คสช.จัดกิจกรรมเน้นความสุขและเรียกรอยยิ้มให้กับคนไทย ผ่อนปรนเคอร์ฟิวแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้น

ข่าวทั่วไป Thursday June 5, 2014 16:00 —สำนักโฆษก

คสช. ขอให้หัวหน้าส่วนราชการบริหารและกำกับดูแลหน่วยงานในความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ยึดถือประโยชน์ของสังคม ประชาชน และประสิทธิภาพงานเป็นหลัก

วันนี้ (5 มิ.ย. 57) เวลา 12.40 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ร.อ.นายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ และนางสาวปัทมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณะโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฝ่ายพลเรือน ได้ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานฯ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

การทำงานของคณะกรรมการปรองดองและการปฏิรูป มีลักษณะการทำงานสองส่วนคือ 1. ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ดำเนินการโดยฝ่ายปกครอง และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่ปัจจุบันมีกิจกรรมการแสดงดนตรี การให้บริการทางการแพทย์ จัดเวทีพบปะในแต่ละพื้นที่ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด 2. คณะทำงานเตรียมการปฏิรูป จะเตรียมข้อมูล ส่งผ่านข้อมูล ที่ในระยะแรก คสช. จะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเปิดพื้นที่ สนับสนุนให้มีเวที และให้แต่ละภาคส่วนได้มีโอกาสพบปะกันในระดับพื้นที่ เพื่อเตรียมการไปสู่ระยะที่ 2 ที่จะมีสภาปฏิรูปต่อไป ทั้งนี้ ระยะที่ 1 เป็นกระบวนการเริ่มต้น คือ การอำนวยความสะดวกให้แต่ละภาคส่วนได้พบกันและได้แสดงออก ซึ่ง คสช. จะรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะนำมาจัดระเบียบและไปสู่กระบวนการระยะที่ 2

สำหรับบรรยากาศของงานปรองดองที่ คสช. กำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้ คสช. ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักจัดกิจกรรมต่าง ๆ โดยมีการตั้งศูนย์ปรองดองเพื่อความสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปขึ้นทุกจังหวัด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดจะบูรณาการร่วมกันจัดกิจกรรมต่าง ๆ และหน่วยงานของทหารจะเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนอำนวยความสะดวก และจากนี้ไปจะเพิ่มกิจกรรมด้านการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ โดยเป้าหมายในการจัดกิจกรรมของ คสช. ต้องการเปิดพื้นที่ สร้างสภาวะแวดล้อมให้มีความเอื้ออำนวยต่อการสร้างความเข้าใจให้ประชาชนได้มี โอกาสพบปะพูดคุยทำกิจกรรมร่วมกัน เน้นกิจกรรมการสร้างความสุข เรียกรอยยิ้มให้คนไทย ให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายที่สุดเน้นกิจกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และในวันนี้เวลา 16.00 – 20.00 น. จะมีกิจกรรมการแสดงดนตรีในสวนที่กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ และวันเสาร์ที่ 7 มิ.ย.นี้ กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ร่วมกับสำนักงานเขตหนองจอก จะจัดกิจกรรมคืนความสุขให้กับประชาชน ที่สวนสาธารณะหนองจอก

สำหรับเรื่องมาตรการกำหนดเวลาเคอร์ฟิวนั้น บางพื้นที่โดยเฉพาะเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้มีการผ่อนปรนไปแล้ว เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่ขอให้มีการระมัดระวังบุคคลที่แอบอ้างขอรับบริจาคในนามผู้มีจิตศรัทธาที่จะนำสิ่งของบริจาคมาให้กับเจ้าหน้าที่ หากผู้ใดกระทำการดังกล่าวจะถือเป็นความผิด ขณะที่ทหารและตำรวจได้มีการจับกุมอาวุธสงครามและกวดขันการกระทำความผิดอบายมุขต่าง ๆ อย่างเข้มงวด ส่วนกลุ่มบุคคลที่ยังมีการต่อต้านทหารนั้น ทาง คสช.จะดำเนินการป้องกันการติดต่อสื่อสาร และหากยังไม่เชื่อฟังทางเจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก

สำหรับส่วนผลการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ 3 ฝ่าย (ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา) เมื่อวานนี้ เป็นการรายงานติดตามแผนงานโครงการที่จะเตรียมเข้าสู่การใช้จ่ายงบประมาณปี 2557 ที่เหลืออยู่ ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วน และสร้างประโยชน์อย่างชัดเจน เพื่อให้เป็นไปตามกรอบงบประมาณปี 2557 ซึ่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เน้นย้ำว่าโครงการต่าง ๆ ที่กำลังจะพิจารณานั้น ขอให้มีความสัมพันธ์กันระหว่างกระทรวงต่าง ๆ และเน้นการให้ข้อเท็จจริงแก่ประชาชนทุกโครงการ โดยมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำความเข้าใจ ส่วนจะมีการบริหารจัดการ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างไรนั้น ขอให้มีการหารือและพิจารณาร่วมกันของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง และขอให้หัวหน้าส่วนราชการบริหารและกำกับดูแลหน่วยงานในความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ยึดถือประโยชน์ของสังคม ประชาชน และประสิทธิภาพงานเป็นหลัก

ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างต่างประเทศ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานเร่งทำความเข้าใจกับประเทศต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ถือได้ว่าสถานการณ์บ้านเมืองเริ่มเข้าสู่สภาวะที่ดีขึ้น เศรษฐกิจเดินหน้า การบริหารราชการมีความคล่องตัวขึ้น ปัญหาเกษตรกรได้รับการคลีคลาย แต่ภาวะค่าครองชีพยังต้องเร่งแก้ไขเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ไปดูแลราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพของประชาชนด้วยความเป็นธรรม

พร้อมกันนี้ ได้มอบแนวทางในเรื่องต่าง ๆ อาทิ การใช้วัสดุผลิตภัณฑ์ภายในประเทศไทย เป็นวัสดุดิบพื้นฐานสำหรับอุตสาหกรรม การพัฒนาภาคการเกษตรอย่างยังยืน การช่วยเหลือปัจจัยการผลิตขั้นพื้นฐาน การให้ความรู้เกษตรกร โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาจัดตั้งศูนย์เมล็ดพันธุ์ทั่วประเทศ ตลอดจนการดูแลเรื่องน้ำ ป่าไม้ ขยะ ปัญหาแรงงานต่างด้าว การช่วยเหลือโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ที่จังหวัดเชียงราย และโรงเรียนที่ถูกไฟไหม้ ในจังหวัดนราธิวาสที่ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือทันที โดยเฉพาะการสร้างที่พักชั่วคราวให้กับนักเรียน

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