นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า จำนวนเงินงบประมาณที่เตรียมไว้เป็นงบประมาณค้างจ่ายประจำปี 2557 รวมกับงบประมาณที่เตรียมไว้แล้วประจำปี 2558 โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการเรียบร้อยแล้ว ประมาณแสนกว่าล้านบาท ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาตามหลักการ โดยหวังให้จำนวนเงินลงสู่ประชาชนโดยตรง เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย
สำหรับตัวเลขการส่งออกของประเทศไทยที่อัตราการส่งออกติดลบนั้น นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า ต้องดูว่าตัวเลขติดลบเพราะอะไร คงไม่ใช่ความบกพร่องของประเทศไทยฝ่ายเดียว เพราะเศรษฐกิจโลกมีปัญหาทำให้ยอดการสั่งซื้อสินค้า และยอดการส่งออกลดลง วันนี้รัฐบาลเน้นแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน เช่นการหาตลาดใหม่ ๆ ในการส่งออกสินค้า รวมถึงหามาตรการต่าง ๆ ในการกระตุ้น ทั้งนี้ สำหรับเหตุการณ์ความมั่นคงภายในประเทศ ไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการส่งออก
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีเศรษฐกิจของประเทศที่ไม่เติบโตตามความคาดหมายและอาจมอบเป็นความผิดของรัฐบาลว่า รัฐบาลมาทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ และยังไม่เคยมีรัฐบาลใดทำ ถ้าจะเป็นความผิดของรัฐบาล ก็ขึ้นอยู่กับสังคมตัดสินใจ โดยพร้อมรับการตัดสินใจ แต่ขออย่านำเอาสิ่งที่ไม่เรียบร้อย ไม่ดี มาโทษรัฐบาล ต้องดูด้วยว่าปัญหาที่แก้ไขไม่ได้เป็นปัญหาที่สะสมมานานแล้ว ไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาได้ภายในเวลาจำกัด
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวของรัฐบาลยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะทำให้จีดีพีของประเทศไทยเติบโตเท่าไหร่ เพราะจำนวนเงินงบประมาณจะเริ่มใช้ได้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ หลังจากนั้นก็เป็นขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณของกระทรวงการคลังว่า จะทำได้เร็วเพียงใดตามกระบวนการ พร้อมกล่าวว่าได้กำชับและสั่งการถึงความโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบผ่านคณะกรรมการในการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ ทั้งนี้ การเติบโตของจีดีพีประกอบด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนของรายได้ รวมถึงหามาตรการกระตุ้นการส่งออก เช่น การพัฒนาเทคโนโลยี ช่องทางการจำหน่าย ตลาด และการใช้จ่ายในประเทศ ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ จากการประเมินสถานการณ์น่าจะดีขึ้น สำหรับสถานการณ์การติดลบของเศรษฐกิจใน 3 เดือนนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้รับการรายงานจากกระทรวงที่เกี่ยวข้องแล้ว วันนี้ได้มีการหารือกันถึงการแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th