ตั้งแต่ปี 1978 เป็นต้นมา นักศึกษาจีนไปเรียนต่างประเทศจำนวน 1.06 ล้านคน กลับมาทำงานรับใช้ประเทศเพียง 2.75 แสนคน ที่เหลืออีก 7.85 แสนคน ยังคงอาศัยอยู่ต่างประเทศ ในจำนวนนี้เทียบเท่ากับนักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่ง และมหาวิทยาลัยชิงฮวา อย่างละ 30 แห่งรวมกัน
จากสถิติของกระทรวงศึกษาธิการจีนเผยว่า ยอดจำนวนผู้สมัครสอบเอนทรานซ์ปี 2010 มีจำนวน 9.46 ล้านคน ลดลงจากปีที่แล้ว 7.4 แสนคน จำนวนผู้สอบที่ลดลงแทนที่ด้วยจำนวนผู้ศึกษาต่อต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น นโยบายการสอบเอนทรานซ์แนวใหม่ของรัฐบาลและภาวะการไปศึกษาต่อต่างประเทศเพิ่มขึ้น เป็นแนวโน้มและทิศทางที่กำลังชี้ถึงสิ่งใด ศาสตราจารย์ซิงหมิง ประจำวิทยาลัยพรรคฯส่วนกลาง กล่าวว่า "เป็นภาพสะท้อนความก้าวหน้าของสังคมจีน เพราะนอกจากจะสามารถเลือกสอบเอนทรานซ์ในประเทศแล้ว นักเรียนจีนยังสามารถเลือกไปศึกษาต่อยังต่างประเทศได้" นอกจากนี้ยังมีข้อน่าสังเกตุว่า นักเรียนที่เรียนดีส่วนใหญ่ตัดสินใจทิ้งการสอบ และเลือกไปศึกษาต่อต่างประเทศแทน จากการสัมภาษณ์นาย เทียน ยิวเชียง นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในมณฑลส่านซี ที่เข้ามาติดต่อในสถาบันแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ ในมหานครปักกิ่ง กล่าวว่า "ตนเองเคยเดินทางไปเรียนPre-course ติวภาษาที่ประเทศอังกฤษระยะสั้น ช่วงปิดเทอม แรกๆรู้สึกกลัวแต่ตอนนี้ปรับตัวได้แล้ว อนาคตตนมีเป้าหมายที่ต่างกับเพื่อนๆที่เรียนในประเทศ จึงเลือกไปเรียนต่อยังต่างประเทศ ไม่ใช่เป็นเพราะผลการเรียนไม่ดี สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ จึงไปเรียนต่อต่างประเทศ เช่นที่เข้าใจกันมาแต่ก่อน"
ทัศนคติการเลือกเรียนต่อต่างประเทศของนักศึกษาจีนในปัจจุบัน ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลกาภิวัฒน์ เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมจีน ที่ไทยควรสังเกตุเพื่อเข้ามาร่วมมือในธุรกิจการศึกษาอย่างเข้าใจ และเพิ่มโอกาสในการรับนักศึกษาจีนเข้าศึกษาต่อในไทย ซึ่งนับว่ายังมีโอกาสสูง โดยใช้จุดเด่นเรื่องความใกล้ชิดทางวัฒนธรรม ความสัมพันธ์ที่ดี ระบบการศึกษาที่ได้มาตรฐาน หลักสูตรที่หลากหลาย และทำเลที่ตั้งของไทยที่นับว่าได้เปรียบมาก
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
ที่มา: http://www.depthai.go.th