ประชุม กองทุนฯ ช่วยเหลือลูกจ้าง กลุ่มภาคกลาง ๔ จังหวัด

ข่าวทั่วไป Wednesday October 15, 2014 17:58 —สำนักโฆษก

คณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เห็นชอบการจ่ายเงินสงเคราะห์กรณีอื่นนอกจากค่าชดเชยเดือนตุลาคม ๒๕๕๗ ให้แก่ลูกจ้างของบริษัทในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ชลบุรี นครปฐม และชัยนาท พร้อมทั้งวางแนวทิศทางการปฏิบัติงาน กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ประจำปีบัญชี ๒๕๕๘

นางสาวพรรณี ศรียุทธศักดิ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบอนุมัติการจ่ายเงินสงเคราะห์กรณีอื่นของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างนอกจากค่าชดเชยเดือนตุลาคม ๒๕๕๗ อาทิ ลูกจ้างของบริษัทโพรเกรส อินเตอร์ฟาร์ม จำกัด ลูกจ้างของบริษัทชิงธง จำกัด ลูกจ้างของบริษัทสหฟาร์ม จำกัด ลูกจ้างของบริษัทฟู้ด ฟอร์ เดอะ เวิลด์ จำกัด ลูกจ้างของบริษัทโกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด จังหวัดลพบุรี ลูกจ้างของบริษัทเอ็มพิคอน จำกัด จังหวัดชลบุรี ลูกจ้างของบริษัทดี เนต สปอร์ตเกมส์ จำกัด จังหวัดนครปฐม และลูกจ้างงานก่อสร้าง จังหวัดชัยนาทโดยประเด็นที่ขอรับการสงเคราะห์ อาทิ ค่าจ้างค้างจ่าย

ทั้งนี้ยังได้มีการวางแนวทิศทางการปฏิบัติงาน กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ประจำปีบัญชี ๒๕๕๘ ที่สำคัญ ด้านการสงเคราะห์ลูกจ้าง การจ่ายเงินสงเคราะห์ลูกจ้าง โดยพิจารณาจ่ายเงินสงเคราะห์ให้กับลูกจ้างที่ได้รับความเดือด กรณีค่าชดเชย และกรณีอื่นนอกจากค่าชดเชยที่กำหนดโดยคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เช่น ค่าจ้างค้างจ่าย เป็นต้น และด้านการบริหารจัดการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง อาทิ การขอรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล เพื่อทุนสำหรับการสงเคราะห์ลูกจ้างในอนาคต ที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส การบริหารเงินจัดสรรเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ประจำปี ๒๕๕๘ อย่างโปร่งใส และมีประสิทธิภาพ การจัดหาผลประโยชน์เข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างว่าด้วยการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง พ.ศ. ๒๕๔๒ การเร่งรัดติดตามหนี้เงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง รวมทั้งหลักเกณฑ์ต่างๆ ของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างให้ประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของลูกจ้าง ที่ถูกเลิกจ้างและนายจ้างค้างจ่ายค่าชดเชยและเงินอื่นๆ นอกเหนือจากค่าชดเชย ซึ่งเงินที่สงเคราะห์มาจากเงินอุดหนุนของรัฐบาล เงินค่าปรับจากการลงโทษผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ เงินบริจาค เงินดอกผลของกองทุนฯ และเมื่อกองทุนฯ จ่ายเงินสงเคราะห์แก่ลูกจ้าง จะเรียกให้นายจ้างจ่ายเงินชดใช้คืนกองทุนฯ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละสิบห้าต่อไป

กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ต้องมีการเก็บสถิติข้อมูลการกระทำผิดของนายจ้าง พร้อมเร่งรัดติดตามหนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเป็นหนี้ศูนย์ต่อกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง รวมถึงต้องให้นายจ้างปฏิบัติกฎหมายอย่างเคร่งครัด นางสาวพรรณีฯ กล่าวท้ายที่สุด

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