ณ วันที่ 1 มกราคม 2551 จนถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2551 มีนักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในเวียดนาม มูลค่ารวมได้ 60.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นจำนวนได้ 1171 โครงการ เฉพาะในปี 2551 มีนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมีมูลค่าสูงสุดได้แก่ ไต้หวัน มูลค่าการลงทุน 8.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ จำนวน 132 โครงการ รองลงมาคือ ญี่ปุ่น มูลค่า 7.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ จำนวน 125 โครงการ สิงคโปร์ มูลค่า 4.5 พัน ล้านเหรียญสหรัฐ จำนวน 101 โครงการ บรูไน มูลค่า 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ จำนวน 19 โครงการ คานาดา มูลค่า 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ จำนวน 9 โครงการ และประเทศไทย มูลค่า 3.9 พันล้านเหรียญ สหรัฐ จำนวน 32 โครงการ ตามลำดับ อันเป็นผลจากการที่รัฐบาลเวียดนามเร่งเปิดเสรีด้านการลงทุนให้สอดคล้องกับข้อตกลงของ WTO ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมั่นใจ จึงเข้าไปลงทุนในเวียดนามเพิ่มขึ้น
การลงทุนของต่างชาติในเวียดนามตั้งแต่อดีตถึง 25 มกราคม 2552 มีจำนวนทั้งสิ้นเท่ากับ 9,828 โครงการ และจำนวน เงินลงทุนทั้งสิ้นเท่ากับ 154,774.72 ล้านเหรียญสหรัฐ นักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุด คือ ไต้หวัน (มีสัดส่วน 12.7% ของมูลค่าการ ลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด นับถึงเดือนมกราคม 2552 จำนวน 1,940 โครงการ เงินลงทุนรวม 19,650.57 ล้านเหรียญสหรัฐ) รองลงมาได้แก่ มาเลเซีย (302 โครงการ เงินลงทุนรวม 17,783.41 ล้านเหรียญสหรัฐ) ญี่ปุ่น (1,046 โครงการ เงินลงทุนรวม 17,158.20 ล้านเหรียญสหรัฐ) เกาหลีใต้ (2,058 โครงการ เงินลงทุนรวม 16,526.12 ล้านเหรียญสหรัฐ) กิจการที่ได้รับความสนใจจากต่างประเทศมากที่สุด คือ กิจการด้านอุตสาหกรรม มีการลงทุนทั้งสิ้น 6,321 โครงการ เงินลงทุนรวม 87,799.75 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 56.72 ของมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด การเกษตรและป่าไม้ 976 โครงการ เงินลงทุนรวม 4,792.79 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.1 ของมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด นอกจากนี้ได้แก่ กิจการบริการต่างๆ เช่น สุขภาพและการศึกษา 294 โครงการ โรงแรมและการท่องเที่ยว 250 โครงการ การขนส่งและโทรคมนาคม 235 โครงการ (ณ วันที่ 25 มกราคม 2552)
เมืองที่มีนักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนมากที่สุด คือ นครโฮจิมินห์ (2,834 โครงการ เงินลงทุนรวม 26,266.69 ล้าน เหรียญสหรัฐ) รองลงมาคือ บาเรีย-หวุงเต่า (169 โครงการ เงินลงทุนรวม 20,556.78 ล้านเหรียญสหรัฐ) กรุงฮานอย (1,325 โครงการ เงินลงทุนรวม 17,549.42 ล้านเหรียญสหรัฐ) ด่องไน (960 โครงการ เงินลงทุนรวม 13,528.65 ล้านเหรียญสหรัฐ) และ นิงถวน ( 19 โครงการ เงินลงทุนรวม 9,967.72 ล้านเหรียญสหรัฐ) ตามลำดับ (ณ วันที่ 25 มกราคม 2552)
