สเปน : อัตราการว่างงานสูงสุดในรอบ 13 ปี

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 16, 2010 15:46 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ถึงแม้ว่ารัฐบาลสเปนพยายามใช้นโยบายการสร้างงานเพื่อแก้ปัญหาการว่างงานมาโดยตลอด แต่ปรากฏว่าจำนวนคนว่างงานยังคงเพิมขึ้นอย่างต่อเนือง โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติได้ออกมาแถลงว่าในไตรมาสที่สองของปี 2553 มีคนว่างงานเพิ่มขึ้นอีก 32,800 คน ส่งผลให้อัตราการว่างงานของแรงงานในประเทศพุ่งขึ้นสู่ระดับร้อยละ 20.09 ขณะที่มีจำนวนผู้ว่างงานทั้งหมดถึง 4,645,500 คน หรือคิดเป็นจำนวน 1,308,300 ครอบครัวที่มีสมาชิกทังครอบครัวเป็นผู้ว่างงาน

เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาพบว่าปีนีมีคนว่างงานเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 508,000 คน โดยมีแรงงานใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานเพิ่มขึ้นอีก 115,500 คน ทำให้ในตลาดแรงงานทั้งสินของประเทศมีประชากรรวม 23,122,300 คน

จากอัตราการว่างงานร้อยละ 20.09 ถือว่าเป็นสถิติสูงที่สุดของประเทศในศตวรรษใหม่ และสูงที่สุดในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตก รวมทั้งเป็นสถิติที่สูงที่สุดในรอบ 13 ปี นับตั้งแต่ปี 2540 ที่สเปนเคยมีอัตราการว่างงานสูงสุดถึงร้อยละ 20.11

ช่วงระหว่างเดือนเมษายน - มิถุนายนปีนี จากจำนวนผู้ได้งานทำเพิ่มขึ้น 110,200 ราย พบว่าเป็นแรงงานที่มีสัญญาจ้างชั่วคราวถึง 101,600 ราย และมีเพียง 8,600 รายเท่านั้นที่ได้สัญญาจ้างงานแบบถาวร โดยแรงงานเพศชายมีอัตราการว่างงานลดลง 15,700 อัตรา ขณะที่แรงงานเพศหญิงกลับเพิ่มจำนวนขึ้นอีก 48,500 อัตรา ทำให้อัตราการว่างงานของกลุ่มเพศชายลดลงร้อยละ 0.62 และเพศหญิงเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.36 เมือเทียบกับไตรมาสแรกของปี

หากพิจารณาในแง่ของแรงงานในแต่ละอุตสาหกรรมในไตรมาสที่สอง พบว่าแรงงานในภาคการก่อสร้างลดลง 73,900 อัตรา ภาคบริการลดลง 61,500 อัตรา และภาคอุตสาหกรรมลดลง 35,700 อัตรา ในทางกลับกัน ภาคการเกษตรกลับมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 36,800 อัตรา แต่หากมองย้อนไป 1 ปี จะพบว่าภาคการก่อสร้างมีคนว่างงานเพิ่ม 222,400 คน ภาคอุตสาหกรรมว่างงานเพิ่ม 180,500 คน และภาคบริการเพิ่มขึ้น 8,500 คน

สาเหตุสำคัญประการหนึ่ง ที่ส่งผลให้ปัญหาการว่างงานยังไม่สามารถสะสางให้ลุล่วงได้ คือ มีแรงงานใหม่หรือมีผู้ที่กำลังมองหางานแรกของชีวิตเข้าสู่ตลาดแรงงานเพิ่มขึน้อีกเป็นจำนวนมาก

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้า

ปัญหาการว่างงานเป็นปัญหาเรื้อรังมาตั้งแต่ปี 2551 โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้างที่ใช้แรงงานจำนวนมากและเคยเป็นตัวจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างยาวนานต้อง ประสบกับภาวะลูกโป่งแตกที่ลุกลามมาจากสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยที่ส่งผลครอบคลุมไปทัวทุกสาขาธุรกิจทำให้ต้องมีการทยอยปลดแรงงานกันมาอย่างต่อเนื่อง

