สรุปภาวะการค้าระหว่างประเทศไทย - ไนจีเรีย ปี 2552 (ม.ค.—ก.พ.) สรุปจากสถิติ Menucom กรมส่งเสริมการส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 27, 2009 15:35 —กรมส่งเสริมการส่งออก

โครงสร้างสินค้าออกของไทยกับไนจีเรีย
มูลค่า : สัดส่วน % % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐ

สินค้าออกสำคัญทั้งสิ้น 121.40 100.00 128.22 สินค้าเกษตรกรรม 71.79 59.13 476.36 สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร 1.22 1.01 -7.84 สินค้าอุตสาหกรรม 48.39 39.86 23.07 สินค้าแร่และเชื้อเพลิง 0.0 0.0 -100.00 สินค้าอื่นๆ 0.0 0.0 0.0 โครงสร้างสินค้าเข้าของไทยกับไนจีเรีย มูลค่า : สัดส่วน % % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นำเข้าทั้งสิ้น 3.17 100.00 -32.92 สินค้าเชื้อเพลิง 0.0 0.0 สินค้าทุน 0.79 24.86 58,766.00 สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป 2.37 74.73 -49.72 สินค้าบริโภค 0.01 0.41 8.56 สินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง 0.0 0.0 -100.00 สินค้าอื่นๆ 0.0 -200.00 1. มูลค่าการค้า มูลค่าการนำเข้า ส่งออก และดุลการค้าของไทย - ไนจีเรีย 2551 2552 D/%

(ม.ค.-กพ.) ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่าการค้ารวม 57.92 124.57 115.07 การส่งออก 53.20 121.40 128.22 การนำเข้า 4.73 3.17 -32.92 ดุลการค้า 48.47 118.23 143.93 2. การนำเข้าประเทศไทยนำเข้าจากไนจีเรียเป็นอันดับที่ 76 มูลค่า 3.17 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ -32.92 สินค้านำเข้าสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ มูลค่า : สัดส่วน % % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่าการนำเข้ารวม 3.17 100.00 -32.92 1.สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะฯ 2.34 73.66 -46.71 2.เครื่องจักรกลส่วนประกอบ 0.79 24.85 4,000.00 3.เครื่องเพชรพลอย อัญมณีฯ 0.03 1.04 -42.67 4.ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่น ๆ 0.01 0.16 -43.96 5.เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด 0.0 0.15 176.63 อื่น ๆ 0.0 0.0 -100.00 3. การส่งออกประเทศไทยส่งออกไปไนจีเรียเป็น อันดับที่ 28 มูลค่า 121.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 128.2 สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ มูลค่า : สัดส่วน % % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่าการส่งออกรวม 121.40 100.00 128.20 1.ข้าว 71.79 59.13 478.14 2.เหล็ก เหล็กกล้าและฯ 9.44 7.78 407.07 3.รถยนต์ อุปกรณ์และฯ 8.06 6.64 71.03 4.เม็ดพลาสติก 5.99 4.93 -57.04 5.เครื่องปรับอากาศและฯ 5.92 4.88 246.14 อื่น ๆ 1.23 1.01 -66.94 4. ข้อสังเกต 4.1 สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปไนจีเรีย ปี 2552 (มค.-กพ.) ได้แก่

ข้าว : ไนจีเรียเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 1 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 — 2552 (มค.-กพ.)มีเพียงปี 2549 ปีเดียวที่มีอัตราการขยายตัวลดลง (-38.09%) ในขณะที่ ปี 2550-2552(มค.-กพ.) มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.03 470.81 และ 478.14 ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

เหล็กและเหล็กกล้า : ไนจีเรีย เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 18 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 — 2552 (มค.-กพ.) มีเพียงปี 2549 ปีเดียวที่มีอัตราการขยายตัวลดลง (-70.71%) ในขณะที่ปี 2550-2552(มค.-กพ.) มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 574.82 41.06 และ 407.07 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนฯ : ไนจีเรีย เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 42 ของไทย และเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 — 2552 (มค.-กพ.) มีเพียงปี 2551 ปีเดียวที่มีอัตราการขยายตัวลดลง (-31.20%) ในขณะที่ ปี 2549 2550 และ 2552(มค.-กพ.) มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 139.66 99.18 และ 71.03 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

เม็ดพลาสติก : เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 — 2552 (มค.-กพ.)พบว่า ปี 2550 เป็นเพียงปีเดียวที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น (.19%) ในขณะที่ปี 2549 2551 2552 (มค.-กพ.) มีอัตราขยายตัวลดลงร้อยละ -0.49 -31.91 และ -57.04 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

