1. ในเยอรมนีมีจำนวนบุคลากรที่เกี่ยวข้องในด้านดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วย คนไข้เป็นจำนวนกว่า 4.5 ล้านคน โดยจำนวนบุคลากรเหล่านี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยปีละ 30,000 — 40,000 คน สืบเนื่องจากจำนวนคนชรา ผู้สูงอายุ (อายุเกิน 65 ปีขึ้นไป) ในประเทศที่ปัจจุบันมีประมาณ 1.5 ล้านคนจะเพิ่มอีก 1 เท่าในช่วง 10 — 20 ปีข้างหน้านี้ นอกจากนี้แนวความคิดเรื่องการดูแล รักษาสุขภาพตนเองให้สมบูรณ์ ไม่เจ็บป่วยมีเพิ่มมากขึ้น ทำให้ธุรกิจและบุคลากรที่เกี่ยวข้องต้องขยายตัวเพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาด
2. เกี่ยวกับการดูแล ช่วยเหลือ ตลอดจนการคุ้มครองประชากรมิให้เจ็บไข้ได้ป่วย หรือเมื่อเจ็บป่วยก็ไม่ต้องเป็นที่เดือดร้อน เกิดปัญหาใดๆจึงได้มีการจัดตั้งระบบประกันสังคมขึ้นมา ซึ่งในเยอรมนีมีระบบสวัสดิการสังคมสืบทอดต่อเนื่องกันมานานกว่า 100 ปี โดยได้มีการปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพวะและสถานการณ์มาโดยตลอด ปัจจุบันประกอบด้วย
- ประกันสุขภาพ (Krankenversicherung)
- ประกันการว่างงาน (Arbeitslose Versicherung)
- ประกันการเกษียรอายุ (Renteversicherung)
- ประกันการดูแลเลี้ยงดู (Pflegeversicherung)
- ประกันอุบัติเหตุ (Unfallversicherung)
ซึ่งจะมีกฏหมายกำหนดให้ผู้ประกอบอาชีพทุกคนที่มีเงินเดือนรายได้เป็นประจำระหว่าง 401 — 3,600 ยูโร ต้องทำประกันสังคม และมีหน้าที่จ่ายเบี้ยประกันสังคมร่วมกับนายจ้างฝ่ายละครึ่งหนึ่ง ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าหรือสูงกว่าที่กำหนดสามารถทำประกันสังคมได้ด้วยความสมัครใจโดยสำนักงานประกันสุขภาพ (Krankenkasse) เป็นองค์กรที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลเกี่ยวกับการประกันสังคม ปัจจุบันมีจำนวน 210 กิจการ ดูแลผู้ทำประกันทั้งสิ้นประมาณ 70 ล้านคนเบี้ยประกันในปัจจุบันคิดเป็นอัตราร้อยละของเงินเดือน/รายได้สุทธิก่อนหักภาษีเงินได้ ดังนี้
- ประกันสุขภาพ 11.3 — 16.5 %
- ประกันการว่างงาน 3.30 %
- ประกันเกษียณอายุ 19.90 %
- ประกันการดูแลเลี้ยงดู 1.70 %
3. ในปี 2550 ที่ผ่านมานี้ เยอรมนีมีค่าใช้จ่ายในการดูแล รักษาสุขภาพเป็นมูลค่าประมาณ 234,000 ล้านยูโร หรือเฉลี่ยคนละ 2,710 ยูโรต่อปี ที่สำคัญๆ ดังนี้
- ค่าใช้จ่ายแพทย์ 65,000 ล้านยูโร
- การบำบัดพักฟื้น 70,000 ล้านยูโร
- ยาและเวชภัณฑ์ 60,000 ล้านยูโร
ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ สำนักงานประกันสุขภาพจะเป็นผู้จัดการจ่ายชำระแทนคนป่วยคนไข้ ในส่วนที่เกี่ยวกับการบำบัด การพักฟื้น ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายด้าน Spa/Wellness รวมอยู่ด้วย ที่ในแต่ละปีจะมียอดรายจ่ายโดยเฉลี่ยประมาณ 70,000 ล้านยูโร มีจำนวนคนงาน พนักงานที่เกี่ยวข้องประมาณ 1 — 1.2 ล้านคน
4. สถานประกอบการอื่นๆ นอกเหนือจากโรงพยาบาลและคลีนิคแพทย์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ (Spa & Wellness) เปิดบริการแพร่หลายทั่วประเทศ ได้แก่
