การสร้างแบรนด์ไทยไปแข่งขันในตลาดโลก ถือเป็นความท้าทายแก่ผู้ประกอบการ ในการขยายตลาดการค้าไปต่างประเทศ เนื่องจากกฎระเบียบกติกา การค้าการลงทุนที่แตกต่างกัน ตลอดจนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เป็นโจทย์ที่สำคัญ ที่ต้องการทำความเข้าใจก่อนที่เข้าไปทำตลาด
ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี ในธุรกิจชุดชั้นในสตรีคุณภาพ เป็นทั้งผู้ผลิต และผู้จำหน่ายชุดชั้นในสตรีภายใต้ชื่อแบรนด์ "ซาบีน่า" (Sabina) ที่มีความโดดเด่นในด้านคุณภาพ และดีไซต์ ที่ทำยอดขายเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย ตลอดจนได้รับความสนใจจากคนต่างชาติที่ให้การยอมรับในเรื่องมาตรฐานการผลิต คุณภาพสินค้า จากความมุ่งมั่นทำการวิจัย และพัฒนาสินค้าในเรื่องดีไซต์ที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในรูปแบบของ OEM และ ODM ภายใต้ชื่อแบรนด์ผลิตภัณฑ์ Sabina และ Sbn เอง ที่ได้จดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า ตั้งแต่ปี 2004 เพื่อมุ่งหวังทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป สแกนดิเนเวีย ตะวันออกกลาง เอเซีย โดยปัจจุบัน Sbn มีตัวแทนจำหน่าย อยู่ใน 15 ประเทศ ทั่วโลก เช่น สิงคโปร์ พม่า เวียดนาม เกาหลีใต้ ดูไบ ซาอุดิอระเบีย บาห์เรน อีหร่าน อังกฤษ อาฟริกาใต้ และ ออสเตรเลีย
สำหรับตลาดในประเทศ “อิหร่าน” ถือเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและโอกาสในการขยายธุรกิจภายใต้แบรนด์ชุดชั้นในซาบีน่า เนื่องด้วยจำนวนประชากรชาวอิหร่านที่มีกว่า 66 ล้านคน เป็นผู้หญิงที่มีอายุในช่วง 15-64 ปีประมาณ 23 ล้านคน และมีความต้องการสินค้าประเภทเครื่องแต่งกายสตรีสูง แม้ว่าประเทศอิหร่านจะมีความเข้มงวดในเรื่องการแต่งกายของสุภาพสตรีตามหลักศาสนาอิสลาม ที่มีกฎข้อบังคับทางศาสนาและกฎหมายที่สตรีอิหร่านทุกคนต้องปฏิบัติตาม แต่กฎเกณฑ์ดังกล่าวไม่เป็นอุปสรรคในการเลือกหาเครื่องประดับ หรือเครื่องแต่งกายนำสมัยมาสวมใส่ ซึ่งลักษณะนิสัยโดยทั่วไปของสตรีอิหร่านมีนิสัยรักสวยรักงาม และมีรสนิยมในการเลือกและซื้อหาสินค้าที่มีคุณภาพที่มีความแปลกใหม่ นำสมัยและตามแฟชั่นมาใช้อยู่เสมอ
สำหรับประเทศอิหร่าน Sbn ได้เริ่มเข้าสู่ทำตลาดและวางจำหน่าย ครั้งแรกเมื่อปี 2008 โดยให้บริษัท Nikootanposh ผู้ผลิตชุดชั้นในสตรีรายใหญ่ของอิหร่าน ที่มีประสบการณ์ด้านการผลิตชุดชั้นในสตรีมากว่า 15 ปี เป็นตัวแทนจำหน่ายและทำตลาดในอิหร่าน โดยความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรธุรกิจครั้งนี้ เนื่องจาก Nikootanposh ชื่นชอบการออกแบบดีไซต์ชุดชั้นในที่แปลกใหม่ มีเอกลักษณ์ ที่เป็นจุดขายที่โดดเด่นให้กับตัวสินค้า และง่ายต่อการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ประกอบกับยังไม่มีผู้ประกอบการรายใด ทำธุรกิจด้านแฟชั่นชุดชั้นในสตรีไทยในรูปของการเป็นตัวแทนจำหน่ายในอิหร่านมาก่อน จึงอาจกล่าวได้ว่าบริษัท Nikootanposh เป็นผู้บุกเบิกตลาด Brand name สินค้าชุดชั้นในสตรีของไทยรายแรกของอิหร่าน
