ราคาน้ำมันจีนพุ่ง 8 มีแน้วโน้มจะสูงมากกว่า 9 หยวน
จีนได้ปรับราคาน้ำมันสูงขึ้น 600 หยวนต่อตัน
วันที่ 19 มีนาคม 2555 คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) ซึ่งเป็นหน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจของจีน ได้แถลงข่าวจะขึ้นราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลอีก 600 หยวน (ราว 95 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อตัน มีผลตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมนี้เป็นต้นไป การประกาศขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลเพิ่งตัดสินใจขึ้นราคาน้ำมันเบนซินและดีเซล 300 หยวนต่อตันไปเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา และยังเป็นการเพิ่มราคาน้ำมันมากที่สุดใน 33 เดือนที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดิบสากลได้พุ่งขึ้นกว่า 10% นับตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา จึงเป็นสาเหตุหลักที่จีนได้ปรับขึ้นราคาน้ำมัน การปรับขึ้นราคาดังกล่าวจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นอีกลิตรละ 0.44 หยวนและน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.51 หยวนต่อลิตร จึงพุ่งสูงกว่า 8 หยวนต่อลิตร และสถานการณ์ปัจจุบันนี้ยังมีแนวโน้มจะสูงขึ้นมากกว่า 9 หยวนต่อลิตรอีกด้วย
ตารางแสดงราคาน้ำมันในแต่ละเมืองหลังจากการขึ้นราคาน้ำมัน หน่วย: หยวน
น้ำมัน น้ำมันเบนซิน #90 น้ำมันเบนซิน #93 น้ำมันเบนซิน #97 น้ำมันดีเซล
Beijing -- 8.33 8.87 8.31
Shanghai -- 8.21 8.69 8.2
Fujian 7.4 8.03 8.47 7.92
Guangdong 7.61 8.17 8.81 8.03
(วันที่ 7 เมษายน 2555)
น้ำมันที่สูงขึ้นเป็นอุปสรรคของพวกมนุษย์เงินเดือนและอยากจะซื้อรถ
ราคาน้ำมันสูงขึ้น ไม่ได้เป็นแค่ตัวเลขเท่านั้น แต่เป็นปัจจัยที่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชนอีกด้วย ตลาดแรกที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือตลาดรถยนต์
ปี 2554 ตลาดรถยนต์ได้พัฒนาอย่างชะลอตัว การจำหน่ายรถยนต์แค่เติบโตร้อยละ 2.50 และไม่มีแนวโน้มจะเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีนี้อีกด้วย ปี 2555 จะเป็นปีที่ยากลำบากปีหนึ่งสำหรับตลาดรถยนต์ ยิ่งในต้นปีนี้ ประเทศจีนได้ปรับราคาน้ำมันสูงขึ้นสองครั้ง ซึ่งเป็นภาระของผู้มีรถที่ต้องเสียค่าน้ำมันเพิ่มขึ้นไม่น้อย สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนซื้อรถยนต์ ก็ไม่กล้ารีบร้อนในการซื้อรถ เนื่องจากกลัว“ซื้อรถได้ แต่เลี้ยงไม่ไหว” ณ ปัจจุบันนี้ ปัญหาที่จอดรถหายาก น้ำมันราคาสูง เป็นปัญหาน่าหนักใจของผู้ที่วางแผนจะซื้อรถในเร็วๆ นี้ และราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้นต่อไป ทำให้หลายคนยังไม่กล้าซื้อรถ จึงส่งผลให้กับการจำหน่ายของตลาดรถยนต์ด้วย ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ยิ่งอยู่ในสภาพที่ยากลำบากอีก
