การเยือนนครกัวดาลาฮาร่า ประเทศเม็กซิโกของ Team Thailand ในระหว่างวันที่ 9- 11 มีนาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 23, 2010 17:06 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ด้วยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโกและสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก (Team Thailand) ได้มีโครงการการเยือนนครกัวดาลาฮาร่า ซึ่งเมืองสำคัญในประเทศเม็กซิโก ภายใต้โครงการ FMIP โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเข้าพบผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐฯ เอกชนและหอการค้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ในการศึกษาสำรวจการหาแนวทางการขยายการค้าและการลงทุนของไทยในประเทศเม็กซิโก ในระดับภูมิภาค และเพื่อให้นักธุรกิจในพื้นที่รับทราบศักยภาพของไทยและสินค้าของไทย โดยได้มีการเดินทางไปเยือนในระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม 2553

ในการนี้สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงเม็กซิโกจึงใคร่ขอสรุปยละเอียดผลการเยือนนครกัวดาลาฮาร่าดังต่อไปนี้

นครกัวดาลาฮาร่าเป็นนครที่สำคัญของประเทศเม็กซิโก ตั้งอยู่ในภาคกลางและภาคตะวันออกติดมหาสมุทรแปซิฟิกของประเทศ เป็นเมืองหลวงของจังหวัดฮาลิสโก้(Jalisco) ในปัจจุบันจังหวัดฮาลิสโก้มีความสำคัญทางภูมิศาสตร์ กล่าวคือเป็นจังหวัดที่ใช้ท่าเรือขนส่งขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศเม็กซิโก ณ ท่าเรือมาซาเนโย่ (Manzanillo) ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดขนาดเล็ก ณ จังหวัดโคลิมา (Colima) ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางด้านโล จิสติกส์ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของประเทศ ซึ่งเชื่อมโยงกับการขนส่งสินค้าทุกรายการที่นำเข้ามาจากเอเชีย รวมทั้งสินค้าจากประเทศไทย ทั้งยังเชื่อมโยงเส้นทางขนส่งทางรถยนต์และทางรถไฟข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริ กาโดยเข้าไปทางภาคกลางของสหรัฐฯ สู่ทางรัฐเท็กซัส เข้าไปสู่ทางเหนือสุดในประเทศแคนาดาเรียกว่า นาฟต้า รูท (Nafta Route)

ปัจจุบันรัฐฮาลิสโก้มีประชากรประมาณ 4.2 ล้านคน โดยนครกัวดาลาฮาร่ามีประชากรอาศัยอยู่ในเมืองหลวงจำนวน 1.6 ล้านราย ซึ่งเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองหลวงมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศเม็กซิโก ภาคเศรษฐกิจของจังหวัดมีส่วนสร้างรายได้ให้แก่ประเทศจากผลของการใช้มีท่าเรืออันดับ 1 ของประเทศทำให้เกิดธุรกิจและอุตสาหกรรมที่สำคัญและมีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้แก่ อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์เหล็ก ของใช้ภายในบ้านของขวัญของชำร่วยและงานศิลปะ นอกจากนี้ ความสำคัญของเมืองที่ได้สร้างศูนย์แสดงสินค้าที่มีกิจกรรมอยู่ตลอดปีและถือว่ามีกิจกรรมมากที่สุดของประเทศอีกด้วย โดยะมีการจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมมากมาย ได้แก่ งานแสดงสินค้าที่สำคัญที่จัดขึ้นในนครกัวดาลาฮาร่า คือ งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ Expo Joya งานแสดงสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปและผ้าผืน Intermoda งานแสดงสินค้ารองเท้า Moda งานแสดงสินค้าหนังสือ Guadalajara International Book Fair เทศกาลภาพยนต์ Guadalajara Film Festival เทศกาลดนตรีและเทศกาลนักคนดนตรีเม็กซิโก Mariachi Festival ซึ่งก่อกำเนิดในจังหวัดฮาลิสโก้เอง ซึ่งล้วนเป็นงานแสดงสินค้าและกิจกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเม็กซิโก รายได้ส่วนใหญ่ของภาคการผลิตได้มีการจัดจำหน่ายภายในประเทศประมาณถึงร้อยละ 60 และส่วนที่เหลือผลิตเพื่อการส่งออก

