1. ภาวะเศรษฐกิจอิตาลีในช่วงครึ่งเดือนหลังของ ก.ย. 52 เริ่มกระเตื่องขึ้นบ้าง เนื่องจากธุรกิจและคนอิตาเลียนได้เริ่มเปิดดำเนินการหลังจากการพักร้อนในช่วง ก.ค. — ส.ค.
2. คณะกรรมาธิการยุโรปได้ปรับการคาดการณ์ GDP ของอิตาลีใหม่ โดยคาดว่าในปี 2552 GDP จะหดตัวลง 5% จากเดิมเมื่อเดือน พ.ค. 2552ที่ได้คาดการณ์ไว้ 4.4% ซึ่งสอดคล้องกับการประมาณการของ IMF ที่คาดว่า GDP ในปี 2552 ของอิตาลีจะเท่ากับ 5.1% และเพิ่มขึ้น 0.2% ในปี 2553 ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์เศรษฐกิจของอิตาลีกล่าวว่าอิตาลีได้ผ่านพ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยมาแล้ว แต่ระดับของความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังคงมีสูงเช่นกัน
3. OECD ได้รายงานว่าภาวการณ์ว่างงานในอิตาลีได้ถึงจุดต่ำสุดและคาดว่าการจ้างงานของอิตาลีจะเพิ่มขึ้น 10.5% ในปลายปี 2553 มากกว่าที่เคยคาดการณ์เฉลี่ยไว้ที่ 9.9% โดยอิตาลีเป็นประเทศที่มีอัตราการว่างงานสูงสุดรองจากตุรกีและฮังการี ทำให้กรรมาธิการด้านงบประมาณบางรายออกมาเตือนว่าอาจเกิดปัญหาความเลวร้ายทางสังคมได้ในอนาคต หากรัฐบาลไม่มีมาตรการช่วยเหลือใด ๆ ออกมา
4. ประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรมอิตาลี (CONFINDUSTRIA) ได้ออกมากล่าวว่าปัญหาการว่างงานเป็นปัญหาใหญ่ของอิตาลี และมีความเสี่ยงที่สถานการณ์จะเลวร้ายมากขึ้นในช่วงต่อไป โดยอัตราการว่างงานได้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 9.5% จากเดิมในช่วงปลายของไตรมาส 2 ของปี 52 ที่เพิ่มขึ้น 7.4% และเพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว สมาพันธ์อุตสาหกรรมอิตาลีได้ร้องขอให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับประโยชน์ด้านความมั่นคงในสังคม การจัดตั้งเงินกองทุนเพื่อใช้ในการฝึกอบรมให้แก่คนที่ตก งานเพื่อที่จะได้สามารถหางานอื่นทำได้ต่อไป รวมทั้งการสนับสนุนด้านนายจ้างด้วย ประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรมอิตาลีเห็นว่าวิกฤตเศรษฐกิจยังไม่สิ้นสุด และอิตาลียังคงต้องฝ่าฟันต่อไป ซึ่งคงจะใช้เวลานานพอสมควรที่จะกลับไปสู่สภาวะก่อนหน้าการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ทั้งนี้ข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคม (INPS) รายงานว่าตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 จนถึง กรกฎาคม 2552 มีผู้ตกงานยื่นขอรับเงินชดเชยแล้วเกือบ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 52.2
5. เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2552 รัฐบาลอิตาลีได้ผ่านความเห็นชอบร่างงบประมาณปี 2553 — 2554 ซึ่งนายกรัฐมนตรีเบอร์ลุสโคนี กล่าวว่ายังไม่ถือว่าเป็นงบประมาณแต่เป็นเพียงภาพกว้างด้านการเงินของรัฐบาลเท่านั้น ทั้งนี้ฝ่ายค้านและฝ่ายสหภาพต่าง ๆ ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ต่อเนื่องเพื่อช่วยคนงานที่ถูกเลิกจ้างและภาคครัวเรือนที่เดือดร้อนจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจต่อไป
นอกจากนี้ รัฐบาลอิตาลีได้แถลงการปรับการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจ ได้แก่ GDP หนี้สาธารณะและงบประมาณเกินดุล ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่มองในแง่ดีมากกว่าการคาดการณ์จากหน่วยงานอื่นๆ ได้แก่ สหภาพยุโรป และ OECD ดังนี้
5.1 ในปี 2552 GDP = 4.8% (เดิมคาดการณ์ไว้5.2%)
หนี้สาธารณะ = 115.1% ของGDP
งบประมาณเกินดุล = +0.5%
5.2 ในปี 2553 GDP = 0.7% (เดิมคาดการณ์ไว้ 0.2%)
หนี้สาธารณะ = 117.3% ของGDP
งบประมาณเกินดุล = 0% (ปี 54 = 1.3% และปี55 = 2.8%)
สำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโรม
ที่มา: http://www.depthai.go.th