1. ปัจจุบันมีสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริการวมทั้งสิ้น 19 แห่งที่ต้องปิดกิจการเนื่องจากมีหนี้เสียจากตราสารหนี้ที่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และนอกจากนี้ได้เริ่มมีปัญหากับหนี้สินที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ โดยระยะ 10 ปีที่ผ่านมานี้ เป็นวงเงินจำนวนกว่า 450,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในชั้นแรกคาดว่าปีหน้านี้ (พ.ศ. 2552) จะกลายเป็นหนี้เสียมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
2. ในส่วนของเยอรมนี ทางการได้จัดตั้งกองทุนพิเศษเพื่อช่วยเหลือสถาบันการเงินที่มีปัญหา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธนาคารของแคว้นที่รัฐบาลถือหุ้นไว้ด้วย ส่วนธนาคารเอกชน มี Commerzbank แห่งเดียวที่ต้องขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล เพราะความเสียหายที่เกิดจาก Lehmans Brothers และ การล้มละลายของประเทศไอซ์แลนด์เป็นวงเงินประมาณ 600 ล้านยูโร ในขณะที่ปีก่อนมีกำไรกว่า 230 ล้านยูโร เงินที่รัฐบาลให้กู้จะแบ่งออกเป็น 2 งวด รวมทั้งสิ้น 8,200 ล้านยูโร งวดแรกมีอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 8.5 และงวดที่ 2 ร้อยละ 5.5
3. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของเยอรมนียังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ถึงแม้ว่า ในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์จะเกิดปัญหาจากยอดการขายรถที่ถดถอยทำให้หลายโรงงานต้องลดหรือหยุดการผลิตชั่วคราว ได้แก่ Ford และ Opel ซึ่งเป็นกิจการลูกของบริษัทในสหรัฐฯ สำหรับรถยนต์ของเยอรมนี คือ Mercedes และ BMW ต้องลดปริมาณการผลิตด้วยเช่นกัน เพราะผลผลิตส่วนหนึ่งเป็นสินค้าส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันแทบจะไม่มีการซื้อรถใหม่ที่มีขนาดใหญ่ การซื้อส่วนใหญ่จะเป็นรถขนาดเล็ก
4. ในส่วนของตลาดการค้าทั่วๆ ไป ค่าใช้จ่ายในการครองชีพในช่วงนี้จะลดลง เพราะมีการลดราคาสินค้าอาหารบางชนิด โดยเฉพาะสินค้าประเภทนมและผลิตภัณฑ์ และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลือประมาณ 54 เหรียญสหรัฐ/บาเรลล์ ซึ่งลดลงกว่าร้อยละ 50 ทำให้ในภาพรวมจะมีการจับจ่ายซื้อสินค้ากันเป็นปกติ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย เพราะใกล้เทศกาลสำคัญประจำปี วันคริสมาสต์ ปีใหม่ นอกจากนี้ นายจ้างและลูกจ้างในแขนงอุตสาหกรรมแปรรูปโลหะที่มีจำนวนคนงานกว่า 3.6 ล้านคน สามารถเจรจาตกลงกันได้ โดยไม่ต้องสไตรค์ โดยเพิ่มเงินเดือนให้คนงานร้อยละ 4.2 ทำให้คาดว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีในปี 2551 นี้จะขยายตัวในอัตราร้อยละ 1.7 อย่างไรก็ตาม ในอุตสาหกรรมแขนงอื่นๆ จะมีการปลด ลดคนงานจำนวนมาก ได้แก่ Siemens Network เป็นจำนวนประมาณ 1,000 คน เป็นต้น
5. ตามรายงาน การคาดการณ์เศรษฐกิจเยอรมันล่วงหน้าพร้อมคำติชมและข้อเสนอแนะ โดยผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 ซึ่งจะทำการประเมินทุกปีในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ได้สรุปว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีในปี 2552 จะอยู่ที่ระดับ 0 หรือขยายตัวได้ที่อัตราร้อยละ 0.2 การบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวที่ร้อยละ 0.4 จำนวนคนว่างงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 3.3 ล้านคน ได้มีข้อเสนอให้รัฐบาลกู้ยืมเงินเพิ่มมากขึ้น เพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศ สร้างถนน ส่งเสริมด้านการศึกษาและการค้นคว้าวิจัย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศและมีส่วนช่วยให้จำนวนคนว่างงานลดน้อยลงกว่าที่คาดการณ์ได้
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศฯ เบอร์ลิน/แฟรงก์เฟริท
Upload Date : พฤศจิกายน 2551
ที่มา: http://www.depthai.go.th