การพยายามสร้างจุดขายใหม่ๆ ให้กับสินค้าแป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่ผู้ประกอบการได้จริงดังตัวอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นที่จะยกให้เห็นกันอีกซักครั้งดังต่อไปนี้
เป็นที่ทราบกันดีว่า ข้าวราดแกงกะหรี่เป็นอาหารที่คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานกันในมื้อเย็น อย่างไรก็ดีบริษัทผู้ผลิตแกงกะหรี่พร้อมทาน (Instant Curry) ต่างตระหนักว่า หากไม่ทำอะไรซักอย่าง ยอดขายของบริษัทคงไม่มีทางดีขึ้นไปกว่านี้เป็นแน่ เนื่องจากตลาดของผู้ที่บริโภคแกงกะหรี่เป็นอาหารเย็นอยู่ในภาวะที่อิ่มตัวแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปัจจุบันซึ่งการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านในมื้อค่ำมีแนวโน้มลดลง
เพื่อผ่าทางตันในเรื่องดังกล่าว บรรดาผู้ผลิตแกงกะหรี่ได้พยายามสร้างอุปสงค์การบริโภคแกงกะหรี่ให้สูงขึ้น โดยการพัฒนา Instant Curry ในรูปลักษณ์ใหม่เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคหันมารับประทานแกงกะหรี่เป็นอาหารเช้า ทั้งนี้ แกงกระหรี่จะมีปริมาณน้อยลงเหลือประมาณ 30-75 กรัม (จากเดิมประมาณ 200 กรัม) ต่อซอง รวม 2-4 ซองต่อกล่อง โดยจำหน่ายในราคา 198-220 เยน ต่อกล่อง และที่สำคัญสามารถนำไปรับประทานได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องนำไปอุ่นก่อน
House Foods ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตได้เผยว่า ความสะดวกและขนาดที่เหมาะสมของผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ส่งผลให้ ความนิยมในการบริโภค Instant Curry เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่นและผู้สูงอายุที่พักอาศัยอยู่เพียงลำพัง ที่น่าสนใจกว่านั้น ผู้บริโภคนอกจากจะนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาทานเป็นอาหารเช้าแล้ว หลายรายยังนำ Instant Curry มารับประทานร่วมกับอาหารชนิดอื่นในข้าวกล่อง (Bento) สำหรับมื้อกลางวันอีกด้วย ซึ่งนอกเหนือไปจากที่บรรดาผู้ผลิตได้ตั้งเป้าไว้ ส่งผลให้ตลาดแกงกะหรี่โดยรวมในปี 2008 อยู่ที่ประมาณ 39.8 พันล้านเยนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 5 นอกจากนี้ Fuji Keizai ได้ทำการสำรวจและพบว่า ตลาดสินค้าอาหารโดยรวมในปี 2009 มีแนวโน้ม หดตัวลง อย่างไรก็ดี สำหรับ Instant Curry และ Stew ซึ่งเป็นอาหารหลักประจำบ้านของชาวญี่ปุ่นนั้น ยังคงมีอนาคตที่ สดใส โดยอัตราการขยายตัวคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3
แหล่งข้อมูล: “Wake up call from instant curry”, The Nikkei Weekly, 27 April 2009
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: http://www.depthai.go.th