นครกัวดาลาฮาร่าถือเป็นนครที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 ในลาตินอเมริกาในแง่ของปริมาณประชากร พื้นที่เขตเมือง และรายได้ต่อหัวของประชากร โดยในปี 2549 วารสาร FDI ได้จัดอันดับเป็นเมืองที่สำคัญสูงสุดในประเทศเม็กซิโกในแง่ของผู้ลงทุนต่างชาติ และความเป็นไปได้และโอกาสทางธูรกิจที่สูงเป็นอันดับ 2 รองจากนครชิคาโกในสหรัฐฯ เป็นนครแรกที่มีการจัดตั้งอุทยานอุตสาหกรรม industrial park มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1947 เป็นต้นมา เป็นจังหวัดที่มีส่วนของรายได้ประชาชาติของประเทศถึงร้อยละ 37 ของรายได้ทั้งหมด และหากเปรียบเทียบจังหวัดฮาลิสโก้เป็นประเทศหนึ่งแล้ว จะเป็นประเทศที่สร้างรายได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 64 ของโลก อย่างไรก็ตามการเจริญเติบโตของกัวดาลาฮาร่าเองผูกพันการการลงทุนจากต่างประเทศค่อนข้างมาก นับตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา และมีบริษัทชั้นนำได้ไปตั้งธุรกิจและโรงงานภาคการผลิต ได้แก่ บริษัท General Electric, IBM. Intel Corp., Freescale Semiconductor, Hitachi Ltd.,Hewlett-Packard, Siemems, Flextronics, TCS, Jabril Circuits จนได้รับฉายาว่าเป็นSilicon Valley of Mexico รายได้ของจังหวัดจึงแบ่งมาจากด้านการค้าและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญและมีชื่อเสียงคือ เป็นแหล่งกำเนิดและแหล่งผลิตของสุราของเม็กซิโกเรียกว่าทาคิล่า (taquila) ซึ่งแต่เดิมถือเป็นสุราพื้นบ้านและได้มีการพัฒนารูปแบบและคุณภาพให้มีชื่อเสียงในระดับโลก มีการพัฒนาการท่องเที่ยวแบบรถไฟที่เรียกว่า taquila trail สำหรับนักท่องเที่ยวขึ้น นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นแหล่งการท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญ โดยเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับ 2 รองจากเมืองแคนคูน (Cancun) คือเมืองพัวโต วาฮาต้า (Puerto Vallarta)

ประวัติศาสตร์ของนครกัวดาลาฮาร่ามีประวัติอันยาวนานของประเทศเม็กซิโก โดยก่อกำเนิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1532 มีสถานสำคัญที่เรียกว่า Hospicio Cabanas ซึ่งเป็นสถานเก่าที่เป็นแหล่งให้การพักพิงและพยาบาลให้แก่คนยากไร้และพิการของบาทหลวงในอดีตและเป็นเครื่องหมายกลางนครกัวดาลาอาร่า ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งได้รับสถานะเป็น World Heritage มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 เป็นต้นมา และเป็นสัญลักษณ์ของการประชุมสุดยอดผู้นำอเมริกาเหนือของผู้นำสหรัฐฯ นายบารัก โอบามา ผู้นำแคนาดานายสเตฟาน ฮาเปอร์ และผู้นำเม็กซิโก นายเฟลิเป คาลเดอรอน ในคราวประชุมสุดยอดเมื่อวันที่ 9-10 สิงหาคม ค.ศ. 2009 ที่ผ่านมา

ในปัจจุบันกัวดาลาฮาร่ามีสถาบันการศึกษาจำนวน 18 แห่งและทำหน้าที่ประสานงานกับภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดเพื่อพัฒนาแหล่งแรงงานที่มีฝีมือให้แก่ภาคอุต สาหกรรม นอกจากนี้ กัวดาลาฮาร่าเองก็ได้รับการคัดเลือกเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาภูมิภาคพื้น อเมริกา คือ Pan American Games ครั้งที่ 14 ในปี ค.ศ. 2011 โดยจะมีการแข่งขันจำนวน 26 ประเภทกีฬาจาก 42 ประเทศ บวกกับอีก 2 ประเทศที่กำลังรอการอนุมัติจากคณะกรรมกรโอลิมปิกสากลคือ ประเทศคูราเซาและเซ็นต์มาร์ติน

