นายกรัฐมนตรีเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เน้นงบประมาณถึงประชาชนโดยตรง เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย

ข่าวทั่วไป Wednesday October 1, 2014 15:10 —สำนักโฆษก

วันนี้ (1 ตุลาคม 2557) เวลา 13.15 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจว่ามีหลายมาตรการที่เป็นมาตรการในภาพรวม ส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายงบประมาณที่ค้างจ่าย และเป็นงบประมาณเร่งด่วน คืองบประมาณเรื่องของการซ่อมแซม ที่ไม่เน้นการสร้าง เพราะจะสำรวจอีกครั้งถึงความจำเป็น และความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณ โดยทุกกระทรวง ทบวง กรมจะมีงบประมาณเร่งการซ่อมแซม เพื่อเป็นการสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียนของเงิน นอกจากนั้นจะเป็นงบประมาณเพื่อดูแลเกษตรกร รองรับสถานการณ์ที่จะมีปัญหาในอนาคต ซึ่งรัฐบาลจะทยอยแก้ปัญหา เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาภายในเวลาที่จำกัด และจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาทั้งระบบ

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า จำนวนเงินงบประมาณที่เตรียมไว้เป็นงบประมาณค้างจ่ายประจำปี 2557 รวมกับงบประมาณที่เตรียมไว้แล้วประจำปี 2558 โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการเรียบร้อยแล้ว ประมาณแสนกว่าล้านบาท ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาตามหลักการ โดยหวังให้จำนวนเงินลงสู่ประชาชนโดยตรง เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย

สำหรับตัวเลขการส่งออกของประเทศไทยที่อัตราการส่งออกติดลบนั้น นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า ต้องดูว่าตัวเลขติดลบเพราะอะไร คงไม่ใช่ความบกพร่องของประเทศไทยฝ่ายเดียว เพราะเศรษฐกิจโลกมีปัญหาทำให้ยอดการสั่งซื้อสินค้า และยอดการส่งออกลดลง วันนี้รัฐบาลเน้นแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน เช่นการหาตลาดใหม่ ๆ ในการส่งออกสินค้า รวมถึงหามาตรการต่าง ๆ ในการกระตุ้น ทั้งนี้ สำหรับเหตุการณ์ความมั่นคงภายในประเทศ ไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการส่งออก

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีเศรษฐกิจของประเทศที่ไม่เติบโตตามความคาดหมายและอาจมอบเป็นความผิดของรัฐบาลว่า รัฐบาลมาทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ และยังไม่เคยมีรัฐบาลใดทำ ถ้าจะเป็นความผิดของรัฐบาล ก็ขึ้นอยู่กับสังคมตัดสินใจ โดยพร้อมรับการตัดสินใจ แต่ขออย่านำเอาสิ่งที่ไม่เรียบร้อย ไม่ดี มาโทษรัฐบาล ต้องดูด้วยว่าปัญหาที่แก้ไขไม่ได้เป็นปัญหาที่สะสมมานานแล้ว ไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาได้ภายในเวลาจำกัด

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวของรัฐบาลยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะทำให้จีดีพีของประเทศไทยเติบโตเท่าไหร่ เพราะจำนวนเงินงบประมาณจะเริ่มใช้ได้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ หลังจากนั้นก็เป็นขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณของกระทรวงการคลังว่า จะทำได้เร็วเพียงใดตามกระบวนการ พร้อมกล่าวว่าได้กำชับและสั่งการถึงความโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบผ่านคณะกรรมการในการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ ทั้งนี้ การเติบโตของจีดีพีประกอบด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนของรายได้ รวมถึงหามาตรการกระตุ้นการส่งออก เช่น การพัฒนาเทคโนโลยี ช่องทางการจำหน่าย ตลาด และการใช้จ่ายในประเทศ ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ จากการประเมินสถานการณ์น่าจะดีขึ้น สำหรับสถานการณ์การติดลบของเศรษฐกิจใน 3 เดือนนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้รับการรายงานจากกระทรวงที่เกี่ยวข้องแล้ว วันนี้ได้มีการหารือกันถึงการแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