วิกฤตเศรษฐกิจบีบญี่ปุ่นปรับแผนการผลิตรถยนต์ ไทยมีโอกาสโตมากขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 28, 2012 11:57 —กรมส่งเสริมการส่งออก

วิกฤตเศรษฐกิจบีบญี่ปุ่นปรับแผนการผลิตรถยนต์ ไทยมีโอกาสโตมากขึ้น

บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นสองบริษัท ได้แก่ บริษัทโตโยต้า และ บริษัทนิสสัน ได้ตัดสินใจที่จะลดปริมาณการผลิตรถยนต์ภายในประเทศลง เนื่องจากความต้องการภายในญี่ปุ่นที่ลดลง ประกอบกับการที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยทั้งสองบริษัทจะย้านฐานการผลิตบางส่วนจากในประเทศไปยังฐานการผลิตในต่างประเทศเช่น จีน บราซิล รัสเซีย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย

ทางบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โตโยต้าจะหยุดสายการผลิตหลักลงหนึ่งสายจากสามสาย โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะลดปริมาณการผลิตภายในประเทศลง 10% หรือราว 5 แสนคัน จากปริมาณ 3,600,000 คัน เหลือ 3,100,000 คัน และเปลี่ยนแปลงรูปแบบการผลิตครั้งสำคัญ การปรับลดปริมาณการผลิตดังกล่าวเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับแผนการผลิตของบริษัทในปี 2012 ที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตขึ้น 23% หรือ 3,400,000 คัน การประมาณการยอดการผลิตรถยนต์รวมของปี 2012 อยู่ที่ 8,650,000 คัน โดยเป็นปริมาณการผลิตจากภายนอกประเทศทั้งสิ้น 5,250,000 คัน

สำหรับการผลิตในโรงงานภายนอกประเทศบริษัทวางแผนจะกระตุ้นยอดการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 6,800,000 คัน โดยรวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 10 ล้านคัน ภายในระยะเวลา 3 ปี

ทั้งนี้ ทางบริษัทได้พัฒนาระบบการผลิตใหม่ที่ชื่อว่า Flexible Production System ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่มีความยืดหยุ่นสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้ด้วยการเพิ่มหรือลด ปริมาณการผลิตตามปริมาณความต้องการในตลาด โดยจะเริ่มใช้ที่สายการผลิตใหม่ของโตโยต้า ในภูมิภาคโทโฮคุ

นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมปี 2012 เป็นต้นไปบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ นิสสัน จะปิดสายการผลิตรถยนต์หลักภายในประเทศญี่ปุ่นลงหนึ่งสายจากสองสาย ที่จังหวัดคานากาว่า เพื่อเป็นการลดปริมาณการผลิตลง 15% กล่าวคือ จาก 1,350,000 คันต่อปี เหลือ 1,150,000 คัน โดยทางบริษัทจะยังคงรักษาปริมาณการผลิตภายในประเทศญี่ปุ่นไว้ไม่ต่ากว่า 1,000,000 คัน การปิดสายการผลิตครั้งนี้นับเป็นการปิดครั้งที่สอง จากการปิดสายการผลิตไปครั้งแรกเมื่อ 11 ปีก่อน

โดยรุ่นของรถยนต์ที่อยู่ภายใต้เครื่องหมายการค้า นิสสัน ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนปริมาณ สถานที่ และวิธีการผลิต อาทิ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น ลีฟ (Leaf) รถยนต์ขนาดเล็กรุ่น โน้ต (Note) จะมีการปรับปรุงครั้งสำคัญและจะย้ายฐานการผลิตไปยังโรงงานที่จังหวัดฟุกุโอกะ บนเกาะคิวชู ส่วนรถยนต์รุ่น ทีด้า (Tiida) จะเลิกการผลิตภายในประเทศทั้งหมด รถยนต์รุ่น ทีด้า ลาทิโอ ซีดาน (Tiida Latio Sedan) ได้ย้ายฐานการผลิตทั้งหมดไปยังประเทศไทย และในช่วงฤดูร้อนนี้คาดการณ์ว่าปริมาณการนาเข้ารถรุ่นดังกล่าวจากไทยจะมีจำนวน 1,000,000 คัน นับเป็นรถรุ่นที่สองที่ผลิตในประเทศไทยทั้งหมด ต่อจากรุ่น มาร์ช (March) นอกจากนี้รถยนต์รุ่น บลูเบิร์ด เซลฟี่ (Bluebird Sylphy) จะใช้วิธีการนำเข้าชิ้นส่วนทั้งหมดและประกอบในประเทศญี่ปุ่น

สำหรับสายการผลิตภายในประเทศที่ปิดลงไปนั้น จะใช้สำหรับการวิจัยรถ Eco-car รวมทั้งรถประเภทอื่นๆ โดยมีความพร้อมที่จะกลับมาผลิตได้อีกหากความต้องการภายในประเทศญี่ปุ่นสูงขึ้น ทางโรงงานอื่นๆภายในประเทศนั้นมีการปรับเปลี่ยนสินค้าที่จะผลิตเช่น โรงงานบนเกาะคิวชู จากที่เคยผลิตเพียงรถขนาดกลางและขนาดใหญ่ ก็เปลี่ยนมาผลิตรถทุกประเภท และ โรงงานในจังหวัดโทจิกิ หันมาผลิตเฉพาะรถุร่น อินฟินิตี้ (Infinity) เท่านั้น

การลดปริมาณการผลิตสร้างความกังวลให้กับพนักงานว่าอาจมีการปรับลงจำนวนพนักงานลง แต่ทางทั้งสองบริษัทยืนยันกับพนักงานภายในประเทศว่าว่าจะไม่มีการปลดพนักงานออก โดยทางบริษัทโตโยต้าได้ยื่นจดหมายต่อทางสหภาพแรงงานของญี่ปุ่นว่าจะไม่มีการปลดพนักงานออกเพียงแต่พนักงานบางคนอาจมีงานที่ต้องรับผิดชอบที่เปลี่ยนไป

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว

มิถุนายน 2555


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