อาหารประเภทแกงแบบอินเดีย ที่รู้จักและเรียกกันว่า curry rice ได้ถูกปรับรสชาดให้ถูกปากและค่อย ๆ ซึบซับเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในเมนูอาหารประจำวันของชาวญี่ปุ่นมานาน จนกล่าวได้ว่าเป็นเมนูหนึ่งของอาหารญี่ปุ่นไปแล้ว ปัจจุบันเมนู แกงแบบญี่ปุ่นหรือ Curry Rice ยังถูกปรับรสชาดให้เหมาะกับผู้บริโภคทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและวัยทำงาน มีการจัดรณรงค์ให้บริโภคอาหารแกงแบบญี่ปุ่น เป็นอาหารมื้อเช้า เพราะเครื่องเทศที่เป็นส่วนผสมหลัก อุดมไปด้วยสารอาหารที่เสริมสร้างพลัง และความตื่นตัวในช่วงเช้าที่ต้องรีบเร่ง
ความนิยมบริโภคอาหารประเภทแกง ในญี่ปุ่นขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อมีอาหารไทยเริ่มเป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยม เมื่อมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมอาหารไทยในต่างประเทศและการร่วมมือกับซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายก็ยิ่งทำให้อาหารไทยแพร่หลาย ความนิยมบริโภคแกงชนิดต่างๆ ของไทยจึงขยายวงเพิ่มตามลำดับ ผู้ประกอบการญี่ปุ่นเริ่มลงทุนตั้งโรงงานผลิตแกงสำเร็จรูปรสชาดต่างๆ ชนิดพร้อมทานเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ซื้อ ขณะเดียวกันผู้ผลิตไทยก็ผลิตแกงสำเร็จรูปออกขายมากขึ้น เช่น แกงกระป๋อง น้ำแกงสำเร็จรูป และ Retort-Pouched Curry ที่มีเครื่องปรุงครบถ้วนเพียงอุ่นและเปิดทานได้ทันที อาหารประเภทแกงของไทยที่ชาวญี่ปุ่น นิยมบริโภคมากที่สุด คือ แกงเขียวหวาน ด้วยรสชาดที่อร่อย กลิ่นหอมชวนชิม และการปรับความเผ็ดร้อนให้เบาบางลงตามความชอบของชาวญี่ปุ่น แกงเขียวหวานจึงเป็นอาหารประเภทแกงของไทย ที่สอดแทรกเข้าไปในใจชาวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ชาวญี่ปุ่น นิยมบริโภคอาหารรสจัดเมื่ออากาศอุ่นขึ้น อาหารไทยและอาหารเอเชียที่มีรสชาดจัดจึงเป็นสินค้าขายดีในช่วงตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิเป็นต้นไป เมื่อเกิดสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว การทานข้าวนอกบ้านลดน้อยลง ชาวญี่ปุ่นจึงหันมาซื้ออาหารสำเร็จรูปพร้อมทานไปบริโภค และเริ่มสนใจเรียนรู้วิธีปรุงแกงเขียวหวานทานกันในครัวเรือนมากขึ้น
เมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 หนังสือพิมพ์ชั้นนำของญี่ปุ่น The Nikkei ได้ทำการสำรวจความนิยมอาหารประเภทแกงบรรจุถุงพร้อมทาน ที่เป็นอาหารต่างชาติ โดยให้ผู้บริโภคทั่วไปจัดอันดับแกงถุง (retort pouched curry) ที่มีรสชาดอร่อย และสวยงาม น่าทานที่ตนเองชอบมากที่สุด พบว่า ชาวญี่ปุ่นได้จัดอันดับให้ แกงเขียวหวานไก่ ของไทย ที่ผลิตโดยบริษัท Yamamori เป็นแกงยอดนิยมอันดับหนึ่ง แกงเขียวหวานนี้เป็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้หญิง เพราะชอบในความกลมกล่อมของรสชาด กลิ่นอ่อนๆ ของใบมะกรูด ความหวานและหอมของกะทิ แซงหน้าแกงกะหรี่แบบอินเดียที่ครองตลาดในญี่ปุ่นมานาน
ผลสำรวจครั้งนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงความเป็นสากลของอาหารไทย และผลสำเร็จของความพยายามร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ทั้งไทย และญี่ปุ่น ที่ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเป็นความพยายามของกรมส่งเสริมการส่งออก ที่มองเห็นถึงศักยภาพ และจัดกิจกรรมเพื่อแนะนำสินค้าและส่งเสริมการบริโภคอาหารไทยในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ผลการจัดอันดับครั้งนี้จะช่วยแพร่กระตุ้นและเชิญชวนผู้บริโภครายใหม่ๆ ให้ทดลองชิมอาหารไทย ทั้งที่เป็นอาหารสำเร็จ และการจำหน่ายเครื่องปรุงอาหารไทยภายใต้โครงการ “นำอาหารไทยเข้าสู่ครัวเรือนญี่ปุ่น” ให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น
ที่มา: http://www.depthai.go.th