ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรีซชะลอตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจ

ในปี 2553 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในระดับล่างได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกและวิกฤตทางการเงินภายในประเทศค่อนข้างมาก ส่วนตลาดระดับบนยังคงไปได้ดี

นาย Mike Vassiliou ผู้อานวยการฝ่ายธุรกิจของบริษัท NAI KTIMATIKI และเป็นประธานสมาพันธ์อสังหาริมทรัพย์ระหว่างประเทศของกรีซได้กล่าวว่า ปัญหาคือประชาชนส่วนใหญ่ยังคงไม่ตัดสินใจซื้อบ้านและอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้แต่รอดูสภาวะเศรษฐกิจของประเทศว่าจะมีทิศทางอย่างไร บ้านเก่าที่มีอายุเกิน 20 ปี และมีพื้นที่ใช้สอยระหว่าง 70 — 120 ตารางเมตร ราคาลดลง 15 — 20 % ส่วนหนึ่งเป็นเพราะส่วนใหญ่บ้านที่เก่ามากไม่สามารถนาไปใช้จานองได้ นอกจากนี้ยังเป็นตลาดที่ชาวยุโรปตะวันออกที่ร่ารวยจากยุคที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รุ่งเรืองได้เข้ามากว้านซื้อบ้านในแถบกลางเมืองเอเธนส์กันค่อนข้างมากไว้ก่อนหน้าแล้ว ในด้านค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ ราคาได้ลดลงต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมา โดยค่าเช่าอพาร์ทเมนท์ในไตรมาสแรกของปี 2553 ลดลง 2.6 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (ในปี 2553 ค่าเช่าอพาร์ทเมนท์ลดลลง 3.6 % ในขณะที่ปี 2551 เพิ่มขึ้น 1.7 %)

ในด้านทำเลของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บ้านที่อยู่ในแถบใกล้เคียงกรุงเอเธนส์ได้แก่ Vouliagmeni, Psychiko, Kifisia, Glyfada และ Kolonaki มีราคาค่อนข้างสูง แต่ตลาดยังคงชะลอตัว เนื่องจากผู้ซื้อรอดูท่าทีว่าในอนาคต IMF อาจจะผลักดันมาตรการต่างๆที่จะมีผลกระตุ้นยอดขายได้หรือไม่ในภาวะการที่งบประมาณของประเทศค่อนข้างแย่ซึ่งรวมถึงนักลงทุนชาวอังกฤษและอเมริกันที่นิยมลงทุนโดยการซื้อทรัพย์สินตามเกาะต่างๆ ก็ยังคงรอโอกาสเพื่อช้อนซื้อเมื่อราคาตกลงมากกว่านี้

ในขณะที่สภาวะการตลาดอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างชะลอตัว แต่ปัจจุบันรัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อการจัดเก็บรายได้ให้มากขึ้น ได้แก่ ภาษีที่ดินและโรงเรือนประจาปี (FAP) ภาษีมรดก การปรับมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึง 40 % และภาษีการโอนทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 11 % ทาให้ภาษีของทรัพย์สินที่มีมูลค่าเกินกว่า 800,000 ยูโร เพิ่มขึ่นแล้ว 10 เท่า และทรัพย์สินที่มูลค่าเกิน 5 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นกว่า 20 เท่า ส่งผลกระทบให้ธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์รายย่อยต้องปิดกิจการลงกว่า 100 ราย

สำนักงานการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโรม

ที่มา: http://www.depthai.go.th