กระทรวงเกษตรฯ ถกแผนลุยส่งออกตลาดสินค้าปศุสัตว์และประมงของไทยไปรัสเซีย

นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานการแถลงข่าวการเปิดตลาดสินค้าปศุสัตว์และประมงในสหพันธรัฐรัสเซีย ว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายที่เน้นส่งเสริมนโยบายเศรษฐกิจเสรี โดยเฉพาะการเปิดตลาดใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้มากขึ้น โดยในเรื่องนี้กระทรวงเกษตรฯ พร้อมจะเร่งรัดดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการส่งออกในเรื่องการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตร ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของประเทศคู่ค้า โดยล่าสุดประเทศไทยมีความพร้อมที่จะส่งออกสินค้าปศุสัตว์และประมงไทยไปยังประเทศรัสเซียเพิ่มขึ้น หลังจากที่กรมสัตวแพทย์และสุขอนามัยพืชรัสเซีย (FSVPS) ได้ส่ง ดร.เกนเนดี บายคอฟ หัวหน้าผู้แทนพร้อมคณะ เดินทางมาตรวจระบบการผลิตสินค้าปศุสัตว์และประมงของไทย ระหว่าง 29 กันยายน -10 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบการกระบวนการผลิตสินค้าไทยว่า มีความสะอาด ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย เป็นไปตามมาตรฐานสากลและสอดคล้องกับกฎหมายปลอดภัยด้านอาหารของรัสเซีย และกลุ่มประเทศ Customs Union หรือไม่ ซึ่งจากผลการตรวจสอบพบว่า ทางการรัสเซียให้การยอมรับในมาตรฐานการผลิตสินค้าปศุสัตว์และประมงของไทย

ทั้งนี้ ฝ่ายไทยและสหพันธรัฐรัสเซีย ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจในข้อกำหนดการส่งออกเนื้อสุกรจากประเทศไทยไปยังประเทศรัสเซีย ซึ่งต่อไปไม่เพียงจะสามารถส่งออกไปรัสเซียได้เท่านั้น แต่ยังสามารถที่จะส่งออกเนื้อสุกรไปยังประเทศเบรารุส และ คาซัคสถาน ซึ่งอยู่ในเครือ Customs Union ได้ด้วย

“จากข้อมูลการส่งออกด้านปศุสัตว์ของไทยไปยังรัสเซียเมื่อปี 2556 พบว่าไทยส่งออกเนื้อไก่แปรรูป 20,000 ตัน เนื้อไก่แช่แข็ง 972.04 ตัน มีมูลค่า 69.09 ล้านบาท เนื้อเป็ดแช่งแข็ง 126.61 ตัน มีมูลค่า 14.05 ล้านบาท รวมมูลค่าส่งออกสิค้าปศุสัตว์ทั้งหมด 1,098.66 ตัน เป็นมูลค่า 83.14 ล้านบาท แต่ยังไม่เคยมีการส่งออกเนื้อสุกรไปประเทศรัสเซียมาก่อน โดยเบื้องต้นปริมาณความต้องการนำเข้าสุกรไทยของรัสเซียอยู่ที่ 5,000-7,000 ตัน/เดือน จากปริมาณความต้องการทั้งหมดปีละ 10 ล้านตัว และมีความต้องการนำเข้าไก่ 2,000-2,500 ตันต่อเดือน ซึ่งคาดว่าไทยจะมีความพร้อมในการส่งออกเนื้อสุกรบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ไปยังรัสเซียภายใน 3 – 4 เดือนนี้แน่นอน ถือเป็นโอกาสอันดีที่ไทยจะได้เปิดตลาดสินค้าปศุสัตว์ไปยังรัสเซีย เบรารุส และคาซัคสถานอีกด้วย” นายชวลิต กล่าว

สำหรับสินค้าประมงที่ปัจจุบันไทยสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำไปรัสเซียได้อยู่แล้ว โดยมีโรงงานที่สามารถส่งออกไปยังรัสเซียซึ่ง FSVPS ทราบและขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน 69 โรง แต่การที่คณะผู้แทนจาก FSVPS เข้าตรวจประเมินในครั้งนี้เพื่อประเมินระบบการควบคุมผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำส่งออกของไทยในภาพรวม ตรวจโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ และเยี่ยมชมฟาร์มเพาะเลี้ยงกุ้งขาวในจังหวัดระยอง 1 แห่ง เพื่อประเมินระบบการควบคุมโรคสัตว์น้ำฟาร์มกุ้งของไทย ตลอดจนการควบคุมทั้งระบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เนื่องจากมีโรงงานที่มีความประสงค์ที่ยื่นความประสงค์ขอขึ้นทะเบียนใหม่เพื่อให้สามารถส่งออกไปยังรัสเซียได้ จำนวน 60 โรง รวมทั้งสิ้น 129 โรง โดยคณะผู้ตรวจได้เลือกสุ่มตรวจโรงงานในครั้งนี้เพียง 6 โรง ในจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงครามและสมุทรปราการ ซึ่งเป็นตัวแทนของโรงงานที่สุ่มตรวจทั้งหมด ซึ่งผลการตรวจรับรองในครั้งนี้คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีต่อโรงงานผลิตสินค้าประมงไทยที่จะได้รับการรับรองให้มีการนำเข้าไปยังรัสเซียได้เพิ่มขึ้น

สำหรับสถานการณ์การส่งออกสินค้าประมงไทยไปรัสเซีย เมื่อปี 2556 พบว่า มีปริมาณการส่งออก 12,325.18 ตัน มูลค่า 1,787.71 ล้านบาท และในปี 2557 (เดือน ม.ค.-ส.ค.) ปริมาณส่งออก 10,123.71 ตัน มูลค่า 1,375.12 ล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มการส่งออกที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน ยังถือเป็นการเสริมสร้างสัมพันธ์อันดีและสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกรมประมง และ FSVPS เพื่อการส่งออกสินค้าประมงไทยไปรัสเซียเป็นไปด้วยความสะดวกและรวดเร็วขึ้นด้วย

กลุ่มโฆษกและวิเคราะห์ข่าว กองเกษตรสารนิเทศ

สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์

โทร 02-2810859 แฟกซ์ 02-2822871

moacnews@gmail.com

www.moac.go.th

ที่มา: http://www.thaigov.go.th