ชี้ช่องทางเจาะตลาดตุ๊กๆ ในอินเดีย

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 6, 2008 11:40 —กรมส่งเสริมการส่งออก

หลายวันก่อนบังเอิญเห็นโฆษณาสามล้อเครื่องของไทยแล้ว รู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมาก เพราะออกได้สวยบาดตาบาดใจวัยรุ่นเป็นอย่างมาก และอยากมีไว้ใช้สักคันไว้ขับแทนรถสปอร์ตยามที่เฟอรารี่คันโปรดต้องเข้าอู่ซ่อม พร้อมกับเกิดความคิดว่าหากไปขายอินเดียแล้ว คงจะต้องทำให้ตลาดสามล้อแขกกระเจิงแน่

อินเดียเป็นประเทศผู้ผลิตสามล้อเครื่องใหญ่ที่สุดในโลก สามล้ออินเดียเป็นที่นิยมมากเนื่องจากมีความคล่องตัวในการเดินทาง และไปได้เร็วกว่ารถทั่วไปในท้องถนนอินเดียที่มีการจราจรที่แออัดมาก (อันเนื่องมาจากมีเศรษฐีใหม่ที่รวยจากธุรกิจ Software หลายร้อยล้านคน ที่มักจะซื้อรถส่วนตัวเพื่อเป็นรางวัลกับชีวิต) โดยเป็นที่นิยมทั้งสามล้อโดยสาร (ในอินเดียเรียก Auto-rickshaws ส่วนสามล้อถีบเรียกว่า rickshaws) และสามล้อบรรทุก (มักเรียกว่า Tempo)

โดยทั่วไปแล้วสามล้อในอินเดียจะเป็นแบบใช้เบนซินและดีเซล ปัจจุบันรุ่นที่ใช้ก๊าซ CNG และ LPG ก็เป็นที่นิยมกันมากขึ้น เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นแบบสูบเดียว 4 จังหวะ โดยมีอัตราการใช้น้ำมันประมาณ 34-36 กิโลเมตร/ลิตร(ประมาณ 2.9 ลิตร/ 100 กิโลเมตรหากใช้น้ำมันเบนซินซึ่งประหยัดมาก ราคาตกประมาณคันละ 1 แสนถึง 3 แสนรูปีขึ้นอยู่กับขนาด

อุตสาหกรรมสามล้อเครื่องอินเดียเติบโตในเกณฑ์ที่สูงเฉี่ยปีละ 18% โดยในปี 2007 มีการผลิต 556,000 คัน เป็นการจำหน่ายในประเทศ 415,000 คัน ขยายตัวเฉลี่ย 16% ต่อปี โดยเป็นการผลิตเพื่อสนองความต้องการภายในประเทศเป็นหลัก นอกนั้นเป็นการส่งออกเพื่อตอบสนองความต้องการในตลาดเอเชียใต้ เช่น ปากีสถาน ศรีลังกาและบังคลาเทศ

จดทะเบียนยากไหม

การจะเบียนสามล้อเครื่องทำได้ง่ายมาก โดยให้ไปติดต่อจดทะเบียนได้ที่สำนักงานขนส่งประจำรัฐ (Regional Transport Office) ทั่วประเทศ ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนคือ 8%ของราคารถสามล้อ บวกกับค่าใบคำขอยื่นจดทะเบียน (application form) ราคา 200 รูปี ซึ่งขอได้ที่สำนักงานเดียวกัน ทั้งนี้อินเดียไม่มีการกีดกัน และไม่มีการกำหนดโควตาการนำเข้าสามล้อเครื่องจากต่างประเทศ

พิกัดภาษีศุลกากรและภาษีที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างไร

พิกัดภาษีศุลกากรสำหรับรถสามล้อเครื่องบรรทุกเป็น ดังนี้

รถสามล้อเครื่องบรรทุก (Three Wheeled Motor Vehicle) มี 2 ชนิด คือชนิดเบนซิน พิกัด H.S Code 87043120 และ ชนิดดีเซล พิกัด H.S. Code 87042120 ทั้งสองชนิดมีวิธีคำนวณภาษีเหมือนกัน คือ (1)ภาษีศุลกากรขาเข้า 10% ของราคา (2) ภาษี CVD 14% (3) ภาษีบำรุงการศึกษา 3% (4) ค่าธรรมเนียมพิเศษ (additional surcharge) 4%

