อินโดเนเซียจะเป็นที่หนึ่งในอุตสาหกรรมอาหารทะเลได้จริงหรือ

รัฐมนตรีว่าการด้านทะเลและประมงคนใหม่ของอินโดเนเซีย นาย Fadel Mohammad ตั้งความหวัง สูงกับอุตสาหกรรมอาหารทะเลอินโดเนเซีย และตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นผู้ผลิตอาหารทะเลใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2015 (2558) โดยจะมีโครงการเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารทะเลอย่างจริงจัง

อินโดเนเซียมีพื้นที่ทะเลถึง 7.9 ล้านตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าพื้นดิน 4 เท่า

ยุทธศาสตร์เรื่องนี้คือ การทาให้ทรัพยากรทางทะเลเป็นกระดูกสันหลังของประเทศ เพราะชาวประมงและหมู่บ้านตามชายฝั่งเป็นกลุ่มชนที่ยากจนที่สุดในประเทศกลุ่มหนึ่ง ทั้งๆที่ทามาหากินกับทรัพยากรที่มีค่า

การลักลอบทาประมงในเขตที่ไม่ได้รับอนุญาตและการจับปลาเกินปริมาณยังคงเป็นปัญหาใหญ่ การบริหารจัดการอุตสาหกรรมประมงอย่างรับผิดชอบได้ตามนโยบายรัฐบาลจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง

ในขณะที่อินโดเนเซียพยายามอย่างมากที่จะผลักดันโดยภาครัฐให้อุตสาหกรรมประมงเจริญเติบโต ประเทศไทยซึ่งนับว่าเป็นอันดับหนึ่งอยู่ในเรื่องอุตสาหกรรมอาหารทะเล ก็ยังคงมีความก้าวหน้าเจริญเติบโตในภาคการผลิตอย่างต่อเนื่อง ข่าวล่าสุดที่เผยแพร่ในวารสารด้านอาหารในอเมริกา คือเรื่องที่บริษัท Thai Union Frozen Products ได้ร่วมลงทุนตั้งบริษัทย่อยคือ บริษัท Majestic Seafood Corp โดยถือหุ้น 33% ร่วมกับ บริษัท Century Canning Corp. และ Frabelle Fishing Corp.

บริษัท Thai Union ได้ซื้อบริษัท Moresby International Holding เพื่อจัดตั้งบริษัท Majestic Seafood ขึ้นทาประมงและแปรรูปปลาทูน่า ในประเทศปาปัวนิวกีนี โดยจุดมุ่งหมายหลักของ Thai Union คือเพื่อ secure วัตถุดิบจากปาปัวนิวกีนีที่จะมาป้อนโรงงานในกรุงเทพ และเพื่อจะได้ยึดครองพื้นที่ในการทาประมงปลาทูน่า ได้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากนั้น เหตุผลสาคัญอีกเรื่องหนึ่งคือ บริษัทจะสามารถส่งทูน่าเข้าไปตลาดอียูได้โดยไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย

สานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก

ที่มา: http://www.depthai.go.th