รมว.แรงงาน ย้ำ ทำงานเป็นคนกลาง ตามกรอบ เกิดประโยชน์สมดุล แก่นายจ้าง - ลูกจ้าง

ข่าวทั่วไป Wednesday October 29, 2014 17:57 —สำนักโฆษก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ผู้แทนสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เข้าพบ หารือ การกำหนดคุณสมบัติพนักงานรัฐวิสาหกิจเพื่อบริหารบอร์ดให้เข้มแข็ง ให้ศึกษาขอปรับขึ้นเงินเดือนร้อยละ 5 และขอปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนลูกจ้าง รวมทั้งข้อเรียกร้องให้รับรองอนุสัญญา ILOเผย

นำข้อมูลศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ย้ำ ประเทศต้องมีทางออกที่ดี ก.แรงงาน ทำงานเป็นคนกลาง ดำเนินการตามกรอบ สิ่งใดเกิดประโยชน์ ความสมดุลแก่นายจ้าง - ลูกจ้าง พยายามทำเต็มที่

พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้นายอำพล ทองรัตน์

รองเลขาธิการฝ่ายบริหาร รักษาการเลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และคณะเข้าพบโดยมีนายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน นายพีรพัฒน์ พรศิริเลิศกิจ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เข้าร่วมประชุมด้วย ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงานว่า ที่ประชุมได้หารือในประเด็นสำคัญ คือ การกำหนดคุณสมบัติของพนักงานรัฐวิสาหกิจเพื่อกำกับดูแลให้บอร์ดรัฐวิสาหกิจ

มีความเข้มแข็งมากขึ้นนั้น ‘ได้มอบหมายให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ประสานกับกระทรวงการคลัง’เพื่อติดตามความก้าวหน้า ส่วนการขอปรับขึ้นเงินเดือนให้พนักงานรัฐวิสาหกิจในอัตราร้อยละ 5 ตามที่ สรส.ร้องขอด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจและเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานนั้น เรื่องดังกล่าวขอให้ สรส. เสนอโครงสร้างเงินเดือนใหม่โดยภาพรวมทั้งหมดโดยให้นำเสนอในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้เพื่อพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์อีกครั้ง สำหรับการขอปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจนั้นจะต้องรอคำวินิจฉัยของศาลปกครอง เนื่องจากก่อนหน้านี้ลูกจ้างรัฐวิสาหกิจได้ยื่นเรื่องกับศาลปกครองไว้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สำหรับการเรียกร้องให้มีการรับรองอนุสัญญาพื้นฐานของ ILO เรื่องดังกล่าวแม้จะเป็นภาพลักษณ์ที่สำคัญในเวทีโลก เพราะโดยสากลแล้วมีการรับรองกัน แต่สถานการณ์ของไทยในขณะนี้ มีแรงงานต่างด้าวอยู่ในประเทศเป็นจำนวนมาก ล่าสุดมียอดจดทะเบียน 1.5 ล้านคน ประกอบกับเมื่อรัฐบาลมีโครงการลงทุนรถไฟทางคู่ ทำให้มีแรงงานต่างด้าวกำลังทยอยเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นจำเป็นต้องศึกษาในหลักการและรายละเอียดเพิ่มเติม โดยส่วนตัวแล้วไม่ขัดข้อง เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ต้องดูแลอย่างถูกต้องเหมาะสม ดังนั้นประเทศต้องมีทางออกที่ดีและเหมาะสม

“กระทรวงแรงงานต้องอยู่กับนายจ้าง ลูกจ้าง ทำอะไรได้ ไม่ได้ก็ต้องดำเนินการไปตามกรอบ การทำงานกับมวลชนเป็นสิ่งที่ยาก ที่จะให้ถึงจุดสมดุลพอดี ฉะนั้นอะไรที่จะเกิดประโยชน์ และเป็นตัวกลางให้เกิดความสมดุล พยายามทำเต็มที่ ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

กลุ่มงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