เปิดมหกรรมผลไม้รสเลิศควรค่ารอคอย

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 13, 2010 00:00 —องค์การสะพานปลา

เมืองไทยเป็นสยามประเทศที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์มาตั้งแต่บรรพกาล จนได้ชื่อว่าเป็นดินแดน "สุวรรณภูมิ" หรือแผ่นดินทอง ทุกแห่งหนเต็มไปด้วยของที่มีค่าควรทองทั้งสิ้น
ดินแดนสยามประเทศแห่งนี้จึงเปรียบดั่งมหัศจรรย์แห่ง Exotic Fruit ดินแดนที่มีผลไม้รสชาติเด็ดหลากหลาย ชนิดที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกผลตามฤดูกาลทั้งปี สามารถเลือกซื้อได้ตลอด โดยระหว่างเดือน พ.ค.-ปลายเดือน ส.ค. ถือว่าเป็นฤดูทองแห่งผลไม้ไทย เพราะเป็นช่วงที่ผลไม้นานาชนิดทยอยสู่ตลาดให้ลิ้มรสมากกว่าทุกฤดูกาลในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยแต่ละภาคมีจะมีลักษณะเด่นเช่น
ภาคเหนือมีสภาพอากาศค่อนข้างเย็น เหมาะแก่การปลูกผลไม้อย่างลิ้นจี่และลำไย ถือว่าเป็นผลไม้มีชื่อเสียงและเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ซึ่งลิ้นจี่เป็นผลไม้สารพัดประโยชน์อุดมด้วยวิตามิน มีสายพันธุ์ที่เลื่องชื่อ เช่น พันธุ์ฮงฮวย โอวเฮียะ และกิมเจ็ง มีต้นกำเนิดจากตอนใต้ของจีนนานกว่า 3 พันปีมาแล้ว เกิดเป็นตำนานรักผลลิ้นจี่ของหยาง กุ้ยเฟย สนมเอกของฮ่องเต้ ถังเสวียนจง ฮ่องเต้ถึงกับมีพระบัญชาให้ม้าเร็วเร่งขนลิ้นจี่มายังเมืองหลวงให้เร็วที่สุดเพื่อสนมเอกอันเป็นที่รัก นับแต่นั้นมาลิ้นจี่จึงถูกยกให้เป็นผลไม้ล้ำเลิศของจีน และเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ส่วนลำไยเป็นไม้ที่นิยมบริโภคกันมาทั้งในและต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของจีนในมณฑลกวางตุ้ง จน พ.ศ.2439 มีชาวจีนนำกิ่งตอนลำไยมาถวายเจ้าดารารัศมี พระราชชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และได้มอบให้เจ้าน้อยต้น ณ เชียงใหม่ ผู้เป็นน้องชายนำไปปลูกที่เชียงใหม่ จึงเป็นที่มาของสายพันธุ์ลำไยชั้นดีอย่างอีดอและพันธุ์กะโหลก ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของภาคเหนือ
ภาคอีสานมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด พื้นดินไม่ค่อยกักเก็บน้ำ ทำให้น้อยหน่าเป็นผลไม้ที่นิยมปลูกและส่งเสริมให้เป็นผลไม้เชิงธุรกิจ สายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ พันธุ์เพชรปากช่อง ปลูกมากในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งน้อยหน่าเป็นผลไม้ต่างประเทศที่นำเข้าเมืองไทยตั้งแต่สมัยอยุธยา จากบันทึกทูตชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้กล่าวถึงน้อยหน่าไว้ตั้งแต่ปี 2230-2231 เชื่อว่าน้อยหน่ามีถิ่นกำเนิดอยู่แถวอเมริกากลาง ชาวโปรตุเกสได้นำมาปลูกในอินเดียเมื่อหลายปีก่อน ต่อมาจึงเดินทางเข้าสู่สยามประเทศ
ภาคกลางมีสภาพอากาศร้อนชื้น พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบเหมาะแก่การเพาะปลูก มีผืนดินอุดมสมบูรณ์ ทำให้ผลไม้อย่างมะม่วงเป็นที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย จนเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญทั้งในและต่างประเทศ ได้รับความนิยมมากในประเทศญี่ปุ่น สายพันธุ์ที่ต่างชาติชื่นชอบ ได้แก่ น้ำดอกไม้สีทอง น้ำดอกไม้มหาชนก และโชคอนันต์ มะม่วงเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งมาตั้งแต่พุทธกาล