ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2553 ไทยมีมูลค่าการส่งออก 28,127.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึงร้อยละ 26.78 ซึ่งเห็นได้ว่าตลาดส่งออกเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินกาตรการกระตุ้นการส่งออกที่เร่งปรับกลยุทธ์ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก โดยการสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์
เมื่อเร็วๆ นี้ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก และดร.ศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการสำนักงานนวตกรรมแห่งชาติ ได้ให้เกียรติเป็นประธานร่วมในพิธีแถลงข่าวการลงนามความร่วมมือ “การพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการยวตกรรมไทยสู่ตลาดโลก”
ภายในงาน นางพรทิวา เผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศเพื่อผลักดันการส่งออกในระยะ 5 ปี โดยเน้นยุทธศาสตร์สำคัญ 6 เรื่อง ได้แก่ การยกระดับคุณภาพและภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการไทยสู่ตลาดบน ส่งเสริมการผลิตและการพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การกระจายตลาดส่งออกของไทยและสร้างฐานการทำธุรกิจของไทยในทุกภูมิภาคของโลก เป็นหนึ่งในผู้นำอาเซียนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวและการแข่งขัยของผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก และการเจรจาเพื่อเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ
ด้านนางศรีรัตน์ กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2553 ไทยมีมูลค่าการส่งออก 28,127.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึงร้อยละ 26.78 ซึ่งเห็นได้ว่าตลาดส่งออกเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินกาตรการกระตุ้นการส่งออกที่เร่งปรับกลยุทธ์ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก โดยการสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์และบริการนับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ท่จะช่วยยกระดับความสามารถด้านการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย กรมส่งเสริมการส่งออกจึงร่วมกับสนช. ในการสนับสนุนผู้ประกอบไทยที่มการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรม โดยนำร่องในโครงการ “ตะวันออกกลาง...ตลาดใหมิ่ตภัณฑ์ธรรมชาติของไทย” เพื่อผลักดันนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ธรรมชาติให้มีโอกาสก้าวสู่ตลาดตะวันออกกลางโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาหรับ ซึ่งจัดเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และทางกรมส่งเสริมการส่งออก ยังเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการค้าและการตลาดต่างประเทศ รวมถึงการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อสร้างเป็นโจทย์ให้แก่ผู้ประกอบการไทยและสนช.จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการในการพัฒนานวัตกรรมทั้งด้านสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของตลาดพร้อมทั้งติดตามความก้าวหน้าของโครงการและร่วมกันพัฒนาแนวทางพัฒนาผู้ประกอบการไทยต่อไป
ที่มา: http://www.depthai.go.th