เครื่องปรับอากาศ ฯ : ไนจีเรีย เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 1 ของไทยพบว่า ปี 2549 และ 2551 ที่มีอัตราการขยายตัวลดลง (-47.16 -59.99) ในขณะที่ปี 2550 และ 2552 (มค.-กพ.) มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2,491.6 และ 246.14 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

4.2 ในบรรดาสินค้าส่งออกจากไทยไปไนจีเรีย ปี 2552(ม.ค.-กพ.) 25 รายการแรก สินค้าที่มีอัตราเพิ่มสูงโดยสูงกว่าร้อยละ 30 มีรวม 12 รายการ คือ
อันดับที่ / รายการ มูลค่า อัตราการขยายตัว หมายเหตุ ล้านเหรียญสหรัฐ % 1.ข้าว 71.79 478.14 ไนจีเรียเป็นตลาดข้าวที่สำคัญที่สุดของไทยในตลาดโลก 2.เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 9.44 407.07 มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่าจาก 110 ล้าน 3.รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 8.06 71.03 เหรียญสหรัฐ ในปี'50 เป็น 628 ล้านเหรียญสหรัฐ 5.เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 5.92 246.14 ในปี'51ขณะเดียวกัน ปี 2552 (มค.-กพ.) เมื่อเทียบ 7.ผลิตภัณฑ์ยาง 4.00 54.87 กับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่าการส่งออกข้าวสูง 8.ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ 1.80 316.39 ถึง 71.79 ล้านเหรียญฯ โดยมีอัตราการขยายตัว 11.ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ 0.73 1,476.70 ร้อยละ 478.14 12.ผลิตภัณฑ์เซรามิก 0.66 3,552.00 16.แผงวงจรไฟฟ้า 0.44 3,387.00 18.เครื่องซักผ้าและซักแห้งฯ 0.31 66.05 21.ประทีปโคมไฟ 0.26 358.15 24.ผลิตภัณฑ์เภสัชฯ 0.19 604.81 4.3 ในบรรดาสินค้าส่งออกจากไทยไปไนจีเรีย ปี 2552 (ม.ค.-กพ.) 25 รายการแรก สินค้าที่มีอัตราลดลง รวม 7 รายการ คือ อันดับที่ / รายการ มูลค่า อัตราการขยายตัว ล้านเหรียญสหรัฐ % 4.เม็ดพลาสติก 5.99 -57.04 10.ผลิตภัณฑ์พลาสติก 1.22 -46.61 13.เคมีภัณฑ์ 0.65 -24.92 17.ครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว 0.37 -25.44 20.เครื่องดื่ม 0.27 -5.75 22.ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ 0.23 -76.00 25.ของเบ็ดเตล็ดทำด้วยโลหะสามัญ 0.17 -23.93 4.4 ข้อมูลเพิ่มเติม

ตลาดไนจีเรียเป็นตลาดที่มีศักยภาพโดดเด่นในกลุ่มประเทศทวีปแอฟริกา เนื่องจากประชากรมากที่สุดในภูมิภาค และมีมูลค่าการค้ากับไทยเป็นอันดับ 2 ที่ผ่านมาการส่งออกจากไทยในปี 2551 มีมูลค่าสูงถึง 891 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากปี 2550 เกือบร้อยละ 150 ขณะเดียวกันการส่งออก ในปี 2552 (มค.-กพ.) เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันมีมูลค่าสูงถึง 121.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากปี 2551 ร้อยละ 128.22 โดยเฉพาะตลาดข้าวมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่า จาก 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2550 เป็น 628 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2551 ไนจีเรียเป็นประเทศร่ำรวยวัตถุดิบธรรมชาติ ได้แก่ น้ำมันดิบ แร่ธรรมชาติ อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับไนจีเรียดำเนินมาด้วยความราบรื่น ขณะเดียวกันยังเป็นตลาดสินค้าส่งออกของไทยที่มีศักยภาพ ได้แก่ ข้าว ปูนซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก ผ้าปักและผ้าลูกไม้ ผ้าผืน รถยนต์ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋อง และเหล็ก “การค้าของไทยไปยังแอฟริกาในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ยังคงเป็นการค้าผ่านนายหน้า และประเทศที่ 3 ซึ่งในอนาคตจะต้องมีการพัฒนาให้มีการค้าขายโดยตรงให้ได้ ด้วยการพัฒนาระบบโลจิสติกส์”