โครงการลงทุนของไทยในเวียดนามเริ่มตั้งแต่ปี 2531 เป็นต้นมา โดยในช่วง 4 ปีแรกยังมีจำนวนไม่มากนักแต่หลังจาก นั้นคือตั้งแต่ปี 2535 การลงทุนของนักธุรกิจไทยในเวียดนามมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วจนกระทั่งถึง ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2551 การลงทุนของไทยในเวียดนามมีทั้งสิ้น 192 โครงการ เงินลงทุนรวม 5.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ สูงเป็นอันดับที่ 12 และเป็นอันดับ ที่ 4 ในอาเซียนรองจากสิงคโปร มาเลเซีย และบรูไน เฉพาะปี 2551 มีโครงการลงทุนของไทยที่ได้รับอนุมัติรวม 32 โครงการ มูลค่า 1.56 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การลงทุนที่สำคัญคือ ธุรกิจการเกษตรปศุสัตว์ เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การก่อสร้าง โรงแรม ภัตตาคารอุปกรณ์ การก่อสร้าง อะไหล่รถยนต์ จักรยานยนต์ โรงงานกระดาษ โรงงานผลิตอาหาร ต่อไปน่าจะมีการลงทุนใน กิจการ ปิโตรเคมี โทรคมนาคม
รายชื่อผู้ลงทุนจากต่างประเทศและพื้นที่ลงทุนในเวียดนาม ถึง ณ. วันที่ 25 มกราคม ปี 2552
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
ผู้ลงทุนต่างประเทศ จำนวน เงินลงทุน จังหวัดที่ลงทุน จำนวน เงินลงทุน โครงการ โครงการ 1. ไต้หวัน 1,940 19,650.57 1.นครโฮจิมินห์ 2,834 26,266.69 2. มาเลเซีย 302 177,834.41 2.บาเรีย-วุงเต่า 169 20,556.78 3. ญี่ปุ่น 1,046 17,158.20 3.กรุงฮานอย 1,325 17,549.42 4. สิงคโปร์ 626 15,438.03 4.ด่งนาย 960 13,528.65 5. เกาหลีใต้ 2,058 16,526.12 5.นิ่งห์ท่วน 19 9,967.72 6. บริติส เวอร์จิ้น ไอร์แลนด์ 404 11,704.43 6.ฮา ติ๊ง 11 7,920.76 7. ฮ่องกง 511 6,494.42 7.บิ่งเซือง 1,720 9,628.70 8. ไทย 198 5,702.13 8.แทงฮว๋า 35 6,963.21 9. คานาคา 72 4,749.24 9.ฝูเอียน 40 6,321.45 10. บรูไน 67 4,587.78 10.เกียนซาง 14 2,772.73 11. สหรัฐ 435 8,258.81 11.ไฮฟอง 304 3,027.60 12. เนเธอแลนด์ 101 2,626.48 12.โครงการ น้ำมัน ก๊าซ 13. ฝรั่งเศส 234 2,393.41 13.ลองอาน 259 2,897.39 14. สโลวาเนีย 2 4.00 14.ไฮเซือง 221 2,295.38 15. เคย์มาน ไอร์แลนด์ 35 4,388.70 15.ดานัง 129 2,554.17 16. สหราชอาณาจักร 112 2,126.66 16.ถั่วเทียน เว้ 53 1,891.34 17. จีน 628 2,197.76 17.บั๊คนิงห์ 137 1,920.87 18. สวิสเซอร์แลนด์ 61 1,383.99 18.วิ๋งฟุ๊ก 170 2,235.60 19. ซามัว 67 1,569.60 19.ฮาเตย 20. ออสเตรเลีย 193 1,048.94 20.กว่างหงาย 16 3,594.03 21. ลักแซมเบอร์ก 15 799.87 21.กว่างนิงห์ 107 1,172.67 22. อินเดีย 30 195.64 22.เกิ่นเธอ 49 685.60 23. เยอรมนี 116 610.06 23.บิ่งห์ท่วน 66 715.13 24. เวสท์อินดี้ 6 511.23 24.ฮึงเอียน 144 770.69 25. เดนมาร์ก 66 466.17 25.โฮ่วซาง 5 632.96 26. รัสเซีย 59 376.36 26.เตยนิงห์ 164 681.24 27. เบอมิวด้า 6 331.57 27.แขงฮว่า 74 694.11 28. ฟิลิปปินส์ 38 276.46 28.กว่างนาม 54 522.87 29. เมอริเติส 32 221.80 29.ลามด่ง 112 407.24 30. อินโดนีเซีย 21 178.39 30.