ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันยาวนาน ทำให้ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากต้องรัดเข็มขัดตัดทอนการใช้จ่ายลง สภาวะที่เป็นอยู่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนทัศนะคติและมุมมองการใช้จ่ายของชาวญี่ปุ่น จากที่เคยนิยมซื้อสินค้าตามห้าง สินค้าที่มีแบรนด์ดัง มาสู่การซื้อสินค้าที่ออกแบบดีแต่ราคาปานกลาง ยึดติดกับแบรนด์น้อยลง จากการออกไปเดินเลือกหาซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำ มาสู่การซื้อสินค้าด้วยวิธีประมูล(auction) และการซื้อ จาก Online shop พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างมาก คือ คนญี่ปุ่นเริ่มสนใจและไม่รังเกียจที่จะซื้อสินค้าใช้แล้ว ทำให้ตลาดสินค้ามือสอง (Second hand market) กำลังมีอนาคต จำนวนผู้เข้าสู่ธุรกิจสินค้ามือสองเพิ่มขึ้น และมูลค่าการขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตลาดสินค้ามือสองในญี่ปุ่นนั้นมีมานานแล้ว ร้านที่รู้จักกันกว้างขวาง เช่น Bookoff Corp. และร้านค้าของเก่า (Antique shop) ซึ่งธุรกิจเติบโตขึ้นตามเวลา และชนิดสินค้าที่ซื้อ-ขายก็เพิ่มจำนวน แต่ก็ยังถือว่าจำกัดอยู่ในกลุ่มของใช้คงทน เช่น เทปเพลง หนังสือ DVD รถจักรยาน รถจักรยานยนต์ ชุดกิโมโนและเสื้อผ้าแฟชั่นพิเศษซึ่งนิยมในกลุ่มคนที่ชอบสะสมของเก่า แต่เมื่อเศรษฐกิจซบเซาติดต่อกันยาวนาน มุมมองของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยน ผู้ที่มีสินค้า และของเหลือใช้ก็จะนำมาขายแลกเปลี่ยนกันในราคาถูก กลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้เป็นกอบกำ สินค้ามือสองที่ได้รับความนิยมซื้อ-ขายกันจึงเพิ่มชนิดจากสินค้าคงทน มาสู่สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เสื้อผ้า ของเด็กเล่น ถ้วยชาม รองเท้า กระเป๋าถือ เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน มูลค่าการขายของ Bookoff Corp. ในช่วง 9 เดือนของปี 2552 มีมูลค่าสูงถึง 52.5 พันล้านเยน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.2 เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนหน้า
ตลาดสินค้ามือสองที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ Rakuten บริษัทขายสินค้า online รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเริ่มขายสินค้ามือสองในเวปของบริษัท และเพิ่มจำนวนร้านเป็น 4,500 online shop ในระยะเวลาสั้น สินค้าที่ขายและได้รับความนิยม เช่น กล้องถ่ายรูป เครื่องดนตรี เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เกมส์และหนังสือ จุดขายที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของบริษัท คือ การให้บริการหลังการขายที่ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจว่าสินค้าที่ซื้อไปแล้วสามารถใช้งานได้และคุ้มค่าเงิน
การขยายตัวของตลาดสินค้ามือสอง เป็นการเปลี่ยน Mind set ที่เชื่อว่าน่าจะส่งผลต่อการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและการเลือกซื้อสินค้าของชาวญี่ปุ่นในระยะต่อไป นักวิจัยตลาดในญี่ปุ่นวิเคราะห์ว่า ตลาดญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะอิ่มตัวเพราะมีสินค้ามากมายเกินความจำเป็นต่อการดำรงชีพมานานแล้ว แต่ชาวญี่ปุ่นก็ติดนิสัยชอบมองหา และซื้อสินค้าใหม่ๆ เพื่อแสดงความนำสมัย และนำแฟชั่น การแข่งขันจากนี้ไปจึงต้องแข่งกันในทุกๆ ด้านการแข่งกันด้วยคุณภาพ ราคา การออกแบบ และการสร้างแบรนด์ อาจไม่เพียงพออีกต่อไป จำเป็นต้องมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ไปสู่การขายสินค้า และบริการที่สูงกว่าความคาดหมายของผู้บริโภค และการให้คุณค่าทางจิตใจ เป็นต้น
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: http://www.depthai.go.th