ในจำนวนชาวอเมริกันที่มีถิ่นฐานในต่างประเทศทั้งหมดจากสถิติพบว่ามี ประมาณ 5.25 ล้านราย ด้วยเหตุผลว่ามีชาวอเมริกันที่อยู่ในวัยเกษียณ หรือผู้ที่ต้องการแสวงหาวิถีชีวิตทางในเลือกใหม่ ได้ย้ายถิ่นฐานไปอาศัยอยู่ในประเทศเม็กซิโก จำนวนประมาณ 1 ล้านราย เมืองที่เคยดึงดูดชาวอเมริกันไปสร้างบ้านพักบั้นปลายชีวิต หรือเป็นบ้านพักสำรอง ได้แก่ เมือง ซานมิเกล เดอ อาเลนเด้ San Miguel de Allende (ซึ่งประมาณว่ามีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ประมาณ 12,000 คน) ในรัฐกัวนาฮัวโต Guanajuato หรือแถบบริเวณทะเลสาปชาพาลา Lake Chapala (ซึ่งมีชุมชนชาวอเมริกันที่ไปอาศัยอยู่ประมาณ 30,000 คน) และตามเมืองต่าง ๆ ตามแถบชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก เช่น เมืองลาเรโด Laredo หรือในพื้นที่ ๆ มีเขตเศรษฐกิจหรือการส่งเสริมอุตสาหกรรมพิเศษโดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเม็กซิโก เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เช่น ในรัฐฮาลิสโก้ Jalisco ซึ่งมีเมืองสำคัญด้านการค้าอย่างเมืองกัวดาวาฮาร่า Guadalajara เป็นต้น
ในช่วงหลังเมื่อไม่นานมานี้ ชาวอเมริกันหรือชาวต่างชาติจำนวนหนึ่ง มีความ สนใจไปตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยใหม่ ในพื้นที่ ๆ ไม่เคยมีชาวต่างชาติอยู่มาก่อน เช่น เมืองเมริดา (Merida) เมืองหลวงของรัฐยูคาตัน (Yucatan) ซึ่งเป็นเมืองตามชายฝั่งของอ่าวเม็กซิโก ซึ่งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเม็กซิโก และมีภูมิอากาศร้อนชื้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนให้พิจารณาที่อยู่อาศัยในพื้นที่ใหม่ ๆ เช่น เมืองเมริดา คือ ค่าครองชีพที่ต่ำกว่า วัฒนธรรมของคนพื้นเมืองที่มีความเป็นมิตรและให้ความรู้สึกอบอุ่นกว่าในประเทศสหรัฐฯ บริการที่อุดหนุนการรวมตัวของชุมชน เช่น โรงเรียน โบสถ์ แม้กระทั่งห้องสมุด การให้บริการสาธารณชนเป็นภาษาอังกฤษ รวมทั้ง นโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เอื้ออำนวยให้สามารถเบิกใช้ค่ารักษาพยาบาล medicare ในเม็กซิโกได้ ปัจจัยที่สนับสนุนสำคัญอีกประการหนึ่ง ได้แก่ การที่ชาวอเมริกันและชาวต่างชาติที่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ได้รวมตัวกันสร้างเวปไซด์ที่ให้ข้อมูลที่แตกต่างและหลากหลายด้าน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการปรับตัวในถิ่นที่อยู่ใหม่ การเข้าใจวัฒนธรรมชุมชนท้องถิ่น ข้อแนะนำเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการใช้ชีวิตประจำวันในต่างแดน การแสดงตัวอย่างหรือสัมภาษณ์ประสบการณ์ของผู้ที่ย้ายถิ่นฐานรายอื่นๆ เช่น เวปไซท์ yucatanliving.com, mexconnect.com, mexicolive.com และ mexexperience.com
