เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นพบหารือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ข่าวทั่วไป Monday October 27, 2014 13:11 —สำนักโฆษก

วันนี้ (27 ต.ค. 2557) เวลา 10.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1ทำเนียบรัฐบาล นายชิเกะคะสุ ซะโต เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการสนทนามีดังนี้

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ได้พบกับเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นในวันนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น โดยไทยและญี่ปุ่นต่างเป็นมิตรประเทศที่ใกล้ชิดต่อกันมาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด การหารือของนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายระหว่างการประชุม ASEM ครั้งที่ 10 ณ นครมิลาน และการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างกัน เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นยังได้เน้นย้ำว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเข้าใจสถานการณ์ของไทยและยินดีที่ไทยยังคงสานต่อความร่วมมือและการลงทุนในไทยต่อไป

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นได้หารือถึงเรื่องความมั่นคง โดยเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นได้ชื่นชมบทบาทของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะที่เคยทำงานอยู่ในสำนักข่าวกรองแห่งชาติ พร้อมหวังว่ารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะได้ใช้ความเชี่ยวชาญดังกล่าวช่วยส่งเสริมให้นักธุรกิจและประชาชนชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในไทยกว่า 6 หมื่นคนมีความมั่นคงและความปลอดภัย ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงภัยจากการก่อการร้ายและความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวอย่างมาก โดยทางรัฐบาลไทยได้มีการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มหัวรุนแรงมาโดยตลอด ส่วนในเรื่องความไม่สงบในชายแดนภาคใต้นั้น รัฐบาลจะเน้นการส่งเสริมเครือข่ายความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการเดินหน้ากระบวนการเจรจาสันติภาพโดยจะร่วมมือกับประเทศมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวก

ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นได้สอบถามถึงเรื่องการยกเลิกกฎอัยการศึก ซึ่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่า รัฐบาลไทยได้พิจารณาและหารือถึงเรื่องยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก แต่อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของสำนักข่าวกรองแห่งชาติได้แสดงให้เห็นว่ายังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลอยู่ จึงเห็นว่าควรให้คงการใช้กฎอัยการศึกไว้ก่อน โดยอาจให้มีการพิจารณายกเลิกในพื้นที่ท่องเที่ยวในโอกาสต่อไป ซึ่งทางเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นได้ระบุเพิ่มเติมว่า การยกเลิกกฎอัยการศึกเพิ่มเติมในพื้นที่ท่องเที่ยวจะช่วยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมีความมั่นใจและเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มมากขึ้น

วิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