คณะฯ ได้เข้าพบเลขาธิการหน่วยงานส่งเสริมเศรษฐกิจของจังหวัดฮาลิโก้ Mr.Alonso Ulloa Vaelez และคณะฯ ผู้แทนของหน่วยงานฯ ได้มีการบรรยายสรุปศักยภาพของจังหวัดฮาลิสโก้ ซึ่งสรุปได้ว่า จังหวัดฯ มีความสำคัญต่อภาคเศรษฐกิจในระดับมหาภาคของประเทศโดยมีความสำคัญเป็นอันดับ 2 ของประเทศเม็กซิโก มีโรงงานที่ผลิตสินค้าลูกโป่งขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ที่มีแรงงานกว่า 2,000 ราย และมีความต้องการที่จะนำเข้ายางธรรมชาติจากไทยในปริมาณมาก จังหวัดได้รับการเรียกขานว่าเป็น Silicon Valley of Mexico เนื่องจากการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และอวกาศยาน ซึ่งอยากให้ประเทศไทยที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาดูความเป็นไปได้ในง่ของการร่วมลงทุนในพื้นที่ มีความสัมพันธ์ที่เข็มแข้งระหว่างภาครัฐฯ เอกชนและอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา และหอการค้าทำให้เกิดความแข็งแก่งและการพัฒนาเศรษฐกิจกิจอย่างยั่งยืน มีกลุ่มคลัสเตอร์ของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ และของอุตสาหกรรมซอฟแวร์ (software) ที่แข็งแกร่งในจังหวัด มีนโยบายให้การส่งเสริมด้านธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง เพื่อให้เกิดโครงสร้างและความพร้อมให้แก่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีการพัฒนาด้านอุตสาหรรม Animation and Mutimedia เพื่อเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการทำภาพยนต์ของเม็กซิโกและกับในสหรัฐอเมริกา มีอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดกลางในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และการพัฒนาอุตสาหกรรมกับสถาบันการศึกษาขั้นเริ่มต้น incubator มีการจัดสร้างsoftware center เพื่อให้การสนับสนุนโครงสร้างให้แก่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ในปัจจุบันมีบริษัทท่องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการมีจำนวน 31 ราย มีการนโยบายการจัดทำศูนย์รวบรวมบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อร่วมกันจัดทำในรูปแบบครบวงจร Integrationเพื่อให้เกิดความแข็งแกร่งต่อผู้ผลิตและผู้ส่งออก

คณะฯ ได้เข้าเข้าพบกับเลขาธิการด้านการท่องเที่ยว Secretariat of Tourism โดย Mr. Miguel Gonzalez Gonzales คณะฯ ได้รับการบรรยายสรุปศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดฮาลิสโก้ โดยในปี ค.ศ. 2009 มีอัตราลดลงร้อยละ 5.98 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และการระบาดของไข้หวัด H1N1 ปริมาณนักท่องเที่ยวรวมจำนวน 22,239,521 ราย โดยแบ่งนักท่องเที่ยวมาจาก ประเทศสหรัฐฯ ในอัตราส่วนอยู่ละ 56 จากแดนาดาร้อยละ 10 และร้อยละ 5 จากเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากญี่ปุ่นและจีน ในปัจจุบัน มีเมืองขนาดเล็กๆ ที่ติดทะเลสาปในจังหวัดได้กลายเป็นที่พักอาศัยของกลุ่มหมดอายุการทำงาน retiree จากประเทศแคนาดาและสหรัฐฯ ในปริมาณกว่า 10,000 ราย มีเรือท่องเที่ยวที่มีการเดินทางเข้าสู่เมืองตากอากาศที่เมือง Puerto Vallarta แต่มีอัตราลดลงร้อยละ 33.45 ในปี ค.ศ. 2009 จากปัญหาเดียวกัน โดยเฉลี่ยจะมีนักท่องเที่ยวจาก cruise ship ประมาณ 112,508 รายต่อปี ในปัจจุบันจำนวนห้องพักในจังหวัดมีจำนวน 55,000 ห้อง ซึ่งหากดูจากกิจกรรม การท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ความต้องการห้องพักจึงมีไม่เพียงพอ และยังขาดจำนวนห้องอีกมาก โดยเฉพาะในระดับสูง High-end ซึ่งมีความต้องการมากขึ้น เฉพาะในเมือง Puerto Vallarta ซึ่งมีโรงแรมอยู่จำนวน 300 แห่งจำนวน 18,000 ห้อง ซึ่งยังไม่สามารถรองรับการกิจกรรมที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกจกรรม เช่นการแข่งจัน Pan American Games ในช่วงเดือนตุลาคม ค.ศ. 2011 ในปีหน้านี้

คณะฯ ได้เข้าพบรองผู้ว่าราชการจังหวัดฮาลิสโก Secretary General of the State of Jalisco คือ Mr. Antonio Guzman Perez Pelaez ณ ศาลากลางจังหวัดฮาลิโก้ Government Place Salon Hidalgo ซึ่งประเด็นสนทนาคือ เรื่องโอกาสและความร่วมมือระหว่างไทยกับเม็กซิโก และข่องทางและโอกาสในความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว และโอกาสของจังหวัดฮาลิสโก้กับประเทศไทย