บิ่งห์ ดิ่ง 31 367.93 31. บาฮามาส 4 208.35 31.ฝูเถอะ 41 313.22 32. ชาแนล ไอแลนด์ 15 115.20 32.ล่าวกาย 35 317.73 33. โปแลนด์ 7 224.96 33.ไท๋เวียน 26 424.60 34. เบลเยี่ยม 32 77.55 34.บิ่งห์เฟือก 62 194.14 35. คุ้ก ไอแลนด์ 3 142.00 35.นิง บิ่งห์ 17 509.51 36. อิตาลี 30 114.85 36.บั๊ค ซาง 59 270.26 37. บาร์บาดอส 2 68.14 37.ฮา นาม 26 190.36 38. สวีเดน 20 66.43 38.เตียน ซาง 17 229.37 39. นิวซีแลนด์ 18 72.94 39.ไท๋ บื่งห์ 20 105.81 40. เช็ก 14 53.41 40.หลัก เซิน 30 113.51 41. เซนต์ คิต แอนด์ เนวิส 2 39.69 41.นาม ดิ่งห์ 28 165.89 42. เลสเตนเตียน 2 35.50 42. กอนตูม 3 77.13 43. นอร์เวย์ 15 35.28 43.ซา ลาย 9 74.93 44. ตุรกี 8 69.70 44.ฮว่า บิ่งห์ 25 84.64 45. ฟินแลนด์ 5 33.44 45.วิ๋งห์ ลอง 13 57.00 46. มาเก๊า 7 30.70 46.กว่าง จิ 13 47.76 47. อิรัก 2 27.10 47.จ่า วิงห์ 13 54.06 48. ลาว 9 48.35 48.โด่ง ท๊าบ 13 36.11 49. ยูเครน 7 22.95 49.เบ๋น แจ่ 12 110.97 50. เบรุส 50.บั๊ค เลี่ยว 8 35.94 51. ปานามา 7 18.00 51.กว่าง บิ่งห์ 4 32.33 52. อิสเล ออฟ มาน 1 15.00 52.เตียน กวาง 6 90.83 53. บราซิล 1 2.60 53.เซิน ลา 8 112.62 54. บัลเกเรีย 5 12.91 54.ซ๊อค จาง 6 29.28 55. ออสเตรีย 193 1,048.94 55.กาว บั่ง 12 27.15 56. โดมินิกัน 2 11.00 56.บั๊ค ก่าน 6 17.57 57. ศรีลังกา 4 13.01 57.เอียน บ๋าย 10 22.92 58. เซ็นต์ วินเซน 1 16.00 58.ดั๊ก ลั๊ก 2 16.67 59. อิสราเอล 8 11.68 59.ฮา ซาง 4 5.08 60. สเปน 9 7.32 60.ดั๊ก นง 5 15.50 61. คิวบา 1 6.60 61.อาน ซาง 5 17.16 62. กัมพูชา 7 6.25 62.ลายโจว 3 4.00 63. ไอร์แลนด์ 4 4.38 63.ก่า เมา 5 7.00 64. เซ็นต์วินเซ็นต์ เกรนนาดิน 1 3.00 64.เดี่ยน เบียน 1 0.13 65. เติร์ก ไครคอส ไอแลนด์ 2 3.10 66. ฮังการี 5 2.19 67. กัวเตมาลา 1 1.87 68. ยูโกสลาฟ 1 1.58 69. กีนี บิสเซา 1 1.19 70. ซีเรีย 3 1.05 71. เติร์ก ไครคอส ไอแลนด์ 2 3.10 72. กวม 1 0.50 73. ไซปรัส 74. เบรารุส 1 0.40 75. เคย์มาน อแลนด์ 76. อาร์เจนติน่า 1 0.12 77. เกาหลีเหนือ 2 0.20 78. ปากีสถาน 2 1.10 79. เม็กซิโก 1 0.05 80. โรมาเนีย 1 0.04 81. อัฟริกาใต้ 1 0.03 รวมทั้งหมด 9,828 154,774.72 9,828 154774.72 ที่มา : กระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนามโครงสร้างการลงทุนถึง ณ. วันที่ 25 มกราคม ปี 2552
สาขาการลงทุน จำนวนโครงการ เงินลงทุน(ล้านเหรียญสหรัฐ) 1.อุตสาหกรรม 6,321 87,799.75 -น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ 48 14,477.84 -อุตสาหกรรมเบา 2,750 15,680.14 -อุตสาหกรรมหนัก 2,610 47,164.68 -การก่อสร้าง 563 6,278.07 -อุตสาหกรรมอาหาร 350 4,199.01 2.เกษตร ป่าไม้ ประมง 976 4,792.79 -เกษตร ป่าไม้ 838 4,322.79 -ประมงและสัตว์น้ำ 138 470.00 3.