นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า

ข่าวทั่วไป Wednesday October 29, 2014 13:38 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า โดยได้ติดตามงานแต่ละกระทรวง และสั่งการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมฝากทุกกระทรวงสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนได้รับทราบเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของ คสช.และรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา

วันนี้ (30ต.ค.57) เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมราชวัลลภ ชั้น 2 อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 2/2557 ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการ ก.พ. คณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆ ที่จัดแสดงไว้ อาทิ การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสนใจและขอให้จัดหางานเพื่อสร้างรายได้ให้กับนักเรียนหรือผู้สำเร็จการศึกษาที่มาจากครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบในพื้นที่ได้กลับเข้าสู่ระบบมาร่วมสร้างความสงบในพื้นที่ร่วมกับภาครัฐ และให้พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนให้ดีขึ้น รวมทั้งนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสนใจนิทรรศการการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยขอให้กระทรวงศึกษาธิการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษาอบรมภาษาประเทศเพื่อนบ้านเพื่อนำกลับมาสอนให้กับคนไทย และให้จัดฝึกอบรมภาษาอังกฤษเพิ่มศักยภาพให้ผู้ใช้แรงงานซึ่งเป็นที่ยอมรับในเรื่องของฝีมือและทักษะ แต่ยังขาดความสามารถในการสื่อสารด้านภาษา ขณะเดียวกันได้แสดงความเป็นห่วงต่อกรณีที่จะมีการเปิดประชาคมอาเซียนและเกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานคุณภาพจากไทยออกนอกประเทศจึงมอบหมายให้กระทรวงศึกษาจัดหาแนวทางป้องกันดังกล่าวด้วย

จากนั้น เลขาธิการ ก.พ. ได้กล่าวแนะนำปลัดกระทรวงศึกษาธิการต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะเจ้าภาพการจัดประชุม พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้รับมอบของที่ระลึกจากปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และกล่าวเปิดการประชุมฯ โดยสรุปสาระสำคัญว่า การประชุมครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญในการขับเคลื่อนงานของรัฐบาล ซึ่งมีเวลาจำกัดในการทำงานจึงต้องเร่งปูพื้นฐานของประเทศเพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้า โดยสิ่งที่ได้สั่งการในฐานะหัวหน้า คสช.และรัฐบาล ไม่ได้นำเพียงความรู้ที่เป็นหลัก แต่ยังใช้ประสบการณ์ซึ่งรับราชการตลอด 38 ปีมาประกอบด้วย เพราะทหารมีโอกาสพบปะประชาชนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนใต้ ที่ประสบกับปัญหาจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อมีโอกาสเข้ามาทำงานจึงต้องรีบแก้ไขเพื่อให้บุคลากรได้รับการพัฒนาตนเองและประเทศมีความก้าวหน้ามากขึ้น

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดเผยว่า การประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 2 เพื่อทำความเข้าใจกับทุกกระทรวงซึ่งเป็นข้าราชการว่าจะเดินหน้าประเทศอย่างไร เพราะข้าราชการเป็นผู้ที่จะต้องปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงการติดตามงานในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาว่ามีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง ตลอดจนสิ่งที่รัฐจะดำเนินการตามนโยบายที่กำหนดไว้ เพื่อข้าราชการดังกล่าวเข้ามาร่วมสนับสนุนการทำงานของรัฐมนตรีให้สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ทั้งนี้การทำงานมี 3 ระดับ คือ นโยบายที่นายกรัฐมนตรีสั่งการและกำกับดูแลในส่วนของ ครม. เพื่อรัฐมนตรีจะนำนโยบายไปขับเคลื่อน โดยมีกระทรวงต่าง ๆ นำไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป ซึ่งการประชุมครั้งนี้ กระทรวงศึกษาได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมขึ้น และครั้งต่อไปกระทรวงมหาดไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ โดยกระทรวงต่าง ๆ จะหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว

พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวภายหลังรับฟังรายงานสรุปเกี่ยวกับการดำเนินการต่าง ๆ ของกระทรวงศึกษาธิการว่า ไม่รู้สึกหนักใจแต่อย่างใด และคิดว่าสามารถดำเนินการได้ตามที่กำหนดไว้ เพราะได้มีการกำหนดแผนการดำเนินงานที่ดี แต่ขอให้สร้างความต่อเนื่องและเชื่อมโยง รวมถึงการสร้างเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน โรงเรียน มหาวิทยาลัย ผู้ประกอบการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะสร้างคนให้เป็นสมองของประเทศ เช่น การสร้างคนให้มีศักยภาพที่จะเป็นนักวิชาการ ครู อาจารย์ ในระดับสูงต่อไป รวมทั้งสร้างคนให้มีงานและมีอาชีพ โดยเฉพาะในระดับกลาง เพื่อที่จะเดินต่อไปข้างหน้าได้ อีกทั้งต้องมีการเตรียมคนรองรับการแข่งขันในประชาคมโลก ทั้งเรื่องการเตรียมการเคลื่อนย้ายประชากรและทรัพยากรมนุษย์ในการไปทำงานในประเทศต่าง ๆ ขณะเดียวกันให้มีการพัฒนาการในเรื่องของกีฬาให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ซึ่งประชาชนมีความชื่นชอบในเรื่องของกีฬาก็ได้ให้มีการสนับสนุนและเพิ่มหลักสูตรในเรื่องนี้เพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องและตรงกับเป้าหมาย ซึ่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลและกระทรวง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ทำความเข้าใจกับทุกกระทรวงเพื่อไปสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนได้รับทราบเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของ คสช.และรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา เช่น การตั้งศูนย์ที่ภาคใต้และการปรับระบบการศึกษาของโรงเรียน ทางจักรยานซึ่งดำเนินการในบางพื้นที่และจะมีการขยายเชื่อมโยงต่อไปทั้งประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีประเทศอังกฤษได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมสังเกตกา?รณ์เกี่ยวกับคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่าว่า จากที่ได้ติดตามเรื่องดังกล่าวนั้นฝ่ายที่เข้าร่วมสังเกตการณ์มีความรู้สึกพึงพอใจและยอมรับเกี่ยวกับกระบวนการและขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ประเทศไทย ซึ่งการดำเนินการตามขั้นตอนของประเทศไทยก็เป็นขั้นตอนเดียวกันกับที่ฝ่ายผู้ร่วมสังเกตการณ์ดำเนินการเช่นกัน ขณะที่ทางด้านผู้ต้องหา เราก็ได้เปิดโอกาสให้ต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์หรือ DNA อีกครั้งหากมีการร้องขอ ส่วนเรื่องของการฟ้องศาลเป็นเรื่องของการให้เวลาในการต่อสู้คดี อย่างไรก็ตามการดำเนินการดังกล่าวเป็นการยืนยันด้วยหลักฐานการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งขณะนี้กระบวนการชั้นต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการแล้วตามกระบวนการของกฎหมายและนิติวิทยาศาสตร์ โดยผู้ร่วมสังเกตการณ์ก็รู้สึกพึงพอใจต่อการดำเนินการดังกล่าว ส่วนขั้นตอนต่อไปเป็นเรื่องของอัยการว่าจะส่งฟ้องหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการหาสำนวนเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและชัดเจนกับทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวต่อไป

อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่จะการเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 30 -31 ว่า การเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาครั้งนี้ จะมีการหารือร่วมกันเกี่ยวกับความร่วมมือด้านต่าง ๆ ในทุกมิติ ทั้งเรื่องพลังงาน การค้าการลงทุน การส่งเสริมช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การท่องเที่ยว รวมถึงเรื่องการลักลอบตัดไม้พะยูงจนทำให้เกิดการปะทะกันขึ้น ซึ่งก็จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อหารือในเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจน ทั้งนี้ในส่วนของพลังงาน จะมีการหารือเกี่ยวกับกรณีในพื้นที่ทับซ้อนว่าจะดำเนินการกันอย่างไร โดยผ่านคณะกรรมการที่จะจัดตั้งขึ้นร่วมกัน เพราะพื้นที่ทับซ้อนยังไม่ได้เป็นพื้นที่ของประเทศใด แต่ถ้าจะรอให้มีการปักปันเขตแดนเรื่องของพลังงานตรงนี้ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ขณะที่พลังงานก็มีอยู่อย่างก็จำกัด

อย่างไรก็ตามในการเยือนกัมพูชาครั้งนี้จะไม่มีการหารือในเรื่องของเขาพระวิหาร โดยที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี ได้มีการหารือร่วมกับสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และพลเอก เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชาแล้วว่าจะไม่นำประเด็นเรื่องความขัดแย้งเดิมมาพูดกันในเวลานี้ เพราะเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของรัฐบาลทั้งสองฝ่ายในการที่จะหารือร่วมกัน ขณะเดียวกันก็ได้หารือกับประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ เช่น สหภาพเมียนมาร์ ว่าอย่านำเรื่องเส้นเขตแดนเป็นเส้นแห่งความขัดแย้ง และการก่อสงครามระหว่างกัน เพราะเราก็เป็นประเทศที่มีรายได้น้อยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องมาหาแนวทางว่าจะดูแลประชาชนกันอย่างไร ตลอดจนต้องมีการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนประเทศเพื่อนบ้านและประชาชนไทยให้เท่าเทียมกันและเข้มแข็ง เพื่อที่จะก้าวไปสู่ประชาคมโลกได้พร้อมกัน

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวแบบครบวงจร โดยให้จัดเป็นแพ็คเกจท่องเที่ยวในเรื่องต่าง ๆ เช่น ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และโบราณสถาน ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ หรือป่าเขา ลำเนาไพร เป็นต้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