สินค้าเครื่องหนังไทยในงานแสดงสินค้า MIPEL 97thได้รับการตอบรับเกินคาดหมาย

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 23, 2010 15:22 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ข้อมูลทั่วไป

งานฯ MIPEL 97th เป็นงานแสดงสินค้าเครื่องหนังและเครื่องประดับระดับนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้าเมืองมิลาน (Fiera Milan Rho) ระหว่างวันที่ 3 — 6 มีนาคม 2553 โดยได้จัดแสดงสินค้าเครื่องหนังคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว 2010-2011 ซึ่งงานดังกล่าวได้จัดแสดงในอาคาร 8 12 และ 16 รวมพื้นที่ประมาณ 30,000 ตารางเมตร สาหรับงานฯ MIPEL 98th จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 — 22 สิงหาคม 2553

รายละเอียดของงานฯ

สัญญาณของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอิตาลีเริ่มต้นจากช่วงไตรมาส 3 ของปี2552 ซึ่งงานฯ MIPEL 97th ในครั้งนี้ได้ปิดงานลงอย่างสวยงามซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ผู้เข้าร่วมแสดงในงานฯ มีจำนวน 427 ราย จากต่างประเทศ 169 ราย จากอิตาลี 258 ราย

ผู้เข้าชมงานฯ มีจานวน 16,163 ราย จากต่างประเทศ 8,148 ราย จากอิตาลี 8,015 ราย มีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 (+2% จากอิตาลี และจากต่างประเทศ +9.3%) เปรียบเทียบจากเดือนมีนาคม 2552

โดยงานฯ ในครั้งนี้พบว่าจำนวนของผู้เข้าชมงานฯ จากต่างประเทศที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ได้แก่

  • รัสเซีย (+14.2%)
  • ญี่ปุ่น (+8.8%)
  • สเปน เยอรมันนี และสหราชอาณาจักร (+5.6%)

ส่วนประเทศสหรัฐอเมริการกลับมีจำนวนของผู้เข้าชมงานฯ ลดลงร้อยละ 4.3 (ประมาณ 500 ราย)

การเข้าร่วมงานของผู้ประกอบการไทย

บริษัทไทยได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า MIPEL 97th เป็นครั้งที่ 9 โดยได้รับจัดสรรพื้นที่ในอาคาร 8 โดยมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานฯ จำนวน 5 ราย ได้แก่

1. Miah Bag co.ltd.

2. Oriental Bag co.ltd.

3. Classic Inter Leather Products

4. Ring co.ltd.

5. MBP Leathers Industries co.ltd.

จากการเข้าร่วมงานของผู้ประกอบการไทยทั้ง 5 รายนั้น พบว่าทุกรายได้รับการสั่งซื้อจากลูกค้าเกินกว่าที่คาดหมายไว้ โดยการสั่งซื้อส่วนใหญ่มาจากผู้นำเข้า/ลูกค้าจากประเทศอื่น แต่ในปีนี้พบว่า มีผู้นาเข้าจากอิตาลีให้ความสนใจสั่งซื้อสินค้าจากไทย อาจเนื่องมาจากการที่ผู้ประกอบการไทยได้เข้าร่วมงานฯ ทุก ๆ ปี ส่งผลให้ผู้นำเข้าอิตาลีเห็นศักยภาพและคุณภาพของสินค้าไทยที่มีการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการไทยบางบริษัทได้ลูกค้าทั้งจากต่างประเทศและจากอิตาลีเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ดีที่สินค้าไทยเริ่มเป็นที่ยอมรับและได้รับความเชื่อถือจากผู้นำเข้าทั้งในและต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยยังคงเผชิญปัญหาในเรื่องของราคาสินค้าที่มีราคาสูงเมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าจากจีนและอินเดีย ส่งผลให้ผู้นำเข้าหลายรายหันไปให้ความใจสั่งซื้อสินค้าจากประเทศดังกล่าว

โดยครั้งนี้ทาง สคต.มิลานได้ทำการประชาสัมพันธ์คูหาของผู้ส่งออกไทยผ่านนิตยสาร Mipel Magazine, ModaPelle และ Guide Map โดยนิตยสาร ModaPelle ถือเป็นนิตยสารที่ได้รับการยอมรับจาก Trader ทั่วโลก รวมทั้งจัดจำหน่ายในร้านหนังสือที่สาคัญ ๆ นอกจากนี้ ยังมีการลงโฆษณา Billboard จานวน 2 ใบ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ว่ามีสินค้าไทยเข้าร่วมงานแสดงและยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์อันดีให้กับสินค้าไทย

ความคิดเห็นเกี่ยวกับงาน

ตลาดกระเป๋าเครื่องหนังอิตาลีเป็นตลาดที่เน้นรูปแบบของสินค้าที่มีดีไซน์ทันสมัย โดย Trend ของสินค้าจะเปลี่ยนแปลงค่อนข้างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นผู้นำทางด้านแฟชั่น โดยสมาคมเครื่องหนังอิตาลีจะกำหนด Trend เครื่องหนังของแต่ละฤดูกาลออกมาผ่านการประชุมระดมความคิดเห็นและการศึกษาวิจัยจากดีไซน์เนอร์ชั้นนำและผู้เกี่ยวข้องในวงการเครื่องหนัง เพื่อกาหนดทิศทางของ Trend ของแต่ละฤดูกาลออกมาล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี โดยสมาชิกของสมาคมเครื่องหนังจะนำ Trend เหล่านี้ไปตีความและผลิตเป็นสินค้าคอลเล็คชั่นของแต่ละบริษัทต่อไป ดังนั้น ผู้มาเข้าชมงานเครื่องหนังอิตาลีจะเห็นว่าสินค้าของบริษัทอิตาลีจะมีรูปแบบที่โดดเด่นและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอทุกฤดูกาล

