1. ภาวะเศรษฐกิจของเยอรมนีในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายนยังคงดำเนินไปได้ด้วยดี อุตสาหกรรมแขนงต่างๆ ยังมีปัญหามากบ้าง น้อยบ้าง ที่มีมาก ได้แก่ ภาคการผลิตยานพาหนะ การแปรรูปโลหะและผลิตภัณฑ์ มีมูลค่าการผลิตลดลงระหว่างร้อยละ 20 - 35 เนื่องจากการสั่งซื้อจากต่างประเทศและในประเทศลดน้อยลงประมาณร้อยละ 3 — 5 ในด้านการค้าปลีก นั้น เนื่องจากสินค้าประเภทเชื้อเพลิงมีราคาที่ลดต่ำลงมากกว่าร้อยละ 20 ส่งผลให้ราคาสินค้าโดยรวมลดลง และทำให้อัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยร้อยละ 0.4 เป็นอัตราขยายตัวที่ต่ำสุดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
2. เนื่องจากมีการซื้อรถยนต์ใหม่ครบวงเงินตามมาตรการให้เงินชดเชยสำหรับการซื้อรถใหม่รวมทั้งสิ้น 1,500 ล้านยูโรหรือสำหรับรถ 600,000 คัน แล้ว รัฐบาลเยอรมัน จึงได้เพิ่มวงเงินให้อีกจำนวน 3,500 ล้านยูโร (หรืออีก 1.4 ล้านคัน) และอาจจะเพิ่มเวลาการซื้อไปจนถึงสิ้นปี 2552 นี้ อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมีความเห็นว่า มาตรการนี้จะไม่ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของเยอรมัน กระเตื้องขึ้นเท่าใดนัก เนื่องจาก รถใหม่ที่ซื้อเป็นของต่างชาติ โดยเฉพาะฝรั่งเศส และญี่ปุ่น มากกว่ารถเยอรมันที่มีราคาแพงกว่ามาก นอกจากนี้ การกำหนดให้ทำลายรถเก่าเป็นเศษเหล็กได้ทำให้เหล็กเก่าในตลาดมีปริมาณเพิ่มขึ้นมากผิดปกติอีกไม่น้อยกว่า 1 ล้านตัน และมีผลกระทบทำให้ราคาตลาดเหล็กเก่าลดลงมากจากเดิมตันละกว่า 100 ยูโรลดลงเหลือประมาณ 30 ยูโรต่อตัน นอกจากนี้ ธุรกิจอู่ซ่อมรถอิสระที่มีจำนวนหลายหมื่นกิจการจะต้องได้รับผลกระทบในช่วง 2 — 3 ปีข้างหน้านี้ เนื่องจากไม่มีรถเก่าให้ซ่อม และรถใหม่ต้องใช้บริการที่อู่ซ่อมที่อยู่ในเครือของผู้ขายรถเท่านั้น ทำให้ในระยะ 3 — 4 ปีข้างหน้านี้ในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ยังคงมีปัญหาไม่จบสิ้น นอกเหนือจากอุตสาหกรรมรถยนต์แล้ว ในอุตสาหกรรมแขนงอื่นๆ ยังคงมีปัญหาเช่นกัน เพราะขาดสภาพคล่องทางการเงิน ผู้ผลิตสินค้าสำคัญๆ ในประเทศเริ่มแจ้งกิจการล้มละลาย ได้แก่ ผู้ผลิตเครื่องกระเบื้อง Rosenthal รถไฟของเล่น Maerklin ผู้ผลิตชุดชั้นใน Schiesser ไปจนถึงห้างสรรพสินค้า Hertie และ Woolworth เยอรมัน เนื่องจากประสบการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้น ผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้าราคาถูกในร้าน Discounter หรือ ร้านค้าประเภท Superstore ตลอดจนสินค้านำเข้าจากต่างประเทศมากขึ้น
3. ในด้านการค้าส่ง ค้าปลีกในประเทศโดยรวมมีมูลค่าลดน้อยลงเล็กน้อย เนื่องจากมีการซื้อรถยนต์ และของใช้ เครื่องตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาสินค้าประเภทเชื้อเพลิงได้ลดลงมากด้วย นอกจากนี้แล้ว ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อเกิดปัญหาภาวะเศรษฐกิจซบเซา ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะเก็บตัวอยู่ที่บ้าน และนิยมที่จะตกแต่งบ้านให้สวยงาม น่าอยู่มากขึ้น ส่งผลให้มีการจับจ่ายซื้อของใช้ เครื่องตกแต่งบ้านกันมากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่มีราคาไม่แพง
4. ในด้านการค้าต่างประเทศ จากตัวเลขล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี ในช่วง 2 เดือนแรกปี 2552 การส่งออกและนำเข้าของเยอรมนีมีมูลค่าลดลงร้อยละ 11.4 และ 8.0 ตามลำดับ สินค้าส่งออกที่มีมูลค่าลดลง ได้แก่ ยานพาหนะ เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์โลหะ โดยมีมูลค่าลดลงระหว่างร้อยละ 25 - 35
5. วิกฤติเศรษฐกิจการเงินของสหรัฐได้สร้างความปั่นป่วนทางการเงินให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลกมากน้อยแตกต่างกันไป และเป็นปัญหาที่ไม่เหมือนกับเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา ทำให้การคาดการณ์ของสถาบันเศรษฐกิจต่างๆ ในเยอรมันมีความแตกต่างกันมาก แต่ก็ยังมีความเห็นที่ตรงกัน คือ เศรษฐกิจของเยอรมนีจะถดถอยในอัตราระหว่างร้อยละ 3 — 5 ในขณะที่ธนาคาร Commerzbank คาดการณ์ว่า จะลดลงกว่าร้อยละ 7
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน
ที่มา: http://www.depthai.go.th