คนโบราณเชื่อว่าหากนำมาปลูกไว้ในบริเวณบ้านทางทิศใต้ จะทำให้เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยมีความร่ำรวยยิ่งขึ้น ส้มโอเป็นอีกหนึ่งที่สร้างชื่อในภาคกลาง มีถิ่นกำเนิดทางเกาะมลายูและหมู่เกาะโปลินีเซีย มีลักษณะเด่นคือ รสชาติดีและเก็บรักษาไว้ได้นาน เป็นผลไม้มงคลที่ชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมใช้ไหว้เทพเจ้าหรือบรรพบุรุษ มีความหมายในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ สายพันธุ์เลื่องชื่อคือ พันธุ์ทองดี ขาวน้ำผึ้ง ทับทิมสยาม และเจ้าเสวย
ภาคตะวันออก สภาพภูมิอากาศมีลักษณะคล้ายภาคใต้ แบบป่าฝนเมืองร้อน มีความอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่มีชื่อเสียงของประเทศ ได้แก่ ทุเรียน ได้ชื่อว่าเป็นราชาของผลไม้ จัดว่ามีราคาสูงและมีคุณค่ามาแต่โบราณ จากบันทึกของเมอร์ซิเออร์ เดอลาลูแบร์ หัวหน้าคณะราชทูตฝรั่งเศศในสมัยอยุธยา กล่าวว่า ชาวสยามที่เป็นไท เต็มใจขายตัวยอมเป็นทาสเพื่อจะได้กินผลไม้ลูกเดียวที่เรียกว่าทุเรียน นอกจากนี้ มังคุดก็ยังได้ชี่อว่าเป็นราชินีแห่งผลไม้ เนื้อในมีสีขาวสะอาด รสชาติอร่อยยากที่จะหาผลไม้อื่นมาเทียบได้ ถึงขนาดชาวต่างชาติขึ้นเครื่องบินมาลิ้มรสทุเรียนและมังคุดในเมืองไทยกันปีละครั้ง เพราะมีไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่ปลูกทุเรียนและมังคุดได้
ภาคใต้นั้นมีฝนตกชุกตลอดทั้งปี สภาพอากาศเป็นแบบป่าฝนเมืองร้อน มีผลไม้ที่สร้างชื่อเสียงให้ภาคใต้คือเงาะ ซึ่งเมื่อปี พ.ศ.2468 มีชาวจีนสัญชาติมาเลเซีย ชื่อนายเค หว่อง ได้นำเมล็ดเงาะมาปลูกที่ อ.บ้านนาสาร ต่อมาปี 2497 ที่ดินดังกล่าวได้ถูกปรับปรุงให้เป็นสถานที่เรียนเรียกว่าโรงเรียนนาสาร จึงเป็นที่มาของเงาะโรงเรียน ซึ่งได้รับความนิยมในเมืองไทย เนื่องจากมีเนื้อกรอบล่อนจากเมล็ด รสชาติหวานอร่อย มีถิ่นกำเนิดอยู่ในป่าฝนที่มีฟ้า-อากาศค่อนข้างร้อนชื้นแถบหมู่เกาะมลายู อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และตอนใต้ของไทย ลองกองเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีชื่อเสียงของ จ.นราธิวาส พันธุ์ที่มีชื่อคือ ลองกองบ้านซีโป อ.ระแงะ และอีกพันธุ์ที่มีรสชาติดีคือ ตันหยงมัส ต้นลองกองเก่าแก่ของ จ.นราธิวาส นั้นมีอายุกว่า 100 ปี อันเป็นแหล่งกำเนิดของลองกองในประเทศไทย และให้ผลผลิตที่ดีที่สุดปของประเทศ มีปริมาณผลผลิตกว่า 36,000 ตันต่อปี
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น สามารถเป็นเครื่องยืนยันที่สำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่าสยามประเทศมีผลไม้รสเลิศ ผลิตผลออกมาให้ชาวไทยและต่างชาติได้ลิ้มรสตลอดปี เหมือนอู่ข้าวอู่น้ำที่อุดมสมบูรณ์แต่ครั้งโบราณกาล ไม่มีชาติใดในโลกเปรียบเสมือนได้
ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2553 จึงไปสัมผัสความเป็นที่สุดแห่งผลไม้ไทยได้ใน
งาน "Bangkok Fruit Fest ครั้งที่ 10 : Miracle Land of Thailand Fruit" ซึ่งรวบรวมผลไม้หลากหลายชนิดจากแหล่งผลิตคุณภาพเอาไว้ให้ลิ้มลองความอร่อยเหนือใคร ที่อีเวนต์ ฮอลล์-โฮมเฟรชมาร์ท @ เดอะมอลล์ ทุกสาขา, กูร์เม่ต์ มาร์เก็ต @ เอ็มโพเรียม-พารากอน ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ และกูร์เม่ต์ มาร์เก็ต @ K-Village สุขุมวิท 26.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