ชีวิตคนอินเดียกับภาพยนต์เป็นสิ่งที่แยกกันไม่ออก โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจเฟื่องฟู ส่งผลให้ความต้องการโรงหนังมัลติเพล็กซ์เติบโตอย่างรวดเร็วโดยคาดว่าจะมีการลงทุนในโรงหนังมัลติเพล็กซ์ใหม่ๆ มูลค่า 5,000 ล้านรูปี (3.6 พันล้านบาท) ในปี 2553 แถมด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างระบบสามมิติและดิจิตัลจะถูกนำเสนอต่อผู้ชมมากขึ้น
เป็นที่คาดว่าจะมีโรงหนังเกิดใหม่ปีนี้กว่า 250 โรง โดยปกติผู้ประกอบการ multiplex มักลงทุน 17.5-20 ล้านรูปีต่อโรง ซึ่งหมายถึงเงินลงทุนทั้งหมดจะเป็นประมาณ 5,000 ล้านรูปี สำหรับโรงหนัง Cinemax ที่มีแล้ว 101 โรง ในปีนี้จะสร้างใหม่อีก 40 โรง ส่วนโรงหนัง PVR ที่เดิมมีอยู่ 136 โรง ในใน 18 เมือง ปีนี้จะสร้างเพิ่มอีก 80 โรง และ Fame Cinemas จะสร้างโรงหนังใหม่ 28 โรง
สำหรับ INOX ที่ปัจจุบันมีอยู่ 129 โรง ปีนี้จะเพิ่มใหม่อีก 30 โรง ที่เมืองสำคัญๆ เช่น Belgaum, Hubli, กานปูร์, นาวีมุมไบ จอธปูร์ ไวแซก กัลกัตตา และบังกะลอร์
ในปีนี้จะมีหนัง 3 มิติเข้าคิวฉายไม่ต่ำกว่า 20 เรื่อง อันเป็นผลพวงของหนังฟอร์มยักษ์ที่กวาดรายได้ถล่มทลายอย่าง “อวตาร” เมื่อปีก่อน ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าของโรงหนังจะมีรายได้เพิ่มขึ้นมหาศาลเพราะหนัง 3 มิติราคาตั๋วจะแพงขึ้น 25% ที่คนรุ่นใหม่อินเดียก็ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว ทั้งนี้คาดว่าโรงหนัง 3 มิติจะเพิ่มขึ้นจาก 70 โรงเป็น 180 โรงในปีนี้
ปี 2553 นี้ถือเป็นปีทองของวงการภาพยนต์อินเดีย หลังจากปี 2552 ซึ่งตกต่ำสุดขีดมีผู้สร้างหนังและเจ้าของโรงภาพยนต์กระเป๋าฉีกไปกว่า 3,600 ล้านรูปี แถมยังถูกหนังฟอร์มยักษ์จากฮอลิวู๊ดกระหน่ำดูดเงินไปมากกว่าหนังอินเดียเองไปเป็นอันมาก
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้จำนวนของคนชั้นกลางค่อนข้างรวย (upper middle class)และคนชั้นกลาง (middle class)ได้ขยายตัวถึง 158.6%และ 62% ตามลำดับซึ่งช่วยเพิ่มกำลังซื้อขึ้นสูงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน กลุ่มนี้เป็นตัวผลักดันให้เกิดการเติบโตของธุรกิจมัลติเพล็กอย่างสำคัญ ซึ่งในที่นี้เราเรียกว่าเศรษฐีใหม่ มีอยู่ราว 300 ล้านคน
“โรงภาพยนต์ Multiplex เป็นคอนเซ็ปใหม่ในตลาดอินเดียที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบการภาพยนต์อย่างกว้างขวาง สำหรับบริษัทไทย อย่างเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ก็ไม่ได้รอช้าได้กระโดดลงไปเล่นในตลาดนี้แล้ว โดยในปี 2551 ได้ จับมือกับบริษัท พีวีอาร์ ซีนีม่าร์ จำกัดของอินเดียจัดตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ทันสมัย ครบวงจร ที่มีทั้งโบว์ลิ่ง, คาราโอเกะ, ลานสเก็ตน้ำแข็ง โรงภาพยนต์และเกมส์โซนให้ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ๆ ของอินเดียทั่วประเทศภายใน 3 ปี สร้างความตื่นตะลึงตื่นตาตื่นใจให้ชาวอินเดียเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมัลติเพล็กซ์ผสมเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กเป็นของใหม่ และไม่เคยมีมาก่อน จึงไม่มีคู่แข่งขัน” นายไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ ทูตพาณิชย์ฯ ณ เมืองเจนไนกล่าวในตอนท้าย
ที่มา: http://www.depthai.go.th