จากการที่กว่างซีมีชายแดนอยู่ติดกับเวียดนาม รัฐบาลจีนจึงกำหนดให้เป็น “ประตูสู่อาเซียน” และมีนโยบายส่งเสริมสนับสนุนต่างๆ จนทำให้ในระยะหลายปีที่ผ่านมา กว่างซีมีการพัฒนาเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดด ส่งผลให้ประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้น จากข้อมูลของกรมสถิติแห่งกว่างซีรายงานว่า ปี 2011 กว่างซีมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 12.3 การบริโภคสินค้าทั่วไป (เช่น เสื้อผ้า รถยนต์ เครื่องสำอาง และอัญมณี) สูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัญมณีและเครื่องประดับมีอัตราการเติบโตสูงสุด กล่าวคือ ร้อยละ 29.1 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่า อัญมณีและเครื่องประดับกำลังได้รับความนิยมสูงในตลาดนี้
ในระยะ 6 — 7 ปีที่แล้ว ผู้บริโภคในกว่างซีนิยมซื้อทองคำรูปพรรณ (และหยก) เนื่องในโอกาสแต่งงานและเทศกาลสำคัญๆ รวมทั้งซื้อทองคำแท่งเพื่อการเก็งกำไร ต่อมาหันมานิยมอัญมณีและเครื่องประดับที่หลากหลายมากขึ้น ได้แก่ เพชร ทองคำขาว และเงิน เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ ในอดีตผู้บริโภคซื้อเครื่องประดับโดยเน้นคุณภาพเป็นหลัก (เช่น สัดส่วนทองคำของทองรูปพรรณ) แต่ปัจจุบันจะพิจาณาถึงแบรนด์ การออกแบบ ความประณีต ฯลฯ อีกด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีมักนิยมซื้อเครื่องประดับที่ทำจากทองคำ ในขณะที่วัยรุ่นจะเลือกซื้ออัญมณีและเครื่องประดับประเภทอื่น (1) ส่วนรูปแบบโดยทั่วไปมักมีขนาดเล็กและเรียบๆ
จากการก่อตั้งเขตการค้าเสรีจีน — อาเซียนและการจัดงานแสดงสินค้า China — ASEAN Expo ส่งผลให้อัญมณีจากอาเซียนเริ่มเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น ทับทิม Pigeon’s Blood และไพลิน Royal Blue ของพม่า ทับทิมและไพลินของไทย ทับทิมของกัมพูชา อัญมณีและมุกของเวียดนาม รวมทั้งเครื่องเงินต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ฯลฯ ทำให้ผู้บริโภคให้ความสนใจกับอัญมณีจากกลุ่มอาเซียนเป็นอย่างมาก (2) นอกจากนี้ทัวร์มาลีน (Tourmaline) เริ่มเป็นที่สนใจของตลาดในกว่างซีเพิ่มขึ้นเช่นกัน
Mr.Yang Weihong ประธานสมาคมอัญมณีแห่งกว่างซี เห็นว่า กว่างซีมีศักยภาพสูงในการบริโภคอัญมณีและเครื่องประดับ นอกจากเกิดจากรายได้เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นเพราะภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีจีน — อาเซียน ทำให้ภาษีนำเข้าวัตถุดิบร้อยละ 90.0 ลดลงเหลือ 0 (จากเดิมร้อยละ 3.0 — 21.0) อีกทั้งกว่างซีอยู่ใกล้อาเซียน ทำให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นสนใจนำเข้าวัตถุดิบจากอาเซียนโดยตรง นอกจากนี้ จากกระแสนิยมอัญมณีและเครื่องประดับ ทำให้ปีที่ผ่านมา มีแรงงานในสาขาดังกล่าวประมาณ 100,000 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0 ในขณะที่ค่าจ้างแรงงานต่ำกว่ามณฑลกวางตุ้งร้อยละ 20.0 — 30.0
1. นครหนานหนิง มีประชากรประมาณ 7 ล้านคน เป็นเมืองเอกของกว่างซีที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ของกว่างซีแล้ว นครหนานหนิงมีการจำหน่ายอัญมณีและเครื่องประดับมากกว่า โดยมีแบรนด์ท้องถิ่น 2 แบรนด์ ได้แก่ Jinshans Shoushi และ Heping Zhubao ซึ่งเน้นการขายทองคำรูปพรรณที่นำเข้าจากเมืองเซินเจิ้นเป็นหลัก
ส่วนแบรนด์อื่นๆ ในตลาด ได้แก่ TSL, Chow Sang Sang, Kimberlite Diamond, Chou Tai Took, 3D-Gold, Lukfook, Chow Tai Seng ฯลฯ ทั้งนี้ อัญมณีและเครื่องประดับในนครหนานหนิงมีมาตรฐานและราคาที่ค่อนข้างมาตรฐาน สินค้าที่ได้รับความนิยมมากได้แก่ ทองคำขาว เพชร และทองคำ ส่วนทองคำแท่งนิยมซื้อเพื่อเก็งกำไร
