ภาพรวม : ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจของสาธารณรัฐเช็ก ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 จะกระเตื้องขึ้น แต่ความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าส่งออกหลัก ซึ่งได้แก่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป, อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ในช่วงปลายปี 2552, การลดลงของความต้องการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งมีผลกระทบมาจากวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2551 ทำให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย รวมไปถึงการแข็งค่าของเงินสกุลท้องถิ่น เหล่านี้จะเป็นปัจจัยให้นักการธนาคารวิเคราะห์ว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเช็ก (GDP growth) ในปี 2553 จะอยู่ที่ร้อยละ 1.6 ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าอัตราเฉลี่ยของกลุ่มสหภาพยุโรปประมาณร้อยละ 0.7
การจัดลำดับ Long-term foreign currency credit พบว่า
Moody’s จัดให้สาธารณรัฐเช็ก อยู่ในระดับ A 1 stable S&P จัดให้สาธารณรัฐเช็ก อยู่ในระดับ A stable Fitch จัดให้สาธารณรัฐเช็ก อยู่ในระดับ A + stable สถานการณ์เศรษฐกิจโดยทั่วไป ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 :ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสาธารณรัฐเช็ก อยู่ที่ — 3.1 % ซึ่งเป็นผลมาจาก การลดลงของการส่งออก ,การลดลงของการบริโภคภายในประเทศ, การลดลงของเงินทุนทั้งในส่วนที่เป็นเงินทุนรวม (gross capital) และเงินเงินงลทุนจากต่างประเทศ (FDI), ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิต,การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภาวะเศรษฐกิจของเช็กผันผวนไป
เริ่มเดือนมกราคม ปี 2553 ภาวะเศรษฐกิจของสาธารณรัฐเช็ก ก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น ภาคการก่อสร้าง และการค้าปลีกยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดการณ์ว่า หากภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น การใช้จ่ายในทั้งสองภาคนี้จะขยับตัวสูงขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์และนักการธนาคารคาดว่า ความต้องการสินค้าจากต่างประเทศ จะทำให้การผลิตและการส่งออกของเช็กพุ่งตัวสูงขึ้น และจะส่งผลให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสาธารณรัฐเช็กขยายตัวในอัตราร้อยละ 1.6 ในปี 2553 ตามที่คาดการณ์ไว้ ในเดือนมกราคม 2553 สาธารณรัฐเช็กเริ่มใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มใหม่ ที่ปรับเปลี่ยนจาก สินค้าประเภทอาหาร ร้อยละ 9 เป็นร้อยละ 10 และสินค้าประเภทที่มิใช่อาหาร/รวมบริการ จากร้อยละ 19 เป็นร้อยละ 20 ทำให้จำนวนภาษีที่ได้รับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลรักษาการที่กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำงบประมาณปี 2554 ก็มีนโยบายที่จะมิให้งบประมาณปี 2554 ขาดดุลเกินกว่าร้อยละ 4.8 ของ GDP สำหรับในด้านการเงิน พบว่า เงินสกุลเช็กคราวน์ยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินยูโร นักการธนาคารเชื่อว่าธนาคารแห่งชาติเช็กจะยังไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย และเชื่อว่าค่าของเงินสกุลเช็กคราวน์จะถูกทำให้อ่อนตัวลงชั่วคราวก่อนฤดูร้อน ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2553 นี้
- กระทรวงการคลังเช็กยืนยันการคาดการณ์เศรษฐกิจจะเติบโตขึ้น 1.3 % ในปีนี้ ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ 0.3 % สำหรับการส่งออกในปี 2554 คาดว่าจะขยายตัวแพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6
- ในปี 2553 นี้ การลงทุนจากต่างประเทศจะลดลงประมาณ 10,000 ล้านเช็กคราวน์ และจำนวนโครงการลดลง ร้อยละ 1
- ห้างซุปเปอร์มาร์เก็ต TESCO มีแผนที่จะขยายสาขาอีกจำนวน 30 แห่ง ในสาธารณรัฐเช็กในปี 2553 เพิ่มอีกที่ได้ขยายสาขาในปี 2552 จำนวน 21 แห่งไปแล้ว ในปี 2552
- ธุรกิจผู้ผลิตอาหารยักษ์ใหญ่ของเช็ก ซื้อกิจการของคู่แข่งในสโลวัค จำนวน 2 กิจการ ส่งผลให้ผู้ผลิตอาหารของเช็กรายนี้มีสิทธิในการกระจายสินค้าอาหารครอบคลุมตลาดในสโลวัคทั้งหมด นอกจากนี้ยังควบรวมไปถึงกิจการสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย
- สายการบิน Emirates ซึ่งเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง ตกลงที่จะเลือกกรุงปรากเป็นสนามบินเริ่มแรกที่จะบินต่อไปยังโปแลนด์ โดยมองเห็นถึงศักยภาพว่าสาธารณรัฐเช็กเป็นประเทศที่จะกลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้
- “Ahold “ธุรกิจขายปลีกรายใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ ประสบภาวะขาดทุนประมาณ 76 ล้านยูโรในสาธารณรัฐเช็กในปี 2552 ทั้งนี้ เนื่องจากการขยายการลงทุนตั้งสาขาใหม่และการปรับเปลี่ยนรูปแบบจากห้างไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่เป็นร้านขนาดย่อมลงมา ทั้งนี้ Ahold มีจำนวนซุปเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ตในสาธารณรัฐเช็ก 280 แห่ง
- จากการสำรวจของ Deloitte แจ้งว่า ประมาณ 1 ใน 5 ของธุรกิจในสาธารณรัฐเช็กประสบปัญหาหนี้เสียในปี 2552 ซึ่ง ร้อยละ 89 ของธุรกิจดังกล่าวได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ
จุดแข็ง
- สถานะทางการเงินภายนอกอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
- นโยบายการเงินยืดหยุ่น
- ภาคการเงินมีเสถียรภาพ ไม่อ่อนไหวง่าย
จุดอ่อน
- ระดับการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ลดลงมาก
- การหดตัวของการบริโภคภาคเอกชนมีอย่างต่อเนื่อง
- พรรคฝ่ายซ้ายส่อเค้าว่าจะชนะการเลือกตั้งทั่วไป (ซึ่งจะมีผลให้นโยบายเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง)
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงปราก
ที่มา: http://www.depthai.go.th