลังของจีน จะมีนโยบายการปรับภาษีหรือยกเลิกภาษีนำเข้าเป็นการชั่วคราวให้กับสินค้าบางรายการเพื่อตอบสนองอุปสงค์และอุปทานตลาดในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง ทั้งนี้จีนได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้เมื่อครั้งที่จีนเข้าเป็นประเทศสมาชิกขององค์การการค้าโลกเกี่ยวกับการลดอัตราภาษีศุลกากรให้ต่ำลง

ในปี 2555 รัฐบาลจีนได้ปรับลดภาษีนำเข้าชั่วคราวของสินค้ามากกว่า 730 ชนิด คิดเป็นอัตราภาษีเฉลี่ยร้อยละ 4.4 โดยสามารถแบ่งกลุ่มสินค้านำเข้าหลักได้ดังนี้

1.สินค้าทรัพยากรพลังงาน เช่น ถ่านหิน ถ่านโค้ก น้ำมันสำเร็จรูป หินอ่อน และโลหะแรร์เอิร์ธ เป็นต้น

2.อุปกรณ์และชิ้นส่วนประกอบในการผลิตสินค้าระดับไฮเอนด์ สินค้าไอที เช่นแม่พิมพ์ที่มีความยืดหยุ่น ชุดหูฟังไร้สาย โปรเจคเตอร์ดิจิตอล และรถยนต์พลังงานรูปแบบใหม่ เช่น เครื่องทอผ้าพลังไอน้ำ และสายส่งไฟฟ้าแรงดันสูง เป็นต้น

3.สินค้าที่ใช้ในเกษตรกรรม เช่น รถแทรกเตอร์ขนาดแรงม้า เครื่องเก็บเกี่ยวขนาดใหญ่ ยาปราบศัตรูพืช ปุ๋ยเคมี และอาหารสัตว์เป็นต้น

4.สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องแช่แข็งอาหารทะล นมผงสำหรับทารก อาหารเด็ก ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว น้ำยาดัดผม อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือน เป็นต้น

5.สินค้าที่เกี่ยวข้องกับสาธารณะสุข เช่น วัคซีนป้องกันโรค เซรุ่ม แผ่นฟิลม์เอ๊กซเรย์ เป็นต้น

นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์บางส่วนที่ผลิตจากประเทศในกลุ่มอาเซียน ชิลี ปากีสถาน นิวซีแลนด์ เปรู คอสตาริกา เกาหลีใต้ อินเดีย ศรีลังกา บังคลาเทศ และประเทศอื่นๆ จะเก็บภาษีตามที่ได้ตกลง โดยได้เพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น และปรับลดอัตราภาษีลง ทางการจีนยังได้กำหนดให้สินค้าบางส่วนที่มีแหล่งกำเนิดหรือฐานการผลิต มาจาก ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน สามารถนำเข้าโดยปลอดภาษีนำเข้าและสินค้าที่ผลิตจากประเทศด้อยพัฒนา เช่น ลาว ซูดาน เยเมน และอื่นๆ รวม 40 ประเทศ จะจัดเก็บภาษีอัตราพิเศษ

สำหรับสินค้าทรัพยากรธรรมชาติที่สิ้นเปลืองพลังงาน และก่อให้เกิดมลภาวะประเภทถ่านหิน น้ำมันดิบ ปุ๋ยเคมี เป็นต้น รัฐบาลจีนอาจจะมีการกำหนดนโยบายการจัดเก็บภาษีส่งออก ซึ่งอยู่ในรูปแบบของอัตราภาษีชั่วคราว ทั้งนี้เพื่อผลักดันให้เกิดการประหยัดทรัพยากร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