2. เมืองกุ้ยหลิน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปเมืองกุ้ยหลิน โดยปี 2011 มีนักท่องเที่ยวรวม 27.9 ล้านคน (ชาวจีนและชาวต่างประเทศร้อยละ 89.1 และ 10.9 ตามลำดับ) ดังนั้นอัญมณีและเครื่องประดับระดับกลาง - ต่ำสำหรับนัก ท่องเที่ยวจึงครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด อันได้แก่ ไข่มุก หยก และคริสตัล โดยมีแบรนด์ ท้องถิ่น คือ Gaoxin นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ต่างถิ่น ได้แก่ Shuanghe และ Zhizun โดย Zhizun จำหน่ายสินค้าระดับกลางและ High-end หลายประเภท แต่ตลาดจำหน่ายอยู่ที่นครหนานหนิง
3. เมืองหลิ่วโจว มีประชากรประมาณ 3.7 ล้านคน มากเป็นอันดับ 2 รองจากนครหนานหนิง เมืองนี้ถือเป็นฐานอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดและมีขนาดเศรษฐกิจติดอันดับ 1 ของกว่างซี ประชากรของเมืองหลิ่วโจวจึงมีกำลังซื้อสูง อัญมณีและเครื่องประดับในเมืองนี้ส่วนใหญ่จำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้า โดยเป็นแบรนด์ฮ่องกงและต่างถิ่น เช่น TSL, Cho Tai Took, 3D-Gold, Lukfook ฯลฯ (3)
กว่างซีนอกจากได้ชื่อว่าเป็นมณฑลหนึ่งของจีนที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นสินแร่ต่างๆ แล้ว ยังเป็นแหล่งแร่อัญมณีอีกหลายประเภท อันได้แก่ ทัวร์มาลีน เพริดอต (Peridot) แอเมทิสต์ (Amethyst) โทแพซ (Topaz) (4) และไข่มุก
ปัจจุบัน โรงงานแปรรูปอัญมณีและเครื่องประดับในกว่างซียังมีจำนวนไม่มากนัก อัญมณีและเครื่องประดับที่จำหน่ายในตลาดร้อยละ 90.0 นำเข้าจากเมืองเซินเจิ้น (ซึ่งเป็นฐานการผลิตเพื่อการบริโภคภายในประเทศ) และฮ่องกง อย่างไรก็ดี กว่างซีเองก็มีการผลิตสินค้าในสาขาดังกล่าวบางชนิด ดังนี้
อัญมณีสังเคราะห์
ในช่วงก่อนปี 1988 อัญมณีสังเคราะห์ผลิตได้ที่ฮ่องกงและไต้หวัน ต่อมาทางการจีนมีนโยบายส่งเสริมให้เมืองอู๋โจว(Wuzhou) เป็นศูนย์การผลิตอัญมณีสังเคราะห์ ซึ่งผู้ลงทุนทั้งต่างชาติและชาวจีนจะได้รับสิทธิพิเศษในการลงทุน อุตสาหกรรมจึงมีการพัฒนาเทคนิคการผลิตมากขึ้น และต้นทุนต่ำ จนกลาย เป็นฐานการผลิตอัญมณีสังเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก อัญมณีสังเคราะห์ร้อยละ 40.0 ของโลกผลิตขึ้นที่เมืองนี้ โดยปี 2010 และ 2011 เมืองอู๋โจวมีกำลังการผลิต 8,000 และ 13,000 ล้านเม็ด ตามลำดับ (5)
อัญมณีสังเคราะห์ของเมืองอู๋โจวร้อยละ 95.0 เป็น Cubic Zirconia ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ขาวและสี โดยมีราคากิโลกรัมละ 300 — 320 และ 360 — 380 หยวนตามลำดับ
การส่งออกมักนิยม Cubic Zirconia สำเร็จรูปที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.00 — 5.00 MM ส่วนตลาดจีนนิยมขนาดเล็กว่า 1.00 MM หรือใหญ่กว่า 6.00 MM ในขณะที่ ประเทศในแถบยุโรปนิยมอัญมณีสังเคราะห์ที่ประกอบเป็นเครื่องประดับแล้ว และแถบเอเชียนิยมอัญมณีสังเคราะห์ที่ยังไม่ขึ้นตัวเรือน (6)
สินค้าอัญมณีที่เมืองอู๋โจวส่งออกนอกจากมีอัญมณีสังเคราะห์เป็นส่วนใหญ่แล้ว ยังมีเครื่อง - ประดับที่ทำจากเงินและจากอัญมณีธรรมชาติ โดยมีตลาดหลัก คือ ประเทศในแถบเอเซียและยุโรป รวมทั้งมีฮ่องกง(ซึ่งเป็นศูนย์รวมการซื้อขายเครื่องประดับอัญมณี 1 ใน 3 ของโลก)เป็นตลาดซื้อขายสำคัญที่สุด ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2012 เมืองอู๋โจวส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไปฮ่องกงมูลค่า 2.369 ล้านเหรียญฯ (+ ร้อยละ 29.7) หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 48.0 ของการส่งออกทั้งหมด และหลายปีที่ผ่านมา การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของเมืองนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2011 การส่งออกมีมูลค่าถึง 20.4 ล้านเหรียญฯ (7)
