รัฐบาลญี่ปุ่นมองเห็นช่องทางส่งออก Pop Culture ออกไปแข่งขันในตลาดโลกโดยมองว่า Pop Culture ของญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะของเอเชีย หากมีการส่งเสริมและพัฒนาให้สามารถแข่งขันได้ ก็น่าจะเป็นอีกสาขาหนึ่งที่สามารถทำรายได้เข้าประเทศ พร้อมๆ กับได้ส่งเสริมศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นไปยังตลาดโลก โดยตั้งเป้าหมายเจาะตลาดในเอเชีย ยุโรปและอเมริกาเหนือ เป็นอันดับแรก เตรียมรณรงค์เพื่อบุกตลาดภายใต้ ชื่อ “Cool Japan”
กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) กำลังยกร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาและส่งเสริม Pop Culture ประกอบไปด้วย การ์ตูน เกมส์ อาหาร และแฟชั่น ภายใต้ชื่อ “Cool Japan” เพื่อเตรียมเสนอต่อคณะกรรมการพิเศษของ METI กลางเดือนเมษายนนี้ และเชื่อว่าน่าจะเป็นสาขาหนึ่งที่เป็นแกนสำคัญของยุทธศาสตร์ใหม่เพื่อการเติบโตของรัฐบาล (Government’s New Growth Strategies)
ภายใต้ยุทธศาสตร์ ได้วางแนวทางการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการญี่ปุ่น ดังนี้
- เร่งรัดให้ Japan External Trade Organization หรือ JETRO หารืออย่างใกล้ชิดกับบริษัทที่ปรึกษาเอกชน และให้ความช่วยอย่างต่อเนื่องแก่เหลือบริษัททขนาดเล็กและขนาดกลางที่ยังไม่สามารถออกไปหาตลาดในต่างประเทศได้โดยลำพัง
- ให้จัดวางระบบที่อำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันระหว่างองค์กรและบริษัทเอกชน ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการทำสัญญาขายกับบริษัทผู้ซื้อในต่างประเทศ
- จัดให้มีกองทุนร่วมจากภาครัฐและเอกชน เพื่อเป็นงบสนับสนุนอุตสาหกรรมบันเทิง (Content Industry) ของญี่ปุ่น ให้สามารถเข้าสู่ตลาดต่างประเทศและเพิ่มยอดขายของอุตสาหกรรม รวมทั้งเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมแนะนำและส่งเสริมแฟชั่น และ Lifestyle แบบญี่ปุ่นในต่างประเทศ
- เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนเงื่อนไขการออกใบอนุญาตวีซ่าทำงาน ภายใต้กฏหมายการเข้าเมืองและคนต่างด้าวเพื่อเปิดรับผู้มีความคิดสร้างสรรชาวต่างชาติเข้าสู่ประเทศ
อุตสาหกรรมที่เรียกโดยรวมว่า pop culture ของญี่ปุ่นซึ่งรวมธุรกิจบันเทิงและแฟชั่น มีมูลค่าตลาดประมาณ 45 ล้านล้านเยนในปี 2547 มีการจ้างงานสูงถึง 2.15 ล้านคน แม้ว่าจะไม่มีการรวบรวมสถิติไว้หลังจากนั้น แต่ก็เชื่อว่ามีการขยายตัวสูงขึ้นมาก ขณะที่ ญี่ปุ่นส่งออกสาขานี้ออกไปต่างประเทศเพียงร้อยละ 2 ซึ่งน้อยมาก เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาที่ส่งออกในสัดส่วนร้อยละ 18 เป็นที่ยอมรับกันว่า ญี่ปุ่นมีจุดแข็งที่สาขา Animation และเกมส์ แต่ยังด้อยกว่าประเทศอื่นๆ ด้านภาพยนต์ และดนตรี อย่างไรก็ตาม กระแสความนิยมดนตรี และนักร้องญี่ปุ่นได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในกลุ่มชาวเอเชีย โดยเฉพาะในจีน ประกอบกับรัฐบาลญี่ปุ่นมองว่า ยังมีวัฒนธรรมญี่ปุ่นสาขาต่างๆ อีกมากที่ชาวต่างชาติชื่นชอบ ที่เรียกรวมๆ ว่า Japan Pop Culture เช่น แฟชั่นทรงผม การแต่งหน้า Robot การห่อผ้าแบบญี่ปุ่น(Kuroshiki) การพับกระดาษ รวมถึง Eco-friendly products และ Lifestyle ที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่น หรือจังหวัดต่างๆ ของญี่ปุ่น ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวและการค้าของจังหวัดด้วยการจัดคณะศิลปะ วัฒนธรรมและสินค้าพื้นเมืองเดินทางออกไปจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และ แนะนำสินค้าในประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ได้รับความสนใจ สินค้าญี่ปุ่นขายหมดในเวลาอันสั้นแม้ว่าจะราคาสูง จึงเป็นที่มาของนโยบายของรัฐบาล ที่จะเริ่มส่งเสริม Cool Japan อย่างจริงจัง เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยๆ ในท้องถิ่นที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ให้สามารถออกไปโลดแล่นประกอบธุรกิจ และเจริญเติบโตในต่างประเทศ ทั้งนี้ ประเทศไทย เป็นหนึ่งในตลาดเป้าหมายที่ญี่ปุ่นมองว่ามีอำนาจซื้อและผู้ซื้อชาวไทยให้คุณค่าต่อสินค้าญี่ปุ่นสูงกว่าสินค้าจากแหล่งอื่น
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: http://www.depthai.go.th