สรุปสถานการณ์ตลาดสัตว์เลี้ยงสหรัฐฯ

สรุปสถานการณ์ตลาดสัตว์เลี้ยงสหรัฐฯ

จากรายงานการสำรวจผู้บริโภคและตลาดการค้าสินค้าสัตว์เลี้ยงทั่วสหรัฐฯในปี ๒๐๑๑ - ๒๐๑๒ ของหลายองค์กรเช่น American Pet Produtcs Association (APPA), Packaged Facts, Pet Industry 2012 Strategic Outlook และ Pet Stores in the U.S. สรุปสาระสำคัญได้ว่า

๑. ในสภาวการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯปัจจุบัน อุตสาหกรรมการค้าสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงยังคงดำเนินไปอย่างเข้ม

แข็งกว่าอุตสาหกรรมค้าปลีกอื่นๆและมีแนวโน้มของการขยายตัวใน อนาคตที่จะดำเนินไปพร้อมๆกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

ระดับความเร็วของการขยายตัวของตลาดจะเป็นไปอย่างช้าๆสอดคล้องกับระดับความเร็วของการฟื้นตัวของสภาวเศรษฐกิจโดยรวม

๒. เงื่อนไขสำคัญที่เป็นตัวสนับสนุนการขยายตัวของตลาดคือ (ก) ลักษณะประชากรสหรัฐฯที่มีแนวโน้มว่าผู้บริโภคสูงอายุจะเป็นกลุ่มที่มี

จำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ (ข) ทัศนคติปัจจุบันของผู้บริโภคสหรัฐฯที่มองว่าสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกันกับมนุษย์และเป็นสมาชิก

ของครอบครัวที่ต้องดูแลอย่างดี

๓. ตลาดการบริโภคที่ใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯสองอันดับแรกคือ (ก) ตลาดบริโภคหลักของสินค้าสัตว์เลี้ยงคือกลุ่ม

ผู้บริโภคอายุระหว่าง ๔๕ - ๕๔ ปี ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีรายได้ที่มั่นคงสำหรับการใช้จ่ายและจะเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนแก้เหงาแทนลูกหลาน

ที่โตแล้วและแยกตัวออกไปจากบ้าน (ข) รองลงมาคือ ผู้บริโภคอายุระหว่าง ๓๕ - ๔๔ ปี ผู้บริโภคกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนทำงาน มีราย

ได้สำหรับการใช้จ่ายและมีลูกเล็กอยู่ในบ้าน ผู้บริโภคกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะหาซื้อสัตว์เลี้ยงให้ลูก การใช้จ่ายของผู้บริโภคสองกลุ่มนี้รวมกัน

เกินกว่าร้อยละ ๕๐ ของตลาดการบริโภคสัตว์เลี้ยงรวมทั้งสิ้นในสหรัฐฯ

๔. ในปี ๒๐๑๑ มูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงของสหรัฐฯ(รวมผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการ) เท่ากับ ๕๐.๙๖ พัน ล้านเหรียญฯ ประมาณการณ์ว่า

ในปี ๒๐๑๒ จะเท่ากับ ๕๒.๘๗ พันล้านเหรียญฯ

๕. ตลาดสัตว์เลี้ยงแยกออกเป็นตลาดย่อย เรียงตามลำดับมูลค่าตลาดคือ

               ประเภทของตลาด             มูลค่าตลาดในปี ๒๐๑๑     ประมาณการณ์มูลค่าตลาดปี
                                           (พันล้านเหรียญฯ)      ๒๐๑๒ (พันล้านเหรียญฯ)
ก ตลาดอาหารสัตว์                                ๑๙.๘๕                  ๒๐.๔๖
ข ตลาดการรักษาพยาบาลสัตว์                        ๑๓.๔๑                  ๑๓.๕๙
ค ตลาดอุปกรณ์ของใช้สำหรับสัตว์ รวมถึง                ๑๑.๗๗                  ๑๒.๕๖
  ยารักษาสัตว์ที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์
ง ตลาดการให้บริการ รวมถึงการตัดตกแต่ง               ๓.๗๙                   ๔.๑๑
  ขน การดูแลและให้ที่พักชั่วคราว การฝึก
  การพาไปออกกำลังกาย (เดิน) แม้กระทั่ง
  การทำกายภาพบำบัด เป็นต้น
จ ตลาดขายสัตว์สำหรับนำไปเลี้ยง                      ๒.๑๔                   ๒.๑๕

๖. ร้อยละ ๖๒ ของครัวเรือนสหรัฐฯรวมทั้งสิ้นหรือประมาณ ๗๒.๙ ล้านครัวเรือนเลี้ยงสัตว์เลี้ยง

๗. สัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเลี้ยงมากที่สุดคือ ปลาสวยงาม ร้อยละ ๔๐ ของผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯหรือประมาณ ๑๑.๙ ล้าน

ครัวเรือนเลี้ยงปลาน้ำจืดรวมทั้งสิ้นประมาณ ๑๕๑.๑ ล้านตัว และประมาณร้อยละ ๒.๓ หรือประมาณ ๐.๗ ครัวเรือนเลี้ยงปลาน้ำ

