ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจของสาธารณรัฐเช็กปี 2552 เปรียบเทียบกับประเทศในยุโรปตะวันออกและสหภาพยุโณป

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 16, 2010 15:39 —กรมส่งเสริมการส่งออก

จากรายงานประจำปีของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งที่มีสาขากระจายอยู่ในยุโรปกลาง ยุโรปตะวันออก และสหภาพยุโรป ได้ทำการศึกษาวิจัยข้อมูลทางเศรษฐกิจของประเทศในยุโรปตะวันออก เปรียบเทียบกับบางประเทศที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปและ EURO ZONE เพื่อเผยแพร่ให้กับนักลงทุนที่เป็นลูกค้าของธนาคารสรุปได้ดังนี้ (เป็นการสรุปข้อมูลเฉพาะประเทศที่มีการศึกษา จำนวน 20 ประเทศและสหภาพยุโรปในภาพรวม)

1. ภาพรวม : ปี 2552

สหภาพยุโรป มีพื้นที่รวม 2,438,000 ตารางเมตร ประชากร 329.5 ล้านคน มูลค่าของGDP ปี 2552 รวม 7,465.9 พันล้านยูโร มีรายได้ประชาชาติ 22,658 ยูโร ต่อคนต่อปี มูลค่าการส่งออก 1,274,664 ล้านยูโร คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40.6 ของ GDP มูลค่าการนำเข้า 1,247,454 ล้านยูโร อัตราความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ปี 2552 ขยายตัวลดลงร้อยละ 3.9 เมื่อเทียบกับปี 2551 ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 14.8 ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 และอัตราการว่างงานร้อยละ 9.4

ยุโรปตะวันออก : ขนาดของตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ ได้แก่ รัสเซีย (142.0 ล้านคน) รองลงมาได้แก่ ยูเครน (46.4 ล้านคน) โปแลนด์ (38.1 ล้านคน) โรมาเนีย (21.4 ล้านคน) ตลาดขนาดกลาง ได้แก่ สาธารณรัฐเช็ก (10.4 ล้านคน) ฮังการี (10.0 ล้านคน) และตลาดขนาดเล็กที่มีประชากรต่ำกว่า 10 ล้านคน ได้แก่ บัลกาเรีย (7.6 ล้านคน) เซอร์เบีย (7.4 ล้านคน) สโลวาเกีย (5.4 ล้านคน) โครเอเชีย (4.4 ล้านคน) และสโลวาเนีย (2.0 ล้านคน)

ประเทศที่มีการพึ่งพาการส่งออกสูง ได้แก่ สโลวาเกีย (ร้อยละ 81.1 ของ GDP) ฮังการี (ร้อยละ 78.6 ของ GDP) สาธารณรัฐเช็ก (ร้อยละ 68.4 ของ GDP) และสโลวีเนีย (ร้อยละ 57.6 ของ GDP)

ประเทศที่มีรายได้ประชาชาติสูงที่สุด ได้แก่ สโลวีเนีย (16,950 ยูโร/คน/ปี) รองลงมา คือ สาธารณรัฐเช็ก (13,151 ยูโร) สโลวาเกีย (11,672 ยูโร)โครเอเชีย (10,144 ยูโร) ฮังการี (9,072 ยูโร) โปแลนด์ (7,750 ยูโร) รัสเซีย (6,500 ยูโร) โรมาเนีย (5,552 ยูโร และ ยูเครน (1,811 ยูโร)

อัตราความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ปี 2552 เรียงตามลำดับดังนี้ โปแลนด์ (1.7%) สาธารณรัฐเช็ก (-3.9 %) สโลวาเกีย (-5.0 %) โครเอเชีย (-6.0 %) ฮังการี (-6.5 %) โรมาเนีย (-7.0 %) สโลวีเนีย (-7.8 % ) รัสเซีย (-8.6 %) และยูเครน (-14.0 %)

อัตราการลดลงของผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นภาคการผลิตที่สำคัญของภูมิภาคนี้ และส่งผลต่อการส่งออกของสินค้าที่เป็นวัตถุดิบในการผลิต ที่นำเข้าจากไทย เรียงตามลำดับดังนี้ ยูเครน (-20.0 %) สโลวีเนีย (-15.8 %) ฮังการี (-15.0 %) สโลวาเกีย (-14.5 %) เช็ก (-12.5 %) รัสเซีย (-12.0 %) โครเอเชีย (-8.8 %) โรมาเนีย (-5.4 %) และ โปแลนด์ (-3.9 %)

ดัชนีราคาผู้บริโภค : สาธารณรัฐเช็ก และสโลวีเนีย เป็นประเทศที่มีการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภคในอัตราที่น้อยที่สุด คือ ร้อยละ 1.0 รองลงมา คือ สโลวาเกีย (1.6) โครเอเชีย (2.5) โปแลนด์ (3.5) ฮังการี (4.2) โรมาเนีย (5.6) รัสเซีย (11.7) และยูเครน (16.0)

อัตราการว่างงาน : เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2552 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคการผลิต ทำให้มีการลดกำลังการผลิตลงในทุกประเทศ เป็นเหตุให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น ประเทศที่มีอัตราการว่างงานสูงที่สุด ได้แก่ ประเทศยูเครน (16.0 %) รองลงมาได้แก่ สโลวาเกีย (11.8 %) โปแลนด์ (10.9 %) ฮังการี (9.9 %) โครเอเชีย (9.4 %) รัสเซีย (8.8 %) สาธารณรัฐเช็ก (8.1 %) โรมาเนีย (6.3 %) และสโลวีเนีย (5.8 %)

โครงสร้างของ GDP : ประเทศในภูมิภาคนี้ มีโครงสร้างของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศที่คล้ายคลึงกัน กล่าวคือ รายได้ส่วนใหญ่มาจากภาคบริการ ประมาณร้อยละ 55.4 — 83.8 รองลงมาเป็นภาคอุตสาหกรรม ประมาณร้อยละ 20.2-31.0 ภาคการก่อสร้าง ประมาณร้อยละ 4.6 — 11.8 และภาคการเกษตรและป่าไม้ ประมาณร้อยละ 2.4 — 7.5

2. สาธารณรัฐเช็ก : มีพื้นที่ 78,867 ตารางเมตร ประชากร 10.4 ล้านคน มูลค่า GDP ปี 2552 เท่ากับ 138.0 พันล้านยูโร รายได้ประชาชาติ 13,151 ยูโร/คน/ปี มีการส่งออกสูงถึงร้อยละ 68.4 ของ GDP

สำหรับตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจในปี 2552 พบว่าสาธารณรัฐเช็ก มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ -3.9 % ( เทียบกับปี 2551 ร้อยละ 2.5 คาดการณ์ปี 2553 ร้อยละ 1.6) มูลค่าการส่งออกรวม 80,717 ล้านยูโร (ลดลงร้อยละ 18.34) มูลค่าการนำเข้า 74,528 ล้านยูโร (ลดลงร้อยละ 21.30) ได้ดุลการค้า 6,189 ล้านยูโร (เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.53) ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 12.5 อัตราการว่างงานร้อยละ 8.1 (เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ร้อยละ 2.6) การลงทุนจากต่างประเทศ ร้อยละ 2.2 ของ GDP (ลดลงจากปี 2551 )

จากโครงสร้างของ GDP ปี 2551 พบว่า สาธารณรัฐเช็ก มีรายได้จากภาคการบริการสูงที่สุด (ร้อยละ 59.9) รองลงมาได้แก่ ภาคอุตสาหกรรม (ร้อยละ 31.0) ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้าง GDP ของประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ในขณะที่มีรายได้จากภาคการเกษตรและป่าไม้ เพียงร้อยละ 2.5)

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