คณะฯ ได้เข้ากับกับรองประธานหอการค้าจังหวัดฮาลิสโก้ คือ Mr. Jose Manuel Tejeda Preciado และคณะหอการค้าฯ ซึ่งได้บรรยายสรุปโอกาสและช่องทางการค้าและศักยภาพของจังหวัด โอกาสความร่วมมือกับไทย ซึ่งหอการค้าของจังหวัดฮาลิสโก้ที่จะหาทางร่วมลงนามและร่ววมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการค้า และการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนการค้าระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม อาคารของหอการค้าเองเป็นอาคารที่ได้พบว่ามีความพร้อม เพราะมีห้องกาประชุมการจัดเลี้ยงการเจรจาการค้าของตนเอง ซึ่งสามารถให้เช่าสำหรับกิจกรรมทางการค้าได้ และยังมีนโยบายที่จัดสร้างอาคารใหม่ในพื้นที่ติดกันของหอการค้าที่สูงที่สุดในนครกัวดาวาฮาร่าอีกด้วย นอกจากนี้ในคณะของหอการค้าคือ Mr.Jaime Enrique Michel Valesco ซึ่งเป็นประธานของสถาบันการค้าระหว่างประเทศของหอการค้า จังหวัดฮาลิวโก้และเป็นประธานเจ้าหน้าที่ ของบริษัท Mazapan de la Rosa S.A. de C.V. ซึ่งเป็นผู้ผลิตขนมถัวตัดใหญ่ที่สุดของเม็กซิโกได้แสดงความสนใจที่จะนำเข้าเครื่องจักรในสายการการผลิตและในอุตสาหกรรมภาคการผลิตจากไทยซึ่งสำนักงานฯ จะได้ประสานงานกับสำนักฯ ที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งแก่ผู้ผลิตผู้ส่งออกของไทยเพื่อเสนอรายการให้บุคคลดังกล่าวต่อไป

คณะฯ ได้เข้าไปเยือนโรงงานการผลิต ดีวีดีของภาพยนต์ของบริษัท Technicolor ซึ่งเป็นโรงงานที่มีกำลังผลิตดีวีดีในอัตรา 3 ล้านแผ่นต่อวัน โดยร้อยละ 90 ส่งเข้าไปยังสหรัฐฯ และเป็นตัวแทนให้แก่เครือค่ายภาพยนต์ของสหรัฐฯ หลายแห่ง ทำหน้าที่ตั้งผลิต จัดจำหน่าย การจัดเก็บเงินแบบครบวงจร บริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการส่งออกภายใต้โครงการมาคิลาโดร่า Maquiladora ในจังหวัดฮาลิสโก้

สุดท้ายคณะฯ ได้เจ้าไปเยือนงานแสดงสินค้าทั่วไปคืองานแสดงสินค้า ANTAD 2010 ซึ่งจัด ณ ศูนย์แสดงสินค้า Expo Guadalajara ซึ่งจัดในระหว่างวันที่ 10 —12 มีนาคม 2553 โดยงานแสดงสินค้าจะเน้นในสินค้าในกลุ่มอาหารแปรรูป เครื่องดื่ม เครื่องดื่มชูกำลัง เครือข่ายร้านอาหารที่เป็นแฟรนไชด์ กลุ่มห้างสรรพสินค้า กลุ่มซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ โดยมีประเทศเข่าร่วมในลักษณะ national pavilion ได้แก่ ประเทศนิวซีแลนด์อาเจนติน่า ชีลี มีบริษัทเข้าร่วมประมาณ 3,000 รายและมีผู้มาเยือนงานแสดงสินค้าประมาณ 30,000 ราย ทั้งนี้ มีอัตราค่าเข้ามาเยือนงานฯ อยู่ในอัตรา 950 เปโซต่อวัน ซึ่งประมาณ 74 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงมากสำหรับงานฯ ใปนระเทศเม็กซิโกซึ่งคณะได้เข้าไปสำรวจและพิจารณาเห็นว่ามีศักยภาพเพียงพอที่บริษัทของไทยควรที่จะเข้าร่วมงานฯ หากมีความสนใจที่จะมาขยายตัวในตลาดใหม่อย่างประเทศเม็กซิโก ทั้งนี้ สำนักงานฯ จะได้ส่งหนังสือ fair catalog ของงานฯ ให้แก่ห้องสมุดกรมฯ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