จากการพัฒนาอุตสาหกรรมอัญมณีสังเคราะห์ของเมืองอู๋โจวนี้ ทำให้เกิดการพัฒนาฝีมือแรงงานท้องถิ่น ซึ่งในอนาคตสามารถนำไปสู่การพัฒนาการเจียระไนพลอยสีได้ในที่สุด
ไข่มุก
ไข่มุกที่กว่างซีผลิตได้เป็นไข่มุกน้ำเค็ม ซึ่งมีแหล่งผลิตอยู่บริเวณท่าเรือน้ำลึก 2 ใน 3 แห่งของกว่างซี อันได้แก่ ท่าเรือเถี่ยซาน เมืองเป่ยไห่ และท่าเรือฝางเฉิงก่าง เมืองฝางเฉิงก่าง โดยมีฟาร์มเลี้ยงมุกประมาณ 2,000 แห่งกระจายอยู่ในพื้นที่ 60,000 หมู่ (1 หมู่ = 666.7 ตร.ม.) ในปี 2011 มีปริมาณการผลิตไข่มุกทั้งสิ้น 11 ตัน มูลค่า 157.7 ล้านเหรียญฯ ซึ่งส่วนใหญ่ค้าขายกันที่เมืองเป่ยไห่ ทำให้เมืองนี้กลายเป็นศูนย์กลางขายส่งและขายปลีกไข่มุกน้ำเค็มของจีนตอนใต้ ทั้งนี้ ไข่มุกที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ ไข่มุกที่เลี้ยงในแถบทะเลอำเภอเหอผู่ของเมืองเป่ยไห่ ซึ่งได้ชื่อว่า “เหอผู่หนานจู” เนื่องจากมีเนื้อละเอียด รูปทรงโค้งมนสวยงาม สีสันงดงามโดดเด่น และมีความคงทน ทำให้มีราคาสูง จึงมีการยอมรับให้เป็นสินค้าที่เป็น “สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication) แห่งประเทศจีน” (8)
อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมไข่มุกดังกล่าวมีการพัฒนาที่ล่าช้า เนื่องจาก
1. การแข่งขันภายในที่ไม่มีความเป็นระเบียบ กล่าวคือ จากการที่ไข่มุกเมืองเป่ยไห่มีราคาสูง ทำให้ผู้ประกอบการเร่งรัดระยะเวลาการเลี้ยงหอยมุกให้สั้นขึ้น ส่งผลให้คุณภาพด้อยลง นอกจากนี้ บางรายใช้ไข่มุกคุณภาพต่ำและแอบอ้างว่าเป็นไข่มุก “เหอผู่หนานจู” ซึ่งสร้างความสับสนให้กับผู้ซื้อ ตลอดจนกระทบต่อภาพลักษณ์ของไข่มุกเมืองเป่ยไห่
2. การแข่งขันภายนอกมีมากขึ้น กล่าวคือ แหล่งผลิตไข่มุกอื่นๆของจีน (เช่น เมืองเซินเจิ้น และกรุงปักกิ่ง) ต่างได้เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมไข่มุกของตน โดยส่งเสริมการเพาะเลี้ยงหอยมุกบริเวณเมืองรอบข้างและก่อตั้งศูนย์ค้าขายไข่มุก รวมทั้งญี่ปุ่นได้ร่วมมือกับเวียดนามพัฒนาการค้าไข่มุก ทำให้ไข่มุกเมืองเป่ยไห่ต้องสูญเสียส่วนแบ่งตลาดไปบางส่วน (9)
แม้อัญมณีและเครื่องประดับของกว่างซีนำเข้าจากเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้งเป็นหลัก แต่มีบางส่วนนำเข้าจากต่างประเทศโดยตรง ดังนี้
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
รายการ 2009 2010 2011 2012 HS (มค.-พค.) 7103 Precious and 0.195 0.715 0.07 0.627 semiprecious stones (- 64.9) (+ 266.7) (- 90.2) (+ 1,018.1) (no diamonds) 7106 Silver (including 0.16 1.21 1.464 0.32 silver plated with (+ 656.3) (+ 21.0) (- 44.9) gold or platinum), unwrought or …. 7104 Synthetic or 0.584 0.105 0.083 0.103 reconstructed (+ 52.1) (- 82.0) (- 20.8) (+ 25.8) precious or semiprecious stone 7116 Articles of natural - 0.158 0.001 0.021 orcultured pearls, 0 (- 99.7) (+ 3,930.2) precious or semi- precious stone 7117 Imitation jewelry 0.02 0.014 0.002 0.00002 (- 70.6) (- 30.0) (- 84.5) (- 99.1) 7101 Pearls, natural or 0.379 0.45 0.363 - Cultured (- 7.3) (+ 18.7) (- 19.4) 7113 Articles of jewelry - 0.03 - - and parts thereof, of 0 precious metal or of metal clad with precious metalโดยมีแหล่งนำเข้าของสินค้าแต่ละรายการดังนี้
โดยมีตลาดส่งออกของสินค้าแต่ละรายการ ดังนี้