จากปัญหาการว่างงาน ทำให้ผู้บริโภคไม่มีความมั่นใจในรายได้ที่จะได้รับในอนาคต จึงจำเป็นต้องระมัดระวังในการใช้จ่ายและเพิ่มการออมไว้ใช้ในยามคับขัน พฤติกรรมการบริโภคก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสภาพเศรษฐกิจ จากที่เคยเลือกซื้อสินค้าตามตราสินค้าหรือยี่ห้อที่ชื่นชอบ ก็ปรับไปเป็นเลือกซื้อสินค้าจากราคาที่ประหยัดที่สุด การออกไปมีกิจกรรมใดๆ นอกบ้านที่เคยทำก็ถูกจำกัดลงให้น้อยที่สุด ยิ่งไปกว่านัน ในช่วงต้นของปีนี้ขณะทีมีข่าวดีเรืองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก กลับต้องประสบปัญหาวิกฤติการเงินของยุโรปเข้าซ้ำเติมอีก โดยรัฐบาลต้องเร่งประกาศใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อตัดรายจ่ายสาธารณะ ขณะเดียวกัน ก็ต้องปรับเพิ่มอัตราภาษี ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยบีบบังคับให้ผู้บริโภคต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวังและไตร่ตรองอย่างหนักในการจับจ่ายใช้สอยเลือกซื้อสินค้า

ยกตัวอย่าง สินค้าอาหารที่ผู้บริโภคยังจำเป็นต้องใช้จ่ายอย่างหลีกเลียงไม่ได้ จะพบว่ามีพฤติกรรมการออกไปทานอาหารนอกบ้านน้อยลงมาก จากนิสัยและประเพณีดังเดิมที่ชาวสเปนมักจะชื่นชอบกับการออกไปสังสรรค์กับญาติสนิทมิตรสหายที่ร้านอาหาร ขณะเดียวกัน อัตราการซื้ออาหารจากซุปเปอร์มาร์เกตเพื่อนำไปประกอบอาหารรับประทานอาหารเองที่บ้านกลับเพิ่มขึ้น และมักจะมองหาแต่สินค้าราคาประหยัดเป็นอันดับแรก

ทั้งนี้ นิสัยความประหยัดที่ขัดแย้งกับอุปนิสัยเดิมของชาวสเปนที่มักจะชอบใช้จ่ายเพื่อเพิ่มความสุขให้กับชีวิตโดยไม่ค่อยคำนึงถึงเรื่องการเก็บเงินไว้ใช้ในวันข้างหน้า แต่เมื่อปฏิบัติต่อเนื่องมาเป็นเวลายาวนานพอสมควร ก็อาจสร้างความเคยชินและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปได้

อนึ่ง ในปี 2553 คาดว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสเปนจะยังอยู่ในแดนลบ คือ ขยายตัวร้อยละ -0.4 และจากภาวะวิกฤติหนี้สาธารณะและการขาดดุลการคลังที่รัฐบาลต้องเข้มงวดกับมาตรการรัดเข็มขัดไปอีกอย่างน้อย 3 ปี จึงประเมินได้ว่าเศรษฐกิจของสเปนจะยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้ ดังนันปัญหาการว่างงานจะยังคงไม่สามารถแก้ไขให้ลุล่วงได้อย่างรวดเร็ว และรัฐบาลต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเข้ามาดูแลผู้ตกงาน นอกจากนัน ส่วนใหญ่ของผู้ที่ได้งานทำในช่วงที่ผ่านมาก็ล้วนเป็นสัญญาการจ้างงานชั่วคราวที่อาจจะกลับมาเป็นผู้ว่างงานได้อีก กอปรกับมีจำนวนแรงงานใหม่ทีเข้าสู่ระบบแรงงานอย่างต่อเนือง ดังนัน สินค้าอุปโภคบริโภคทังหลายทีมีคุณภาพพอเป็นที่ยอมรับได้และมีระดับราคาไม่แพง น่าจะมีโอกาสดีกว่าสินค้าระดับอื่นๆ

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงมาดริด

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