ผู้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่เมืองเมริดา เช่น นาย Bill Engle ผู้ซึ่งเพิ่งได้ซื้อและกำลัง บูรณะบ้านเก่าแก่ที่เป็นสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมศตวรรษที่ 18 ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Christian Science Monitor เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2533 แสดงความคิดเห็นว่า ความรุนแรงที่ได้เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลเม็กซิโกได้ประกาศสงครามเพื่อปราบปรามกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดนั้น ซึ่งทำให้ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ๆ พ่อค้ายาเสพติดควบคุม เช่น ที่เมือง ฮัวเรซ Juarez พื้นที่ต่าง ๆ ใน รัฐซินาลัว Sinaloa รัฐทามาลิปาส Tamaulipas รัฐ มิโชฮัวกาน Michoacan และรัฐเอสตาโด เดอ เม็กซิโก Estado de Mexico และการปรากฏข่าวการประหารชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และพ่อค้ายาเสพติดด้วยกันเองเป็นจำนวนมากอยู่เป็นประจำในรอบ 3 ปี ที่ผ่านมา ไม่ได้สร้างความย่อท้อ หรือความหวาดกลัวให้แก่ชาวอเมริกันที่จะย้ายถิ่นฐานไปอยู่ประเทศเม็กซิโก และในเขตพื้นที่บางแห่ง เช่น ที่เมืองเมริดา แต่กลับมีความรู้สึกที่ปลอดภัยกว่าการใช้ชีวิตอยู่อาศัยในเมืองใหญ่ ๆ ดังเช่นในประเทศสหรัฐอเมริกาเสียอีก
ส่วนหนังสือพิมพ์ The New York Times ได้รายงานเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2553 เปรียบเทียบต้นทุนค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตในกลุ่มประเทศละตินอเมริกาสำหรับผู้ที่สนใจใช้วัยเกษียณในประเทศเหล่านี้ อยู่ที่ประมาณ 1,200-2,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน และค่ารักษาพยาบาลต่ำกว่าหนึ่งในสามของค่าใช้จ่ายในสหรัฐฯ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญการแนะนำเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานไปอยู่ต่างประเทศในวัยเกษียณ ได้กล่าวว่า ประเทศที่น่าสนใจได้เปลี่ยนไปตามสภาพเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งแต่เดิมเคยได้แนะนำประเทศไอร์แลนด์ ไทย และคอสตาริกา แต่ภาวะต่าง ๆ ในประเทศเหล่านี้ได้เปลี่ยนไป เช่น ต้นทุนค่าครองชีพในไอร์แลนด์สูงขึ้น มีความรู้สึกต่อต้านชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นในประเทศไทย และอาชญากรรมในคอสตาริกาได้เพิ่มขึ้น แนวโน้มประเทศที่น่าอยู่ในวัยเกษียณในปัจจุบันได้กลายเป็นประเทศในละตินอเมริกา นอกจากละตินอเมริกาแล้ว แหล่งที่อยู่อาศัยวัยเกษียณที่ได้รับความสนใจมากในขณะนี้ได้แก่ ฝรั่งเศส โครเอเชีย และมาเลเซีย
รายงานข่าวการเงินของ Yahoo ได้แจ้งรายการเมืองที่น่าอยู่ 8 แห่ง ที่อาจ เป็นที่สนใจสำหรับผู้ที่สนใจใช้วัยเกษียณในประเทศอื่น ซึ่งรวมเมืองเชียงใหม่ของไทยไว้ด้วย เป็นหนึ่งในเมืองที่น่าสนใจ โดยมีสาระข้อได้เปรียบเสียเปรียบของแต่ละแห่ง สำหรับเชียงใหม่ว่า เป็นสถานที่ ๆ นิยมสำหรับการท่องเทียว ความพร้อมด้านการรักษาพยาบาล ศักยภาพที่จะให้บริการด้านสุขภาพในคุณภาพที่สูงแต่ราคาย่อมเยา และได้กล่าวว่า ชาวต่างชาติสามารถซื้อคอนโด หรืออพาร์ทเม็นต์ได้ แต่ไม่สามารถเป็นเจ้าของซื้อที่ดินได้ เมืองอื่น ๆ ที่ได้รับการแนะนำได้แก่ เมือง Calitri (อิตาลี) เมือง Coronado (ปานามา) เมือง Cuenca (เอควาดอร์) เมือง Istria (โครเอเชีย), กรุงกัวลาลัมเปอร์ (มาเลเซีย) เมือง Punta del Este (อุรุกวัย) และกรุงบัวโนสไอเรส (อาร์เจนตินา)
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก
ที่มา: http://www.depthai.go.th