เค็มประมาณ ๘.๖๑ ล้านตัว

๘. สัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมรองลงมาจากคือแมวและสุนัข ประมาณร้อยละ ๒๒.๙ ของผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯเลี้ยงแมว ร้อยละ

๒๐.๗ เลี้ยงสุนัข ความต้องการสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัขและแมวมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคหลักในกลุ่มนี้คือผู้บริโภค

สูงอายุและผู้บริโภคที่เป็นโสด/อยู่คนเดียว

เหตุการณ์อาหารสัตว์จากจีนที่นำเข้าสหรัฐฯและเกิดเป็นพิษเนื่องจากมีส่วนผสมของเมลามีนส่งผลให้มีสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯเสียชีวิตไปหลายพันตัวในปี ๒๐๐๗ ส่งผลให้ตลาดอาหารสัตว์ที่เป็นอาหาร premium ขยายตัวอย่างรวดเร็ว อาหารสัตว์กลุ่มนี้รวมถึงอาหารที่เป็น natural ที่เป็น organic และที่เป็นอาหารสำหรับควบคุมน้ำหนัก (diet food)

ผลิตภัณฑ์สินค้าอาหารสำหรับสัตว์ในประเทศสหรัฐฯอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงาน USFDA และมีกฎระเบียบข้อบังคับในการผลิตเช่นเดียวกันกับสินค้าอาหารสำหรับมนุษย์

สินค้าหลักในร้านจำหน่ายสินค้าและบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ทำรายได้มากที่สุดคือสินค้าอุปกรณ์ของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยงและเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง มีประมาณการณ์ว่ารายได้จากการจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณร้อยละ ๒๗.๓

สัตว์เลี้ยงไม่ใช่เป็นสินค้าที่ทำรายได้และมีส่วนแบ่งในยอดจำหน่ายเพียงร้อยละ ๔.๕ สัตว์เลี้ยงที่มีวางจำหน่ายในร้านจำหน่ายสัตว์เลี้ยงที่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กเช่น นก หนูถีบจักร สัตว์เลื้อยคลาน และปลา ในขณะที่ร้านค้าปลีกที่เป็นธุรกิจขนาดเล็กจะมีประเภทของสัตว์เลี้ยงวางจำหน่ายมากกว่าทั้งสุนัข แมว นก ปลา สัตว์ตัวเล็กๆอื่นๆ เป็นต้น ปัจจุบันมีแนวโน้มว่าหลายๆเมืองและหลายๆรัฐมีการเคลื่อนไหวที่จะออกกฎหมายห้ามและ/หรือควบคุมการค้าสัตว์เลี้ยงในร้านค้าปลีกสินค้าสัตว์เลี้ยงในพื้นที่รับผิดชอบของตนด้วยเหตุผลข้ออ้างเรื่องการทารุณสัตว์เป็นสำคัญ

ตลาดการบริโภคสินค้าสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นและมีประชากรที่มีรายได้สูงอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก พื้นที่อื่นๆนอกเหนือจากนี้เป็นตลาดการบริโภคขนาดเล็ก พื้นที่ที่เป็นตลาดการบริโภคขนาดใหญ่ เรียงตามลำดับได้ดังนี้คือ (ก) เขตตะวันออกเฉียงใต้ ในพื้นที่นี้รัฐฟลอริด้ามีจำนวนร้านค้าปลีกมากที่สุด (ข) พื้นที่บนฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ในพื้นที่นี้รัฐแคลิฟอร์เนียมีจำนวนร้านค้าปลีกมากที่สุด (ค) เขตแอตแลนติกตอนกลาง ร้านค้าหนาแน่นมากที่สุดในรัฐนิวยอร์คและรัฐเพนซิลวาเนีย และ(ง) เขต Great Lake มีร้านค้าหนาแน่นมากที่สุดในรัฐอิลินอยส์

รายได้ของธุรกิจค้าปลีกสินค้าสัตว์เลี้ยงของสหรัฐฯเกือบจะทั้งหมดหรือประมาณร้อยละ ๗๐.๒ มาจากบริษัทธุรกิจเพียง ๔ รายคือ (ก) PetSmart, Inc. (ข) PETCO (ค) Pet Supplies Plus และ (ง) Pet Supermarket Inc. ประมาณร้อยละ ๖๕ ของยอดจำหน่ายปลีกรวมทั้งสิ้นของอุตสาหกรรมร้านค้าปลีกสินค้าสัตว์เลี้ยงของสหรัฐฯมาจากธุรกิจค้าปลีก ๒ บริษัทเท่านั้น ที่เหลือจะมาจากธุรกิจร้านค้าปลีกที่เป็น franchises ขนาดเล็กและธุรกิจแบบครอบครัว บริษัทธุรกิจสองรายใหญ่ของสหรัฐฯ คือ

๑.PetSmart, Inc., 19601 N. 27 th Avenue, Phoenix, AZ 85027, Tel: 623 580-6100, www.phx.corporate-

ir.net เป็นธุรกิจค้าปลีกสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง (รวมถึงปลาเลี้ยงทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม) ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ มีสาขาทั่วสหรัฐฯ