4.1 Fitness studio จำนวนกว่า 6,000 แห่ง เป็นบริการที่นิยมใช้กันมาก ในปี 2550 มีสมาชิก 5.5 ล้านคนเพิ่มขึ้นจากปี 2549 ประมาณ 300,000 คน มีมูลค่าตลาดประมาณ 3,000 ล้านยูโร ค่าใช้จ่ายสำหรับ Fitness studio นี้ ไม่เกี่ยวกับการประกันสังคม ผู้ที่ใช้บริการจะต้องออกเอง ส่วนใหญ่สถานบริการเหล่านี้จะบังคับให้สมัครเป็นสมาชิกเสียค่าบำรุงรายเดือนประมาณ 30 — 50 ยูโร บริการที่ใช้จะเป็นด้าน medical ร้อยละ 83 และ ร้อยละ 63 เพื่อการออกกำลังกาย
4.2 สถานบริการเสริมความงาม ขัด นวดหน้า ทำเล็บ มีค่าใช้จ่ายต่อครั้งตั้งแต่ 30 ยูโรขึ้นไป ในเยอรมนีมีสถานบริการในส่วนนี้เป็นจำนวนกว่า 30,000 แห่ง
4.3 สถานพักฟื้น คลีนิคกายภาพบำบัด ค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำนักงานประกันสุขภาพจะเป็นผู้ออกให้ ตามความเห็นของแพทย์
5. กิจการที่ให้บริการด้าน Spa และ Wellness ส่วนใหญ่จะมีมากในท้องที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือมีธรรมชาติที่เหมาะสม เช่น ตามป่าเขา ริมทะเล หรือแหล่งที่มีบ่อโคลนบ่อน้ำร้อน เป็นต้น ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่สำนักงานประกันสุขภาพจะเป็นผู้ออกโดยเป็นไปตามความเห็นของแพทย์เช่นกัน อย่างไรก็ตามผู้ที่มีฐานะปานกลางและค่อนข้างดี ที่ประสงค์จะใช้บริการประเภทนี้สามารถใช้ได้โดยออกค่าใช้จ่ายเอง นอกจากค่าโรงแรมที่พักแล้วจะมีค่าใช้บริการตามปริมาณหรือประเภทของการให้บริการ ราคาระหว่าง 30 - 50 ยูโรต่อครั้ง ได้แก่
- การนวดทั้งตัว หรือบางส่วน
- การอบไอน้ำ อาบน้ำแร่
- ยิมนาสติกธรรมดาและในน้ำ
- การพอกตัว พอกหน้า
- การฝังเข็ม
การนวดที่แพร่หลายในเยอรมนีได้แก่ การนวดน้ำมัน ใช้เครื่องหอมต่างๆ แบบ Aryurveda การนวดแบบจีน และแบบไทย
6. สถานประกอบธุรกิจให้บริการประเภทกายภาพบำบัด การนวด รวมทั้ง Spa และ Wellness โดยทั่วไปผู้ให้บริการจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ มีคุณวุฒิ ผ่านการฝึกอบรม ฝึกงานตามที่กำหนดไว้เป็นมาตรฐานสำหรับอาชีพประเภทนี้ สำหรับการนวดแผนโบราณแบบไทยนั้น เป็นที่รู้จักดีของชาวเยอรมันที่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย และปัจจุบันมีการให้บริการประเภทนี้ในประเทศเยอรมนีแล้วและมีจำนวนสถานบริการเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ๆ เจ้าของสถานบริการเหล่านี้เป็นทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตามในหลายท้องที่บริการของไทยยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างถูกต้องของทางการเยอรมัน โดยเฉพาะจากสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพประเภทนี้ ซึ่งเห็นว่าการนวดแบบไทยเป็นการรักษาโรคผู้ประกอบการจึงต้องเป็นผู้ที่ผ่านการศึกษาตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ สำหรับค่าใช้จ่ายในสถานบริการเช่นนี้ จะขึ้นอยู่กับบริการที่ใช้ มีราคาตั้งแต่ 30 — 50 ยูโรขึ้นไป
นอกเหนือจากการใช้บริการในสถานที่ที่กล่าวถึงข้างต้นแล้ว ในเยอรมนียังมีการจัดทำเป็น Package Tour ตามโรงแรมต่างๆ เพื่อการท่องเที่ยวและการใช้บริการ Spa และ Wellness ผ่านบริษัททัวร์และกิจการท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วเยอรมนี โดยจัดเป็น Tour ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งในประเทศไทยด้วย ผู้ที่ใช้บริการประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีฐานะดี มีรายได้สูง สำหรับ Tour ภายในประเทศเยอรมนี นั้น โดยทั่วไปมีราคาค่าใช้จ่ายพร้อมที่พักประมาณ 150 ยูโรต่อวัน
