จากภาวะวิฤกตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมเครื่องหนังอิตาลีได้รับผลกระทบอย่างมาก ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2552 พบว่ามูลค่าการส่งออก การนาเข้าลดลงร้อยละ 5.7 และ 20.4 ตามลาดับ ในส่วน 6 เดือนแรกของปี 2552 มูลค่าการบริโภคลดลงร้อยละ 3.3
นอกจากนี้ AIMPES (Associazione Italiana Manifatturieri Pelli e Succedanei) ได้เปิดเผยข้อมูลของภาวะการว่างงานที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมเครื่องหนังที่มีคนว่างงานกว่า 6,000 คน
ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2552 การบริโภคสินค้าเครื่องหนัง (หนังแท้และหนังสังเคราะห์) ในอิตาลีมีปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 ในทางตรงกันข้าม มูลค่าบริโภคสินค้าเครื่องหนัง 716 ล้านยูโร ลดลงร้อยละ 5.7 เปรียบเทียบจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมูลค่าการบริโภครวมดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นการบริโภคสินค้ากระเป๋าเครื่องหนังสาหรับสุภาพสตรี 435 ล้านยูโร ลดลงร้อยละ 4.9 พฤติกรรมการบริโภคสินค้าเครื่องหนังของชาวอิตาเลียน จะเน้นให้ความสนใจในเรื่องของราคาเป็นหลัก
ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2552 สินค้าเครื่องหนังอิตาลีมีมูลค่าส่งออกในตลาดต่างประเทศรวม 1,093 ล้านยูโร (-20.4%) เปรียบเทียบจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์หนังแท้ และหนังสังเคราะห์ ซึ่งมีอัตราลดลงร้อยละ 21.9 และ 16.2 ตามลาดับ
ชนิดของสินค้า
- ผลิตภัณฑ์กระเป๋าเครื่องหนังสาหรับสุภาพสตรี มียอดส่งออก 695 ล้านยูโร (-20.4%)
- เข็มขัด มียอดส่งออก 108 ล้านยูโร (-25.9%)
- กระเป๋าหนังขนาดเล็ก มียอดส่งออก 156 ล้านยูโร (-18.7%)
นอกจากนี้ สินค้าเครื่องหนังอิตาลีมีปริมาณส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ 17 ล้านกิโลกรัม (-19.5%) เปรียบเทียบจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2552 อิตาลีมีมูลค่าการส่งออกรวม 1,093 ล้านยูโร (-20.4%) และปริมาณการส่งออกรวม 17 ล้านกิโลกรัม (-19.5%) โดยตลาดต่างประเทศที่ประเทศอิตาลีส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องหนังส่วนใหญ่เป็นประเทศในยุโรปแบ่งได้ ดังนี้
อันดับ 1 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นตลาดส่งออกที่สาคัญ มูลค่าการส่งออก 203 ล้านยูโร (-23.4%)
อันดับ 2 ประเทศฝรั่งเศส มูลค่าการส่งออก 133 ล้านยูโร (-12.9%)
อันดับ 3 ประเทศญี่ปุ่น มูลค่าการส่งออก 109 ล้านยูโร (-14.8%)
อันดับ 1 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ปริมาณการส่งออก 2,204 พันกิโลกรัม (+9.8%)
อันดับ 2 ประเทศเยอรมัน ปริมาณการส่งออก 2,088 พันกิโลกรัม (-10%)
อันดับ 3 ประเทศฝรั่งเศส ปริมาณการส่งออก 2,015 พันกิโลกรัม (-20.4%)
ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2552 สินค้าเครื่องหนังอิตาลีมีมูลค่านาเข้าจากตลาดต่างประเทศ รวม 641 ล้านยูโร (-3.3%) เปรียบเทียบจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์หนังแท้ และหนังสังเคราะห์ ซึ่งมีอัตราลดลงร้อยละ 18.4 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ตามลาดับ
ชนิดของสินค้า
- ผลิตภัณฑ์กระเป๋าเครื่องหนังสาหรับสุภาพสตรี มียอดนาเข้า 318 ล้านยูโร (-4.4%)
- กระเป๋าหนังขนาดเล็ก มียอดนาเข้า 142 ล้านยูโร (3.3%)
- เข็มขัด มียอดนาเข้า 17 ล้านยูโร (-20.6%)
สินค้าเครื่องหนังอิตาลีมีปริมาณนาเข้าจากตลาดต่างประเทศ 62 ล้านกิโลกรัม (-13.3%) เปรียบเทียบจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2552 อิตาลีมีมูลค่านาเข้ารวม 641 ล้านยูโร (-3.3%) และปริมาณการนาเข้ารวม 62 ล้านกิโลกรัม (-13.3%) โดยตลาดต่างประเทศที่ประเทศอิตาลีนาเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องหนังส่วนใหญ่เป็นประเทศในยุโรปแบ่งได้ ดังนี้
อันดับ 1 ประเทศจีน เป็นตลาดนาเข้าที่สาคัญ มูลค่าการนาเข้า 377 ล้านยูโร (+5.3%)
อันดับ 2 ประเทศฝรั่งเศส มูลค่าการนาเข้า 90 ล้านยูโร (-11.1%)
อันดับ 3 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มูลค่าการนาเข้า 21 ล้านยูโร (-27.8%)
**อันดับ 16 ประเทศไทย มูลค่าการนาเข้า 2 ล้านยูโร (+8.2%)
อันดับ 1 ประเทศจีน ปริมาณการนาเข้า 53 ล้านกิโลกรัม (-12.4%)
อันดับ 2 ประเทศเบลเยี่ยม ปริมาณการนาเข้า 1,300 พันกิโลกรัม (-2.3%)
อันดับ 3 ประเทศฝรั่งเศส ปริมาณการนาเข้า 1,129 พันกิโลกรัม (-19.2%)
**อันดับ 13 ประเทศไทย ปริมาณการนาเข้า 137 พันกิโลกรัม (-4.7%)
1. ลักษณะทั่วไป
ลักษณะของสินค้าเครื่องหนังสาหรับฤดูหนาวนี้ จะเป็นการย้อนยุคซึ่งมีกลิ่นอายของยุค 80 และสไตส์วินเทจ
2. รูปแบบและขนาด
รูปแบบกระเป๋าจะเป็นกระเป๋าถือสาหรับสุภาพสตรี (ถือไว้ในมือหรือหนีบไว้ใต้ท้องแขน - Clutches Bag/Pouche) ยังคงได้รับความนิยม กระเป๋าช็อปปิ้ง (Shopper) กระเป๋าถือแบบมีหูสองข้าง (Boston Bag) ขนาดกระเป๋าจะเน้นขนาดปานกลาง เล็ก และแบน โดยกระแสความนิยมกระเป๋าขนาดใหญ่ได้ลดลง
3. รูปแบบของหนัง
หนังที่ได้รับความนิยมนามาใช้ ได้แก่ หนังลูกวัว หนังแกะ หนังจระเข้ หนังงู หนังพิมพ์ลายจระเข้าหรือลายงู หนังผสมขนแกะแคชเมียร์ หมาป่า เป็นต้น ซึ่งหนังที่ใช้จะมีลักษณะหรูหรา คลาสิกและเรียบง่ายโดยจะมีการเก็บรายละเอียดซึ่งเน้นให้ดูเป็นธรรมชาติ
4. แฟชั่นสีและเครื่องประดับ
แนวแฟชั่นสีแบ่งได้ดังนี้ สีดา สีขาว และสีเทาออกเงิน แสดงถึงความหรูหราและมีตัวตน สีอุ่น (สี เหลือง แดง ส้ม) แสดงถึงความรู้สึกตื่นเต้น เงียบสงบ เบิกบาน และใจร้อน สีเย็น (สีเขียว น้าเงิน ม่วง) บ่งบอกถึงความเงียบสงบและครุ่นคิด สาหรับเครื่องประดับที่ได้รับความนิยม ได้แก่ โซ่ที่ทาจากโลหะขนาดกลางและใหญ่ ชิ้นส่วนโลหะ ขนาดกลางและใหญ่ ตะขอปิดกระเป๋า เครื่องประดับทองและทองแดง
สานักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน
ที่มา: http://www.depthai.go.th