สำหรับรถสามล้อโดยสาร พิกัดศุลกากรคือ H.S Code 87032220 ภาษีศุลกากรขาเข้าจะแพงกว่าแบบบรรทุก คือภาษีศุลกากรขาเข้า =100% ส่วนค่าภาษีอื่นๆ และค่าธรรมเนียมจะเท่ากับแบบบรรทุกเป็นที่น่าเสียดายว่ารถสามล้อเครื่องไม่ได้อยู่ภายใต้บัญชีการยกเว้นภาษีของ FTA อาเซียน-อินเดีย มิฉะนั้นแล้วบริษัทสามล้ออินเดียอาจต้องเจอคู่แข่งที่น่ากลัวจากไทย

ราคาสามล้อในตลาดอินเดียเป็นอย่างไร

ราคาจำหน่ายรถสามล้อเครื่องบรรทุกในอินเดียอยู่ระหว่าง1.5 — 3 แสนรูปีขึ้นอยู่กับขนาดของรถรถ สำหรับรถสามล้อแบบโดยสารจะย่อมเยากว่าประมาณ 8-9 หมื่นรูปี จึงไม่ขอแนะนำให้เจาะตลาดรถสามล้อรับจ้าง เพราะมีข้อจำกัดว่าต้องราคาถูก และประหยัดน้ำมันแบบสุดๆ ไม่เหมาะกับสินค้าของไทยที่คุณภาพสูง และมีการออกแบบหลากหลายกว่า เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของคนรุ่นใหม่ได้มากกว่า จึงน่าจะเจาะตลาดรถบรรทุกอเนกประสงค์ และตลาดเป้าหมายควรเป็นคนรุ่นใหม่วัย 30 ต้นๆ ที่ฐานะดีมีอาชีพการงานในบริษัท Software ในเมืองมุนไบ นิวเดลี เชนไน บังกะลอร์ และไฮเดอราบัดเป็นหลักนอกจากนั้น ก็เป็น SMEs ที่ต้องการรถอเนกประสงค์ที่ใช้งานก็ได้ ขับไปรับแฟนก็ดูดี

รัฐบาลอินเดียมีกฎหมายควบคุมที่เข้มงวดหรือไม่

ปัจจุบันยังไม่มีกฎระเบียบควบคุมเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อม และอื่นๆ สำหรับสามล้อเครื่อง ยกเว้น กรุงนิวเดลี มีกฎหมายซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2541 กำหนดให้รถบรรทุก รถโดยสาร และสามล้อเครื่องทุกชนิดต้องใช้ก๊าซ CNG และ LPG เท่านั้น เพื่อลดปัญหามลภาวะในเขตเมืองหลวง นอกจากนั้นรถสามล้อเครื่องจะต้องขอใบรับรองสภาพรถยนต์ (Road Fitness Certificate) มีอายุ 2 ปี ซึ่งจะต้องชำระค่าใบรับรองดังกล่าวเป็นเงิน 200 รูปี พร้อมกับค่าจดทะเบียนรถยนต์

มีการแข่งขันสูงไหม

ต้องยอมรับว่าตลาดนี้มีความน่าสนใจสูง เพราะมีการเติบโตถึง 18% ต่อปี ปัจจุบัน บริษัทสามล้อที่สำคัญในปัจจุบันคือ Bajaj (เป็นผู้นำตลาดและเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจมอเตอร์ไซค์ ), Mahindra & Mahindra , Piaggio, TVS, TATA, Volvo, Eicher และแม้แต่ฮอนดาก็มีแผนที่จะเข้ามาเล่นในตลาดนี้เช่นกัน การออกแบบสามล้อของอินเดียจัดได้ว่ายังห่างชั้นจากของไทยเป็นอย่างมาก

จะเริ่มทำตลาดในอินเดียอย่างไร

ผู้สนใจอาจเริ่มจากหาตัวแทนจำหน่ายในอินเดียก่อน ตัวแทนจำหน่ายในเมืองเชนไนที่อยากแนะนำคือ

Mr. Gerald

Gerald Motors

No.15, 4th Cross Street

Valeeshwaran Garden

Mandaveli

Chennai-600 028

Tel: 001-91-9382711563 (mobile)

E-mail:jmmotors2008@yahoo.co.in

ควรเจาะตลาดที่เมืองใดก่อน

ควรเริ่มต้นจากเมืองที่มีประชากรมาก เช่น มุมไบ นิวเดลี โกลกัตตา เชนไน บังกาลอร์ และไฮเดอราบัด เป็นต้น เนื่องจากเป็นเมืองที่ประชากรมีกำลังซื้อสูง โดยอาจเปิดตัวในงานแสดงสินค้า Thailand Exhibition ที่จัดขึ้นในเมืองดังกล่าวทุกปี ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดได้จากกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์

สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไน

Upload Date : พฤศจิกายน 2551

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