7. สรุปและข้อเสนอแนะสำหรับผู้ประกอบการไทย
7.1 เยอรมนีมีประชากรกว่า 82 ล้านคน ในแต่ละปีมีคนป่วย คนไข้ที่ต้องพักฟื้นในสถานบำบัดเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านคน Spa และ Wellness รวมถึงการนวดตัวเป็นบริการประเภทหนึ่งในสถานบำบัด สถานบริการประเภทนี้ มีการให้บริการแพร่หลายทั่วประเทศและได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นมาโดยตลอด ปัจจุบันเยอรมนีมีสถานบำบัดพักฟื้นเช่นนี้เป็นจำนวนกว่า 1,300 แห่ง
7.2 ผู้ใช้บริการประเภทนี้เกือบทั้งหมดเป็นผู้ที่มีประกันสุขภาพ รายจ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสำนักงานประกันสุขภาพจะเป็นผู้ออกให้ทั้งหมด มีบ้างเล็กน้อยที่ผู้ใช้บริการ คนป่วยจะออกค่าใช้จ่ายกันเอง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีฐานะดี มีรายได้สูง
7.3 การนวดแผนโบราณ นวดน้ำมัน หรือสมุนไพรในเยอรมนีมีการให้บริการแพร่หลายเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ มีคุณวุฒิตามมาตรฐานของสมาคมอาชีพประเภทนี้ เป็นบริการที่เป็นที่รู้จักกันดีและได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2 — 3 ปีที่ผ่านมานี้
7.4 ในการจัดตั้งสถานประกอบการ Spa และ Wellness โดยคนไทยในปัจจุบันยังคงมีปัญหาและข้อจำกัด จะทำได้เมื่อผู้นั้นมีวีซ่าและใบอนุญาตให้ประกอบอาชีพเฉพาะธุรกิจบริการประเภทนี้ นอกจากนี้ ในบางท้องที่ยังจะต้องเจรจาทำความตกลงกับสมาคมอาชีพของเยอรมนีให้ยอมรับว่า การนวดของไทยมิใช่เป็นการรักษาโรคโดยตรงด้วย
7.5 อย่างไรก็ตาม อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า โดยทั่วไปธุรกิจ Spa และ Wellness ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอด แต่ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจซบเซา ถดถอย และยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาระค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียม ตลอดจนค่าภาษีอากรต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคให้ความสนใจบริการประเภทนี้ไม่มากเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่ราคาค่าบริการต่อครั้งไม่สูงมากนัก คือ ระหว่าง 25 — 50 ยูโร
7.6 ปัจจุบันการนวดแผนไทย โดยเฉพาะการนวดสมุนไพรได้รับความสนใจดีระดับหนึ่ง ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่รู้จักประเทศไทย และจากการที่ได้มีการเปิดโรงเรียนสอนวิธีการนวดแผนไทยโดยเฉพาะหลายแห่งในเยอรมนี ซึ่งเจ้าของกิจการเป็นทั้งคนไทยและชาวเยอรมัน ทำให้การนวดแผนไทยเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น และตามที่กล่าวข้างต้น การดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ ในด้านสุขภาพดำเนินการโดยสำนักงานประกันสุขภาพ การเจรจาโน้มน้าวให้สำนักงานฯ เหล่านี้ ตลอดจนสมาคมในเยอรมนีที่เกี่ยวข้อง ให้สนับสนุนและส่งเสริมการส่งผู้ป่วยและคนไข้ไปพักรักษาตัว พักฟื้น ตลอดจนการใช้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย ก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้การนวดแผนไทยแพร่หลายและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศฯ ณ กรุงเบอร์ลิน
Upload Date : 23 กรกฏาคม 2551
ที่มา: http://www.depthai.go.th