ตลาดสินค้าอิเล็คทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 23, 2010 14:51 —กรมส่งเสริมการส่งออก

1. ภาวะการจำหน่าย

1.1 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับการจัดอันดับเป็นสินค้ายอดนิยม หรือสินค้าดีเด่นในปี 2009 ของญี่ปุ่นมีทั้งสิ้น 4 ประเภทได้แก่

1. กล้องถ่ายภาพ รุ่น HDR-XR 500V/520V ของบริษัทโซนี่ โดยเป็น camcorder ยี่ห้อแรกที่นำเทคโนโลยี่ตรวจจับแบบ Back-illuminated CMOS (Complimentary metal oxide semiconductor) มาใช้ ทำให้ความไวแสงเพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า การถ่ายภาพในความมืดดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมทั้งมีระบบป้องกันภาพไหวขณะถ่ายให้ดียิ่งขึ้น

2. เครื่องเล่นแบบพกพา รุ่น Nintendo DSi ของ Nintendo ที่ได้รับการออกแบบให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถใช้งานได้ง่าย อีกทั้งสามารถใช้เป็นเครื่องบันทึก/ตัดต่อภาพ และเสียง และเครื่องมือสื่อสารได้

3. โทรทัศน์จอแบน รุ่น Aquos ของ Sharp ที่มีความคมชัดสูงเพิ่ม backlight มากกว่าเดิม 20 % ทำให้ภาพมีคุณภาพดีขึ้น แต่ประหยัดพลังงานมากกว่า โดยรุ่นขนาด 46 นิ้ว ใช้พลังงานน้อยกว่ารุ่นเดิมถึง 30 %

4. หม้อหุงข้าว รุ่น Steamless IH ของ Mitsubishi เป็นหม้อหุงข้าวชนิดปราศจากไอร้อนโดยอาศัยหลักการกลั่นตัวให้ไอน้ำกลายเป็นน้ำ ทำให้ไม่มีความชื้นในบ้าน และปลอดภัยสำหรับเด็กโดยไม่โดนไอน้ำลวกมือ

1.2 บริษัทโซนี่ได้เริ่มวางจำหน่าย โทรทัศน์ 3 มิติ ขนาด 40, 46,52 และ 60 นิ้วในวันที่ 10 มิถุนายน โดยจะแถมแว่นตาที่ใช้สวมใส่ดูภาพ จำนวน 2 อัน โดยราคาขาย ขนาด 40 นิ้ว ราคา 290,000 เยน (ประมาณ 108,000 บาท) สูงกว่าโทรทัศน์ธรรมดาประมาณ 90,000 เยน นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะผลิตเครื่องเล่นเกม Playstation 3 แบบ 3 มิติ รวมทั้งคอมพิวเตอร์ และกล้องถ่ายภาพดิจิตอลที่สามารถรับภาพ 3 มิติได้ด้วย บริษัทตั้งเป้าที่จะจำหน่ายโทรทัศน์จอภาพ LCD จำนวน 25 ล้านเครื่อง ภายในปี 2010

2. ภาวะการผลิต

ผู้ผลิตโซลาร์เซลล์ต่างพยายามลดต้นทุนการผลิตเพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาดคืนจากประเทศจีน บริษัทชาร์ปได้เปิดโรงงานแห่งใหม่ใน Green Front Sakai จังหวัดโอซากา โดยจะผลิตแผ่นฟิล์มโซลาร์เซลล์โดยใช้กระจกขนาด 1,000x1,400 มิลลิเมตร และใช้แผ่นซิลิคอนติดไปบนกระจก โดยลดปริมาณซิลิคอนที่ใช้ลงทำให้กระบวนการผลิตง่ายขึ้น และสามารถลดต้นทุนการผลิตได้เป็นจำนวนมากส่วนบริษัทมิตซูบิชิได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยโตเกียวพัฒนาการผลิตแผ่นฟิล์มขนาดบางที่สามารถนำไปติดบนเสื้อผ้า รถยนต์ และอื่นๆ ทำให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น บริษัทโคนิกามินอลตา จะมีการพัฒนาเทคโนโลยี่การผลิตโซลาร์เซลล์ที่ประหยัดพลังงานภายในปี 2012 และบริษัทเกียวเซรา จะลงทุนถึง 20 พันล้านเยนเพื่อเพิ่มการผลิตในโรงงานที่ยาสุ จังหวัดชิกะ ถึง 800,000 กิโลวัตต์ ในปี 2011 ทั้งนี้ญี่ปุ่นสูญเสียส่วนแบ่งตลาดโซลาร์เซลล์ให้กับสินค้าราคาถูกจากจีน และผู้ผลิตต่างชาติอื่นๆ

สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ นครโอซากา

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