ตลาดผลิตภัณฑ์พลาสติกในสิงคโปร์

ตลาดผลิตภัณฑ์พลาสติกในสิงคโปร์

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์พลาสติกได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของชาวสิงคโปร์อย่างมาก จะเห็นได้จากผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ในครัวเรือน เช่น ถ้วย จาน ช้อน แก้ว ตระกร้า ถาด ถังน้ำ ถังขย ขันน้ำ กล่องบรรจุอาหาร เหยือกน้ำ ชั้นวางของ ขวดบรรจุน้ำ ถุง และกล่องที่มีลิ้นชักสำหรับเก็บของ เป็นต้น อีกทั้งลักษณะนิสัยชาวสิงคโปร์ที่นิยมบริโภคอาหารนอกบ้าน ทำให้ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กล่องบรรจุอาหาร ซึ่งร้านอาหารหรือภัตตาคารต่างๆ นิยมใช้บรรจุอาหารสำหรับลูกค้าที่ต้องการนำอาหารกลับบ้าน เป็นที่ต้องการมากขึ้น นอกจากนี้ ประชากรสิงคโปร์ส่วนใหญ่เกือบร้อยละ 70 พักอาศัยอยู่ในแฟลต ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ใช้สอย ดังนั้น ผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทกล่องที่มีลิ้นชักสำหรับเก็บอุปกรณ์ และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ จึงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากมีขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา สะดวกในการเคลื่อนย้าย และราคาถูก โดยสินค้าผลิตภัณฑ์พลาสติกส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศจีน สหรัฐฯ ไต้หวัน ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย เกาหลี ฮ่องกง และไทย (ส่วนแบ่งตลาดประมาณ 3.7%) ทั้งนี้ การนำเข้าได้เสรี ภาษีที่เรียกเก็บคือ ภาษีสินค้าและบริการ (Goods & Services Tax : GST) 7 %

อุตสาหกรรมพลาสติกในสิงคโปร์ ในปัจจุบันครอบคลุมถึงการผลิตสินค้า Polymer Materials (Natural and Synthetic Compounds) วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างอาคาร การขนส่งวัสดุขนาดใหญ่ และการบรรจุภัณฑ์ ทั้งนี้ สินค้าจะมีทั้งในระดับ High end อาทิ อุปกรณ์เกี่ยวกับ Aerospace อิเล็คทรอนิกส์ เครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ และระดับ Low end ได้แก่ สินค้าพลาสติกที่ใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ อุตสาหกรรมพลาสติกในสิงคโปร์ ได้รวมถึงสินค้าในสาขาต่างๆ ได้แก่ Biochemicals, Petrochemicals และ Ceramics

สมาคมสำคัญในสิงคโปร์ คือ Singapore Plastic Industry Association (SPIA) เป็นหน่วยงานการค้าที่ไม่มีผลกำไร จัดตั้งเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2532 ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 4 สมาคม ได้แก่ Singapore Plastics Manufacturers’ Association, Singapore Polythene Packaging Association, Singapore Plastic Mould & Moulding Manufacturers’ Association และ Singapore PVC Leather Goods Association โดยมีสมาชิกภายใต้ SPIA จำนวนกว่า 500 ราย ประกอบด้วยหน่วยงานนานาชาติ บริษัทขนาดใหญ่-กลาง และเล็ก รวมถึงบริษัทที่ดำเนินกิจการด้านการผลิตและจัดหาวัตถุดิบ เครื่องจักรและอุปกรณ์ และการบริการ โดยการผลิตสินค้าประเภทต่างๆ อาทิ Plastic Moulding, Plastic Extrusion, Plastic blowing และ PVC

การสนับสนุนจากภาครัฐสิงคโปร์ รัฐบาลสิงคโปร์ตระหนักเป็นอย่างดีว่าธุรกิจไม่สามารถพึ่งพาเฉพาะด้านการค้าขายและการผลิต จำเป็นต้องประกอบด้วยการค้นคว้าวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้อุตสาหกรรมในสิงคโปร์มีความอยู่รอดและก้าวหน้าต่อไป ดังนั้น ในปี 2544 Singapore’s Agency for Science, Technology and Reserch (A*STAR) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลเกี่ยวกับการค้นคว้าและวิจัย ได้เปิดตัวโปรแกรมสำหรับผลิตนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ที่จะค้นคว้าและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ โดยสนับสนุนเป็นทุนการศึกษาจำนวน 1,000 ทุน สำหรับคนสิงคโปร์ที่สนใจศึกษาต่อในระดับ PhD ในมหาวิทยาลัยชั้นนำนานาชาติ โดยให้ความสำคัญในสาขาหลักๆ เช่น Clinical Sciences, Genomics, Bioengineering, Molecular/cell Biology, Medical Biology ซึ่งจนถึงปัจจุบัน A*STAR ได้ให้ทุนการศึกษาจำนวน 800 ทุนแล้ว

ผลจากการสนับสนุนของ A*STAR มีความก้าวหน้าในการค้นคว้าวิจัยในด้าน Clinical Research ที่สำคัญ ได้แก่

1. การค้นคว้าวิจัยในการผลิต Plastic Microneedles ที่สามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ ด้วยวิธีการที่ง่ายและราคาถูก ใช้สำหรับ Injection and extraction ซึ่งการค้นคว้าวิจัยดังกล่าวได้รับความสนใจจากบริษัท Sumitomo Corporation Asia (Japanese Conglomerate) โดยจะร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัท Micropoint Technologies Pte. Ltd. เพื่อผลิต Microneedles เชิงพาณิชย์ที่จะออกจำหน่ายได้ภายใน 2 ปีข้างหน้า ทั้งนี้การจดทะเบียนใบอนุญาตเทคโนโลยีเป็นของบริษัท Exploit Technologies ภายใต้ A*STAR

2. การค้นคว้าวิจัยในการผลิต Plastic film ที่ความชื้นผ่านไม่ได้ ซึ่งการค้นคว้าดำเนินการโดย Institute of Materials Research and Engineering (IMRE) โดยได้พัฒนาสินค้า Plastic Film ที่ความชื้นผ่านไม่ได้ เป็นการพัฒนาที่จะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์พลาสติกในประเทศ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมแผนการของประเทศที่มีเป้าหมายให้เกิดความรู้ด้านอุตสาหกรรมใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจส่วนรวมของสิงคโปร์

การค้นคว้าดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พลาสติกที่มีความคงทนในระยะยาว ได้แก่ Solar Cells ที่มีส่วนประกอบของ Plastic Films เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมพลาสติก และทำให้สินค้าอิเล็คทรอนิกส์มีความยืดหยุ่น น้ำหนักเบาและราคาถูก (แทนการใช้ silicon electronics)

อนึ่ง อุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์พลาสติกทั่วโลก คาดว่า จะมีการเติบโตมากกว่า 23 พันล้านเหรียญ-สหรัฐฯ ภายใน 5 ปีข้างหน้า

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ สิงคโปร์

4 กรกฎาคม 2555