ในส่วนสินค้าของผู้ส่งออกไทยที่มาออกงานนั้น ถึงจะมีคุณภาพด้านการผลิตก็จริงแต่ในเรื่องของดีไซน์แล้วยังไม่เป็นไปตาม Trend แฟชั่นของอิตาลี จึงไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้นำเข้าอิตาเลียนเท่าใดนัก ในส่วนของราคายังถือว่ามีราคาสูงกว่าประเทศจีนและอินเดียอยู่มากนัก นอกจากนี้ ผู้นำเข้าอิตาลีส่วนใหญ่จะมีกิจการ/ร้านจำหน่ายขนาดเล็ก จึงมีความต้องการสั่งซื้อสินค้าในปริมาณไม่มากนัก แต่การสั่งซื้อสินค้าจากผู้ส่งออกไทยจะมียอดขั้นต่าของการสั่งซื้อ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ผู้นำเข้าอิตาลีไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าจากไทยได้

ข้อเสนอแนะ

1. ยกระดับเป็นผู้ผลิตสินค้ามีดีไซน์

สคต.มิลาน เห็นว่าไทยควรยกระดับตัวเองให้เป็นผู้ผลิตสินค้าที่มีดีไซน์เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ซึ่งจะทำให้สามารถพัฒนาต่อไปจนสามารถจำหน่ายแบรนด์ของตนเอง และทำให้สามารถขายสินค้าได้ราคาดี ไม่ควรทำตัวเป็นแค่ผู้ผลิตตาม order เท่านั้น นอกจากนี้ ไทยควรที่จะยกระดับตัวเองให้เป็นผู้ผลิตสินค้าที่แตกต่างไปจากผู้ผลิตในจีนหรืออินเดียที่มีรูปแบบสินค้าธรรมดาและราคาถูก

2. ให้ความสาคัญกับ Trend แฟชั่น

โดยผู้ผลิตไทยควรให้ความสำคัญในด้านรูปแบบดีไซน์และเทรนด์สินค้าที่เหมาะสมกับตลาดเป้าหมาย เช่น งานเครื่องหนัง Mipel เป็นตลาดเครื่องหนังระดับนานาชาติ ดังนั้น บริษัทอิตาเลียนที่มาออกงานจะแสดงสินค้าที่มีรูปแบบนาสมัย โดยคำนึงถึง Trend แฟชั่นที่ถูกกาหนดสาหรับแต่ละฤดูกาล ถ้าผู้ส่งออกไทยให้ความสำคัญในเรื่อง Trend ดังกล่าว จะถือเป็นการยกระดับตัวเองให้เทียบเท่าผู้ผลิตอิตาเลียน ซึ่งจะช่วยให้สามารถแข่งขันและขายได้มากขึ้นในราคาที่ดี

3. สร้างแบรนด์ในเมืองผู้นำแฟชั่น

การจะสร้างแบรนด์ได้ผู้ส่งออกไทยไม่ควรหวังว่าผู้นำเข้าจะเป็นผู้ทำแบรนด์ให้ เพราะโดยปกติผู้นำเข้ารายใหญ่ไม่อยากได้สินค้าที่ติดแบรนด์ของผู้ส่งออกในการวางจำหน่าย ยกเว้นผู้นำเข้าที่มีร้านจำหน่ายขนาดเล็ก

การจะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกได้จึงต้องดำเนินการเอง โดยกรมส่งเสริมการส่งออกควรให้การสนับสนุนด้วย เพราะการที่ผู้ประกอบการไทยจะมาดำเนินการทางการตลาดในต่างประเทศโดยลำพังเป็นเรื่องยากและใช้เงินทุนสูง ดังนั้น กลยุทธ์ที่กรมฯควรจะใช้คือ การช่วยผู้ส่งออกไทยในการเปิด Shop และ Corner ในเมืองผู้นำแฟชั่นของโลก ได้แก่ มิลาน ปารีส นิวยอร์ก ลอนดอน และโตเกียว โดยมีประเด็นสาคัญคือ การสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นที่ยอมรับและถือเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์แบรนด์เกิดใน Land Mark แฟชั่นของโลก ซึ่งจะส่งผลให้สามารถผลักดันให้ผู้นำเข้าในตลาดอื่น ๆ ยอมรับแบรนด์ดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และเพิ่มยอดส่งออกของผู้ประกอบการไทยในที่สุด

4. เข้าร่วมแสดงงานฯ อย่างสม่ำเสมอการมีสินค้าที่มีรูปแบบดีไซน์ที่ทันสมัยและเป็นไปตามเทรนด์แฟชั่นนั้นยังไม่พอที่จะทำให้ผู้นำเข้าเกิดความเชื่อมั่นในตัวสินค้าและบริษัท ดังนั้น ผู้ส่งออกไทยควรให้ความสำคัญในการมาออกแสดงงานฯ อย่างสม่าเสมอ เพื่อผู้นำเข้าจะได้เกิดความคุ้นเคยและเชื่อมั่นในภาพลักษณ์ที่ดีต่อสินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