คานาดา และปัวโตริโก้ ประมาณ ๑,๒๓๒ สาขา ยอดจำหน่ายสินค้าและบริการในไตรมาสที่ ๔ ของปี ๒๐๑๑ ประมาณ ๑.๖ พันล้าน

เหรียญฯ ยอดจำหน่ายของทั้งปี ๒๐๑๑ ประมาณ ๖.๑ พันล้านเหรียญฯ มีประมาณการณ์ว่าในปี ๒๐๑๒ บริษัทฯมีส่วนแบ่งในตลาดการ

ค้าสินค้าและบริการสัตว์เลี้ยงประมาณร้อยละ ๔๔.๓

๒.PETCO Animal Supplies Inc. เป็นธุรกิจค้าปลีกสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง (รวมถึงปลาเลี้ยงน้ำจืดและน้ำเค็ม) ใหญ่เป็นอันดับสอง

ของสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นบริษัทส่วนบุคคลจึงไม่มีการเปิดเผยข้อมูลรายได้ และเป็นบริษัทเดียวที่มีสาขาอยู่ในทุกมลรัฐทั่วสหรัฐฯจำนวน

รวมทั้งสิ้นประมาณ ๑,๑๐๐ แห่ง ครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ ๒๐.๗

คู่แข่งของร้านค้าปลีกสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสินค้าอาหารสัตว์คือตลาด supermarket และ grocery ที่วางจำหน่ายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วยเช่นกัน ปัจจุบันตลาดค้าปลีก mass merchandise เช่น Costco และ Sam Club เริ่มเข้าสู่ตลาดสินค้าสัตว์เลี้ยงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนใหญ่ของสินค้าที่วางจำหน่ายในตลาดค้าปลีกมาจากการนำเข้าของธุรกิจในระดับของโรงงานผลิต ร้านค้าปลีกจะไม่ทำการนำเข้าด้วยตนเอง ข้อมูลสินค้านำเข้าสำหรับสัตว์เลี้ยงจะกระจายอยู่ในประเภทของสินค้าหลากหลายชนิด มีประมาณการณ์การนำเข้าสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงในปี ๒๐๑๑ ว่าเท่ากับ ๘๘๓ ล้านเหรียญฯ กฎหมายและกฎระเบียบ

สหรัฐฯมีกฎหมายและกฎระเบียบทั้งในระดับรัฐบาลกลาง รัฐบาลมลรัฐ และรัฐบาลระดับท้องถิ่น ที่ควบคุมการทำธุรกิจค้าสัตว์เลี้ยงที่ส่วนใหญ่จะเน้นไปถึงประเภทของสัตว์ที่ต้องห้ามไม่ให้นำเข้าสหรัฐฯ ไม่ให้นำเข้าในมลรัฐ หรือไม่ให้เข้าสู่ระบบการค้าในประเทศ ในมลรัฐ ในเมือง หรือการค้าระหว่างมลรัฐ กฎหมายควบคุมจำนวนสัตว์เลี้ยงที่แต่ละครัวเรือนสามารถมีอยู่ในครอบครอง กฎหมายความคุมการดูแลและการเลี้ยงดู กฎหมายควบคุมการทำธุรกิจค้าสัตว์ที่ในบางพื้นที่พยายามออกกฎหมายที่จะลดจำนวนธุรกิจค้าสัตว์ สัตว์เลี้ยงที่เป็นเป้าสำคัญของการถูกควบคุมคือสัตว์เลี้ยงได้รับความนิยมเลี้ยงมากที่สุดได้แก่สุนัข แมว และปลาสวยงาม งานแสดงสินค้า

วิธีที่ดีที่สุดในการเข้าถึงกลุ่มธุรกิจและผู้บริโภคในอุตสาหกรรมนี้ และเป็นวิธีที่จะได้ข้อมูลความเคลื่อนไหวของตลาด คือการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า งานแสดงสินค้าที่สำคัญที่สุดสำหรับนักธุรกิจในสหรัฐฯ มีอยู่สองงานคือ

๑. Global Pet Expo จัดโดย American Pet Products Association (APPA) และ Pet Industry Distributors

Association (PIDA) เป็นงานแสดงสินค้าประจำปีสำหรับนักธุรกิจในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของสหรัฐฯ กำหนด

จัดงานในปี ๒๐๑๓ ระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๒ กุมภาพันธ์ ที่ Orange County Convention Center, Orlando, FL ศึกษาข้อมูล

เพิ่มเติมได้ที่ www.globalpetexpo.org

๒. SuperZoo จัดโดย World Pet Association กำหนดจัดงานในปี ๒๐๑๒ ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๓ กันยายน ที่ Mandalay

Bay, Las Vegas, Nevada กำหนดจัดงานในปี ๒๐๑๓ ระหว่างวันที่ ๒๓ - ๒๕ กรกฏาคม ที่ Mandalay Bay, Las Vegas,

Nevada กำหนดจัดงานในปี ๒๐๑๔ ระหว่างวันที่ ๒๒ - ๒๔ กรกฏาคม ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.superzoo.org

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ นครลอสแอนเจลิส

๔ เมษายน 2555