การบริการ 2,531 57,182.18 -บริการอื่นๆ 1,445 3,332.64 -การขนส่ง ไปรษณีย์ และสื่อสาร 235 6,254.57 -โรงแรมและท่องเที่ยว 250 15,411.71 -การธนาคารและการเงิน 68 1,057.78 -วัฒนะธรรม สาณารณสุขและการศึกษา 294 1,758.61 -เขตเมืองใหม่ 14 8,224.68 -ออฟฟิต อาคารให้เช่า 189 19,361.69 -ก่อสร้างเขตนิคมอุตสาหกรรม 36 1,780.52 -รวมทั้งหมด 9,828 154,774.72 ที่มา : กระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม 7. ปัจจัยสำคัญในการเจาะตลาดเวียดนาม ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ด้านการตลาดสำหรับเจาะตลาดเวียดนาม 7.1. กลยุทธ์ด้านการสร้างภาพพจน์สินค้าและบริการของไทยจัดกิจกรรมร่วมทางธุรกิจระหว่างภาคอุตสาหกรรมไทย/ภาคธุรกิจเวียดนาม/ภาครัฐเวียดนามเพื่อส่งเสริมความ สัมพันธ์ และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสินค้าและนักธุรกิจไทย โดยจะมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดงานแสดง
สินค้าของไทยในประเทศเวียดนาม อาทิงาน Thailand Exhibition, Thailand Outlet Fair และการเข้า ร่วมงาน แสดงสินค้านานาชาติในเวียดนาม จะเป็นเวทีให้กับผู้ส่งออกไทย ทั้งในด้านการหาตลาดผู้ซื้อและการเข้ามา ทดลองตลาด เพื่อตรวจสอบความต้องการของผู้บริโภค ดำเนินรักษาความสัมพันธ์ กับหน่วยงานรัฐบาลเวียดนาม ได้แก่ กระทรวงการวางแผนและ การลงทุน กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กระทรวงการคลัง และอื่นๆ และ รักษาความสัมพันธ์อันดีกับหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งจะ เป็นกลไกลที่มีประสิทธิภาพในการลงทุนของผู้ ประกอบการ ไทย การประชุมสัมมนาร่วมระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย และสภาธุรกิจต่างๆ ของเวียดนาม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและส่งเสริม ความร่วมมือ ทั้งด้านการค้าและการลงทุน
7.2. กลยุทธ์ด้านความร่วมมือในอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพและโอกาส
ชาวเวียดนามมีความชื่นชมในคนไทยที่มีความโอบอ้อมอารีมากกว่าต่างชาติอื่นๆอีกทั้งยังมีความชื่นชอบ และยอมรับสินค้า ที่ผลิตและใช้ตราของไทยทั้งนี้ชาวเวียดนามเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าไทยมากกว่าสินค้าที่มีราคาถูกจากประเทศจีน หรือ ของเวียดนาม เองชาวเวียดนามส่วนใหญ่เห็นว่าสินค้าไทยมีราคาที่เหมาะสมกับคุณ ภาพเมื่อเทียบกับสินค้าของต่างประเทศเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งมี ราคาที่แพงกว่า
7.3 โครงการส่งเสริมนักธุรกิจไทยขยายธุรกิจไปต่างประเทศ (Internationalization)
โดยจัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบในการลงทุน และโอกาสในการขยายธุรกิจในเวียดนามรวมทั้งการจัด นัดหมาย Business Matchingให้กับนักธุรกิจไทยและเวียดนามจัดกิจกรรมพัฒนาเครือข่ายและพันธมิตรต่างประ เทศของผู้ให้บริการโลจิสติกส์
7.4 สร้างสัมพันธ์ภาพที่ดีกับผู้นำเข้าเวียดนามและเครือข่ายของผู้นำเข้าและส่งออก
7.5 ติดตามความต้องการของตลาด สถานการณ์ตลาด ในเวียดนาม
7.6 รักษาเสถียรภาพของนโยบายราคาขายโดยมีนโยบายที่ชัดเจนและแน่นอน
7.7 เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งด้านสินค้าและบริการ
7.8 ทำการเจาะลึกวิเคราะห์ ข้อมูลทางการค้าการลงทุน
ที่มา: http://www.depthai.go.th