จีนยังคงใช้โควต้าภาษีสำหรับการนำเข้าสินค้าเกษตรกรรม

กระทรวงการคลังของประเทศจีนกล่าวว่า ในปี 2555 จีนจะยังคงใช้โควตาภาษีสำหรับการนำเข้าสินค้าเกษตร 7 ประเภท (ข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าวเปลือก ข้าวสาร น้ำตาล ขนแกะ เส้นใยขนสัตว์) รวมไปถึงฝ้าย และส่วนการจัดเก็บภาษีชั่วคราวของปุ๋ยเคมี 3 ชนิด (DAP, NPK และยูเรีย)ยังคงอยู่ที่ร้อยละ 1

ผู้ประกอบการที่จะนำเข้าสินค้าเกษตรที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น จำเป็นที่จะต้องสมัครโควตาภาษีนำเข้าสินค้าเกษตร และใช้ใบอนุญาตโควตาภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรในการผ่านพิธีศุลกากร

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้กำหนดเงื่อนไขของบริษัทที่มีสิทธิ์ยื่นขอโควตานำเข้าธัญญาหารในปี พ.ศ. 2555 ว่าต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

1) ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจ

2) ต้องเป็นนิติบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นองค์กรการคลังสินค้าของรัฐ

3) ต้องเป็นนิติบุคคลที่มีผลงานในการนำเข้าในปี พ.ศ. 2554

4) ต้องเป็นนิติบุคคลประเภทค้าส่งและค้าปลีกธัญพืชที่มียอดการจำหน่ายมากกว่า 100 ล้านหยวน

5) ต้องเป็นนิติบุคคลที่มีมูลค่าการนำเข้าและส่งออกธัญพืชมากกว่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

6) หากเป็นนิติบุคคลที่ไม่มีการนำเข้าในปี พ.ศ. 2554 แต่มีใบอนุญาตนำเข้าและส่งออกแล้ว สามารถขอ Processing Trade Business Approval Certificate และ Processing Trade Production Capacity Certificate จากหน่วยงานพาณิชย์ในท้องถิ่น

โอกาสของผู้ประกอบการไทยอยู่ ณ จุดไหน

จากสถิติของกรมศุลกากรจีน ระบุว่าสถานการณ์การนำเข้าสินค้าเกษตรของประเทศจีนในปี 2554 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตร มากถึง 94,870 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 30.8% โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรกรรมหลักที่ไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ อาทิ ข้าว ที่มีมูลค่าการนำเข้า เพิ่มขึ้น 54% และน้ำตาลที่มีปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้น 60% ซึ่งสินค้าเหล่านี้ยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าเกษตร 7 อย่างของจีนที่อยู่ในกรอบการใช้โควต้าภาษีนำเข้า

หากพิจารณาการขยายตัวและความต้องการและระดับปริมาณอาหารสำรองของจีนที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลจากการใช้ธัญพืชเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตเอธานอลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงคาดว่าการนำเข้าธัญพืชของประเทศจีนจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ทั้งนี้แหล่งนำเข้าธัญพืชที่สำคัญของประเทศจีนในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ ประเทศไทยและเวียดนาม

ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งออกสินค้าต่างๆไปยังประเทศจีนควรศึกษาและทำความเข้าใจต่อนโยบายปรับภาษีต่างๆของรัฐบาลจีน เนื่องจากการปรับลดอัตราภาษีนำเข้าชั่วคราวของสินค้าประเภทต่างๆ อาจส่งผลให้ราคาของสินค้าเหล่านั้นมีการปรับลดได้ในอนาคต อีกทั้งการปรับลดภาษีนำเข้าของสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดมาจากกลุ่มประเทศอาเซียน รวมไปถึงสินค้าเกษตรหลักที่ไทยส่งออกไปยังประเทศจีน อาทิ ข้าวและน้ำตาล ข้าวโพด อยู่ในกรอบการใช้โควต้าภาษีนำเข้า ซึ่งนโยบายเหล่านี้ช่วยลดต้นทุนในการส่งออกให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน

ที่มา : 1. http://www.newbusiness.cn

2..http://www.app.gov.cn

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน

มีนาคม 2555


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