ทั้งนี้ การทำตลาดในช่วงแรกของบริษัท Nikootanposh ได้พบปัญหาของสินค้าที่ต้องมีการปรับแก้ เนื่องจากสรีระของสตรีอิหร่านมีขนาดทรวงอกที่ใหญ่กว่ามาตรฐานของคนไทย จึงมีการหารือกับบริษัทซาบีน่า เพื่อปรับเพิ่มขนาดยกทรงให้ใหญ่ขึ้น โดยมีไซส์ที่มาตรฐานคือไซส์ 120-130 เซนติเมตร จากเดิมที่มีขนาดใหญ่สุดคือไซส์ 80-85 เซนติเมตร หรือปรับแบบชุดชั้นในที่มีรองซับแบบบาง ให้สามารถแกะออกได้ พร้อมปรับแบบสินค้าให้มีดีไซต์ที่หลากหลาย มีสีสันที่สดใสมากขึ้น เพราะลูกค้ามีความต้องการสินค้าดีไซต์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อ
รองรับกับพฤติกรรมของลูกค้าชาวอิหร่านที่ชื่นชอบชุดชั้นในสตรีทั้งแบบลูกไม้ ลูกไม้โปร่ง ชุดชั้นในสายเดี่ยว ซึ่งทำให้ซาบีน่า ประสบความสำเร็จในการแข่งขันเพื่อทำตลาดชุดชั้นในของประเทศอิหร่าน ที่มีคู่แข่งหลายแบรนด์ เช่น TBN, TANARAM, NBB ซึ่งเป็นชุดชั้นในของตุรกี และชุดชั้นในที่มีคุณภาพต่ำ ราคาถูกที่นำเข้าจากประเทศจีนอีกด้วย
นอกจากนี้ การสร้างตราสินค้า “ซาบีน่า” ให้เป็นที่รู้จักแก่ลูกค้าชาวอิหร่าน เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญที่ต้องทำให้สำเร็จ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาเลือกซื้อชุดชั้นในซาบีน่า เป็นกลุ่มวัยรุ่นและและสตรีที่เพิ่งแต่งงาน ที่มีความกังวลในเรื่องของคุณภาพของตัวสินค้า เนื่องจาก ซาบีน่า เป็นผู้เล่นรายใหม่ในตลาดชุดชั้นในสตรีในประเทศอิหร่าน หากมีการสร้างตราสินค้าผ่านภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่น ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายที่สูงขึ้นจากปัจจุบันที่ทำได้ 5,000-6,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน
ทั้งนี้มีข้อควรสังเกต คือ การเปิดร้านขายชุดชั้นในสตรีในอิหร่านนั้น ทางการอิหร่านไม่อนุญาตให้เปิดตู้แสดงสินค้าชุดชั้นใจสตรีหน้าร้านอย่างเปิดเผยได้ และไม่อนุญาตให้สุภาพบุรุษเข้าไปในร้านเด็ดขาด ดังนั้น ลูกค้าจะต้องเข้าไปในร้านเท่านั้น จึงจะได้สัมผัสและลองสินค้าได้
ทั้งนี้ ตลาดอิหร่าน จึงเป็นตลาดการค้าที่สำคัญสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการชุดชั้นใน เครื่องต่างกายเด็ก เครื่องแต่งกายของบุรุษ ตลาดด้านชุดชั้นในสำหรับสตรีมีครรภ์ สตรีที่ให้นมบุตร ชุดนอนและชุดว่ายน้ำ หากผู้ประกอบการที่มีความพร้อมเข้าไปลงทุนทำธุรกิจในตลาดนี้ ต้องศึกษาระเบียบ กฎหมาย ประเพณี ศาสนา รวมถึงข้อห้ามต่าง ๆ ทั้ง วัฒนธรรมการบริโภค การจับจ่าย การใช้ชีวิต ในแต่ละช่วงเวลาและช่วงฤดูกาล รสนิยม สังคมภายนอก และสังคมส่วนตัว พร้อมต้องดูช่องทางการจัดจำหน่าย และวิธีการเงื่อนไข ให้อย่างชัดเจน ที่สำคัญ ควรต้องไปศึกษาและสำรวจตลาด เพื่อให้ทราบถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค คู่แข่งในตลาด ก่อนการตัดสินใจลงทุน
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน
ที่มา: http://www.depthai.go.th