นายกรัฐมนตรีพอใจผลการทำงาน วอนอย่าเพิ่งติติง พร้อมทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศต่อไป

วันนี้ (6 ต.ค.57) เวลา 15.10 น. ณ สโมสรทหารบก วิภาวดี ถนนวิภาวดี-รังสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมร่วมระหว่างรัฐบาลกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ครั้งที่ 1/2557 ว่า การประชุมวันนี้เพื่อสานต่อการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ประสานงาน และปฏิบัติงานร่วมกันผ่านคณะทำงานอยู่ตลอดเวลา เพื่อความต่อเนื่องของการทำงาน และเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำงาน ซึ่งสังคมต้องการทราบถึงความคืบหน้าการทำงานตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมเป็นต้นมาว่า คสช.และรัฐบาลได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ทั้งนี้ โดยรวมการทำงานเป็นไปตามแผนงานของ คสช. และแผนงานของรัฐบาล ภายใต้การทำงาน 5 กลุ่มงาน ได้แก่ 1.ด้านความมั่นคง 2.ด้านเศรษฐกิจ การเงินการคลัง 3.ด้านสังคมจิตวิทยา 4.ด้านกฎหมาย และ 5.ด้านกิจการพิเศษ ซึ่งทั้งหมดได้ทำงานตามแผนอย่างต่อเนื่องมาตลอด

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า การทำงานของ คสช. และรัฐบาล แยกออกเป็นการทำงานบริหารราชการปกติของรัฐบาลภายใต้การทำงานของกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ โดยได้ทำงานแบบเชิงรุก และการทำงานโดย คสช.เข้ามาช่วยเร่งรัดการทำงานในเชิงรุกในเรื่องของปัญหาด้านความมั่นคง และปัญหาที่มีข้อติดขัดด้านกฎหมาย โดยใช้กำลังของทหารและพลเรือนเข้ามาเสริมการทำงานส่วนนี้ นอกจากนั้น จะเป็นการทำงานตามโจทย์เพื่อแก้ไขปัญหาในทุกมิติ ซึ่งทุกกระทรวง ทบวง กรมต้องมีโจทย์ให้เห็นว่าจากในอดีตที่ผ่านมีปัญหาอะไรบ้าง ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้จากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อกำหนดวิธีการ และบูรณาการการทำงานให้เกิดผลโดยเร็ว สำหรับสิ่งที่เป็นปัญหาสำคัญคือเรื่องของการทุจริต คอร์รัปชั่น ซึ่งจะทำงานคู่ขนานกันไปทั้งเรื่องของการตรวจสอบ ทบทวนใหม่ และระงับยับยั้งการดำเนินการ โดยจะส่งเรื่องของการทุจริต คอร์รัปชั่นให้ฝ่ายกฎหมายรับเรื่องไปพิจารณาดำเนินการต่อไปตามกฎหมาย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้รัฐบาลจะนำเรื่องที่เป็นปัญหาต้องการแก้ไขทั้งหมดมาจัดทำยุทธศาสตร์ จัดลำดับความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเรื่องเร่งด่วนแก้ไขปัญหาทันที หรือต้องแก้ไขปัญหาภายใน 3 เดือน ทั้งเรื่องของความมั่นคง การสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจ โดยการแปรรูป สร้างมูลค่าการผลิตพืชผลการเกษตร และเรื่องของกฎหมาย โครงสร้างภาษี และพลังงาน โดยเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้จะส่งต่อให้สภาปฏิรูปแห่งชาติรับไปดำเนินการเพื่อการปฏิรูปอย่างยั่งยืนต่อไป พร้อมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ช่วยกัน ให้เวลารัฐบาลทำงานแก้ไขปัญหาต่อไป ทั้งนี้ ปัญหาสำคัญของประเทศไทยคือทัศนคติของคน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องร่วมกัน และช่วยกันให้กำลังใจรัฐบาลในการทำงาน

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการปฏิรูปประเทศไทยระบุว่าจากชี้แจงทำความเข้าใจ ต่างชาติมีความเข้าใจ พอใจต่อผลความก้าวหน้าของการดำเนินการ พร้อมส่งเสริมให้เกิดการปฏิรูปของประเทศ ยกเว้นคนไทยบางส่วนที่ไม่พอใจ จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนช่วยสร้างความเข้าใจให้กับกลุ่มบุคคลที่ไม่เห็นด้วย อย่าเพิ่งติติงจนไม่สามารถทำอะไรได้ ให้โอกาสรัฐบาลได้ทำงานก่อน โดยทุก ๆ 3 เดือน จะมีคำตอบการทำงานของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับทราบ

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า โดยส่วนตัวพอใจต่อผลการทำงาน ทั้งนี้ อาจจะไม่ทันใจต่อสังคม อะไรที่เป็นปัญหาระยะยาว ต้องสร้างพื้นฐาน วางรากฐานให้เข้มแข็ง เพื่อแก้ไขปัญหาได้ในอนาคต อะไรที่เป็นการทำงานปกติก็ให้หน่วยราชการทำงานบริหารราชการแผ่นดินตามปกติต่อไป สำหรับสถานการณ์ความมั่นคงภายในประเทศตอนนี้มีความมั่นคง ประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับและให้โอกาสรัฐบาล และ คสช.ทำงาน พร้อมขอความร่วมมือประชาชนที่ไม่เห็นด้วยอย่าทำผิดกฎหมาย ยืนยันการทำงานไม่มีปัญหา พร้อมเดินหน้าทำงานเพื่อประเทศต่อไป ทั้งนี้ การทำงานอาจจะกระทบต่อคนกลุ่มน้อย ซึ่งต้องยอมเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มใหญ่ สำหรับการทำงานแก้ไขปัญหาของรัฐบาลจะเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องเร่งด่วนก่อน เรื่องไหนที่เป็นปัญหาระยะยาวไม่สามารถแก้ไขได้ตามเงื่อนไขของเวลาก็จะส่งต่อให้รัฐบาลชุดใหม่ไปดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

นราวุธ รายงาน

ที่มา: http://www.thaigov.go.th