แต่บางคนมีความคิดเห็นว่า ด้วยชีวิตความเป็นอยู่ได้ยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ รถที่เป็นของใช้ประจำวันและได้แสดงให้เห็นถึงฐานะ ฉะนั้น ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันจะสูงเท่าไหร่ พลเมืองย่อมซื้อรถแน่นอน รออีกระยะหนึ่ง ซึ่งพลเมืองได้ยอมรับและทำใจได้แล้ว ราคาน้ำมันที่สูงจะไม่เป็นอุปสรรคของการซื้อรถแน่นอน นอกจากนี้ น้ำมันที่ราคาสูง จะเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันบริษัทผลิตรถยนต์ผลิตรถประหยัดพลังงาน และจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาของอุตสาหกรรมรถยนต์อีกด้วย
น้ำมันที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อCPI
สำหรับบุคลที่ไม่มีรถ มักจะคิดว่า ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันจะสูงเท่าไหร่ มันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวเราเอง แต่จริงๆ แล้ว มันเกี่ยวข้องด้วย
น้ำมันปรับราคาสูงขึ้น ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากอีกวงการคือโลจิสติกส์ สำหรับรถที่ขนส่งสินค้าทุกๆ วัน น้ำมันที่ราคาสูงกว่า 8 หยวนจะทำให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้นเดือนละสองสามพันขึ้นไป ทำให้พวกเขาต้องปรับราคาการขนส่งสูงขึ้น และได้สะท้อนในราคาสินค้าที่สูงขึ้นด้วย โดยเฉพาะสินค้าอาหารสดที่ต้องมีการซื้อขายกันทุกวัน
ในปัจจุบันนี้ น้ำมันสำเร็จรูปของจีนมีร้อยละ 60 ใช้ในด้านคมนาคมการขนส่ง ราคาน้ำมันสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อค่าโดยสารรถประจำทางสาธารณะ รถไฟ รถแท็คซี ค่าโดยสารเครื่องบิน เป็นต้น และสะท้อนให้เห็นในค่าเดินทาง และราคาสินค้าที่สูงขึ้น เช่น เมืองเซี่ยเหมินได้ปรับเงินเก็บเพิ่มจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ( Bunker surcharge) ให้เป็น 3 หยวนตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ขึ้นไป แต่เดิม ค่าแท็กซี่ของเมืองเซี่ยเหมินจะเก็บเงินเพิ่ม 1 หยวนในกรณีระยะทางไม่ถึง 3 กิโลเมตร และเก็บเงินเพิ่ม 2 หยวนในกรณีระยะยาวสูงกว่า 3 กิโลเมตร เนื่องจากราคาน้ำมันสูงขึ้น ค่าแท็กซี่ก็ได้ปรับสูงขึ้นไปด้วย ให้คิดค่าเงินเก็บเพิ่มเป็น 3 หยวนเท่ากัน นั่นก็หมายความว่า ในกรณีระยะทางไม่ถึง 3 กิโลเมตร ค่าแท็กซี่จะเป็น 11 หยวน ในกรณีระยะทางสูงกว่า 3 กิโลเมตร ค่าแท็กซี่จะเป็นค่ามิเตอร์เวลาบวกค่าเงินเก็บเพิ่มอีก 3 หยวน
เมื่อราคาสินค้า ค่าคมนาคม ค่าขนส่งที่สูงขึ้น ย่อมส่งผลให้ผลักดัน CPI ปรับสูงขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าน้ำมันราคาสูงจะส่งผลกระทบต่อหลายๆ ด้านก็จริง แต่ก็ได้เป็นเรื่องที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ พวกเรามีแต่ทำใจและพยายามหาวิธีประหยัดเงิน เพื่อรองรับราคาสินค้าที่สูงขึ้นทุกวัน
ที่มา http://theory.people.com.cn/GB/17503792.html
http://auto.163.com/12/0326/07/7TGMKH8R00084TV6.html
http://www.fjsen.com/d/2012-03/27/content_8083482.htm
http://news.gd.sina.com.cn/news/20120326/1265041.html
เรียบเรียงโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน
เดือนเมษายน พ.ศ. 2555