หลังจากที่ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับเกินความคาดหมายในการจัดงาน แอฟริกา เดย์ 2009 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ศูนย์ภูมิภาคแอฟริกา กระทรวงพาณิชย์จึงดำเนินกิจกรรมต่อยอดความสำเร็จ โดยจัดงานไนจีเรีย เดย์ เพื่อปลุกกระแสความเชื่อมั่นให้เกิดความต่อเนื่อง ส่วนการเลือกตลาดไนจีเรียเพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพโดดเด่นในกลุ่มประเทศแอฟริกา เนื่องจากจำนวนประชากรที่มากสุดเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาค และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำมัน งานไนจีเรีย เดย์ เป็นการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการไทย ก่อนไปดำเนินธุรกิจ และส่งสินค้าในประเทศไนจีเรีย ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานจะได้รับทราบข้อมูลเชิงลึก ทั้งการค้า ข้อกฎหมาย พร้อมกลยุทธ์การทำตลาด จากผู้มีประสบการณ์ตรงโดยเอกอัครราชทูตไนจีเรียประจำประเทศไทย และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน ทำให้ผู้ประกอบการมีความมั่นใจ ส่งผลให้การส่งออกของประเทศเพิ่มขึ้นตามนโยบาย นอกจากนั้น ในระหว่างวันที่ 19-27 เมษายนนี้ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นหัวหน้าคณะนำผู้บริหารของกระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนภาครัฐ รวมทั้งภาคเอกชนเดินทางไปเปิดตลาดการค้าของไทยในภูมิภาคแอฟริกา เพื่อเป็นการขยายมูลค่าการค้าการส่งออกของไทยในปีนี้ให้เพิ่มสูงขึ้นจากตลาดใหม่ และจะเป็นโครงการนำร่องและปูทางสำหรับคณะผู้แทนการค้าไทยเยือนแอฟริกาโครงการอื่นๆ อีกกว่า 10 คณะในช่วงต่อไป

ประธานบริษัท ไรซ์แลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ส่งออกข้าวนึ่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ตลาดแอฟริกาเป็นตลาดที่มีการนำเข้าข้าวจากทั่วโลกในปริมาณที่สูงโดยเฉพาะตลาดไนจีเรีย ที่ต้องการนำเข้าข้าวถึงกว่าปีละ 2 ล้านตัน นับเป็นอีกตลาดขายข้าวที่ส่งออกได้ราคาสูง นอกจากนี้การที่ประเทศแอฟริกามีค่าครองชีพและรายได้สูงถึงกว่าวันละ 1,000 บาท รวมถึงการที่รัฐบาลมีนโยบายลดการขาดดุลการค้าจากการนำเข้าสินค้าเกษตร โดยการส่งเสริมการลงทุนการเพาะปลูกภายในประเทศแทน เพื่อไม่ให้ต้องเสียดุลการค้าในการสั่งซื้อสินค้าเกษตรในราคาที่สูงขึ้น จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพและโอกาสทองของนักลงทุนไทยสำหรับการเข้าไปลงทุนเพาะปลูกข้าวและสินค้าเกษตร ตอนนี้รัฐบาลไนจีเรียซึ่งเป็นศูนย์กลางนำเข้าข้าว กำลังเปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนเพาะปลูก รวมถึงเปิดโอกาสให้ครอบครองที่ดินและสัดส่วนการลงทุนได้ 100% โดยไม่จำกัดพื้นที่และเงินทุน ซึ่งต่างจากของไทยที่ยังจำกัดเรื่องพื้นที่ แต่ไนจีเรียหรือแอฟริกาเปิดโอกาสให้ใช้พื้นที่เพาะปลูกกว่าพันหรือสูงสุดถึงหมื่นไร่ และมีโอกาสที่จะได้รับผลกำไรในสัดส่วนการเพาะปลูกต่อครั้งถึง 50% ซึ่งตอนนี้มีประเทศซิมบับเวเข้าไปลงทุนแล้ว และหากไปลงทุนแล้วมีโอกาสรับผลกำไร มากกว่าทำนาแค่ในประเทศเท่านั้น สำหรับในการเดินทางเยือนไนจีเรียของกระทรวงพาณิชย์ในเดือน เม.ย.นี้ น่าเป็นโอกาสที่ดีต่อการหารือเปิดตลาดลงทุนในตลาดแอฟริกา ซึ่งรับทราบมาว่าทางไนจีเรียก็ได้มีการทาบทามบริษัทส่งออกข้าวรายใหญ่ของไทยเข้าไปลงทุนแล้ว และไม่ถือว่าเป็นปัญหาต่อการส่งออกข้าวไทยในอนาคต เพราะตลาดการค้าเสรีต้องเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ หากไทยไม่เข้าไปลงทุนก็จะมีประเทศอื่นๆ เข้าไปลงทุน ตรงกันข้ามก็จะเข้ามาลงทุนในไทยด้วย

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