รองนายกฯ ยงยุทธ มอบนโยบายการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เนื่องในงานวันที่อยู่อาศัยโลกประเทศไทย 2557

ข่าวทั่วไป Friday October 31, 2014 13:58 —สำนักโฆษก

นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบนโยบายการแก้ไขปัญหา ที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เนื่องในงานวันที่อยู่อาศัยโลกประเทศไทย 2557 “World Habitat Day Thailand 2014”

วันนี้ (31 ต.ค. 57) เวลา 11.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบนโยบายการแก้ไขปัญหา ที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เนื่องในงานวันที่อยู่อาศัยโลกประเทศไทย 2557 “World Habitat Day Thailand 2014” ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับสหพันธ์พัฒนาองค์กรชุมชนคนจนเมืองแห่งชาติ (สอช.) เครือข่ายที่ดินแนวใหม่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง (คทช.) และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) โดยมีนายพลากร วงศ์กองแก้ว ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ผู้แทนคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิกแห่งองค์การสหประชาชาติ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารจากส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ผู้นำขบวนองค์กรชุมชนร่วมงานจำนวนประมาณ 500 คน

ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กล่าวรายงานว่า การจัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกประเทศไทย 2557 “World Habitat Day Thailand 2014” ที่คนในเขตเมืองและชนบททั่วโลกจัดงานที่อยู่อาศัย เมื่อวานนี้ (30 ตุลาคม 2557) ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ได้ร่วมกันจัดงานเป็นประจำทุกปี โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 2,000 คน แบ่งเป็นชุดเรียนรู้ว่าด้วยเรื่องกองทุนเมือง ผังตำบล การจับพิกัด การจัดการดินน้ำ ป่า รวมทั้งการบริหาร จะได้นำความรู้และสิ่งต่างๆ ที่เราคิดค้นไปสู่การปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งจากการทำงานร่วมกันในลักษณะของเมืองมาอย่างยาวนาน การทำงานรูปแบบบ้านมั่นคงที่พัฒนาไปสู่การทำทั้งเมือง การพัฒนาเรื่องอาชีพ กองทุนเมือง และการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน พร้อมข้อเสนอต่อรัฐบาลว่า จะทำอย่างไรที่จะให้การเคลื่อนตัวขนาดใหญ่ของเมืองเป็นวาระสำคัญของการพัฒนาประเทศ

ส่วนชนบทนั้น ได้มีการจัดทำเรื่องที่ดินทำกิน สวัสดิการชุมชน ประมาณ 6,000 ตำบล เศรษฐกิจและทุนนำร่องประมาณ 300 ชุมชน ขณะเดียวกันทั้งขบวนเมืองและที่อยู่อาศัย พยายามรวมเป็นโครงสร้างชุมชนท้องถิ่นที่เข้มแข็ง ซึ่งชาวบ้านได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง และได้ทำเป็นสาระสำคัญสู่การปฏิรูปขบวนการภาคประชาชนที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้มีการร่วมมือกับท้องที่ ท้องถิ่น หน่วยงานภาคีในระดับพื้นที่และระดับนโยบาย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านคุณภาพชีวิต คนในชุมชน และเกิดพลังในการเปลี่ยนแปลง คือการทำอย่างไรให้เป็นเนื้อหาเชิงนโยบายของประเทศต่อไป

จากนั้น นายสมบูรณ์ สิ่งกิ่ง ผู้แทนขบวนองค์กรชุมชน ได้มอบข้อเสนอที่มาจากการรับฟังเสียงสะท้อนจากฐานล่าง ที่ผ่านการสังเคราะห์เห็นชอบร่วมกัน ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้

1. ให้รัฐบาลประกาศนโยบายการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกิน โดยชุมชนท้องถิ่น เป็นวาระแห่งชาติ

2. ขอให้แก้ไขระเบียบการใช้ที่ดินของรัฐ เพื่อให้ชุมชนสามารถเข้าถึงบริการของรัฐ การใช้ที่ดินรัฐรองรับการแก้ไขปัญหา ที่เอื้อต่อการแก้ปัญหาการขาดแคลนที่ดิน และที่อยู่อาศัยของคนยากจน โดยใช้แนวทางกรรมสิทธิ์ร่วมของชุมชน

3. ให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการการแก้ไขปัญหาที่ดิน และที่อยู่อาศัยระดับจังหวัด ให้คณะกรรมการประกอบด้วย ชุมชน ท้องถิ่น สถาบันการศึกษา ประชาสังคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับจังหวัด เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหา และตัดสินใจสู่ระดับพื้นที่จังหวัด เพื่อรองรับคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยระดับชาติ

4. จัดให้มีกองทุนสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน แก่กองทุนระดับตำบล เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายกระจายอำนาจ และใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งในการแก้ไขปัญหา

5. สนับสนุนการแก้ไขปัญหาและวางแผนการจัดการทรัพยากร โดยใช้รูปแบบการจัดการที่อยู่อาศัยและการจัดการที่ดินแนวใหม่ ที่เน้นการมีส่วนร่วมของคนในเมืองและชุมชนท้องถิ่น เพื่อความยั่งยืน

6. ขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณในการแก้ไขปัญหาด้านที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกินของพี่น้องคนจนอย่างต่อเนื่อง และงบประมาณที่สนับสนุนขอให้งดเว้นการจัดเก็บภาษีตามกฎหมายภาษีอากร

โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบโล่รางวัลผลงานดีเด่น ในการสร้างความร่วมมือการจัดการที่ดินและที่อยู่อาศัย ประเภทบุคคล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้ว่าราชการจังหวัด และมอบโฉนดที่ดินจากการแก้ไขปัญหาที่ดินบริเวณอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี พร้อมมอบนโยบายการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินว่า พร้อมที่จะรับข้อเสนอและนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ทราบว่ามีการนำเสนอเป็นประจำทุกปี แต่ไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ในปีนี้ผมจะนำไปเสนอต่อนายกรัฐมนตรี อาจจะไม่เกิดขึ้นทั้งหมดตามที่คาดหวัง แต่รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนในเรื่องนี้ พร้อมได้มีข้อแนะนำ คือ หัวข้อที่พูดถึงการแบ่งปันที่ดินของรัฐ การใช้คำนี้ทำให้น่าตกใจโดยเฉพาะผู้ที่ดูแลทรัพย์สมบัติของรัฐ ซึ่งต้องเรียกว่าการมีส่วนร่วมในที่ดินของรัฐ ดีกว่าการแบ่งปันที่ดินของรัฐ

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับผู้แทนจากสหประชาชาติ ที่กล่าวว่าวันนี้ไม่ใช่วันที่อยู่อาศัยของโลก แต่เป็นวันซิตี้เดย์ของโลก ซึ่งเชื่อมโยงกับแนวโน้มของโลกที่ต้องการพัฒนา ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ฝากสารไปยังท่านเลขาธิการเลขาสหประชาชาติที่ท่านได้ให้ความสำคัญกับโครงการบ้านมั่นคงของประเทศไทย ที่นำไปเสนอเป็นตัวอย่างของโลก ซึ่งเราควรดีใจ

และจะเห็นได้จากนิทรรศการว่าไม่ใช่แค่เรื่องบ้าน แต่เป็นเรื่องทั้งหมด ทั้งบ้านมั่นคง เมืองมั่นคงและประเทศที่มั่นคง เราจะต้องโยงกันกับเรื่องต่างๆ ทั้งหมด เพราะฉะนั้นเรื่องของชุมชนมั่นคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เรื่องวันที่อยู่อาศัยโลกเราต้องดูเป็นภาพใหญ่ เสียงจากสลัมก็ฟังดูดี แต่คิดว่าน่าจะหาคำที่ฟังดูดีกว่า พวกท่านมีทั้งที่มาจากที่ปรับปรุงที่อยู่อาศัยมาแล้วและยังไม่ปรับปรุง ดังนั้น จึงควรเปลี่ยนเป็นเสียงจากชุมชน

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความยินดีว่าชุมชนท้องถิ่นมีความเข้มแข็งแล้ว และต้องการให้เข้มแข็งยิ่งขั้นไปอีก เพราะรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาของทุกคนได้ทั้งหมด ซึ่งทุกคนจะต้องลุกมาแก้ไขปัญหาของตนเองด้วย อีกทั้ง รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนในเรื่องนี้ โดยกำหนดไว้ในนโยบายของรัฐข้อที่ 3 ซึ่งมีความชัดเจนว่าต้องลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการของรัฐ ซึ่งงานสำคัญที่จะให้มีการดำเนินการ คือ การพัฒนาระบบการคุ้มครองทางสังคม มีระบบการออมของประชาชน ซึ่งแม้ว่าที่ผ่านมารัฐจะดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่รัฐบาลจะต้องทำให้มีประสิทธิภาพและมีความมั่นคงขึ้นไปอีก เรื่องสวัสดิการก็เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับคนจนหรือคนด้อยโอกาส

สำหรับเรื่องที่ดินเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหวมาก เราต้องหาทางกระจายสิทธิ์การถือครองที่ดินให้แก่ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในที่ที่รุกล้ำ และออกมาตรการป้องกันการเปลี่ยนมือไปอยู่ในมือผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกร โดยขณะนี้ชุมชนต่าง ๆ ได้มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมสำรวจและวิธีการทำแผนที่ที่ทันสมัย ชาวบ้านรู้เรื่องเทคโนโลยี ไม่ใช่ฝ่ายรัฐทำอย่างเดียว ชาวบ้านสามารถใช้แผนที่ GIS ซึ่งสามารถนำมาเทียบกันได้ และสามารถตกลงกันได้ สามารถดำเนินการใช้ที่ดินแก้ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยหรือทำอาชีพของราษฎรได้ ซึ่งสอดคล้องกับคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี ในข้อ 9 ที่ว่าด้วยเรื่องการรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ซึ่งได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินรัฐ จัดทำแนวเขตที่ดินรัฐให้ชัดเจน เร่งกระบวนการพิสูจน์สิทธ์การถือครองที่ดิน และแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินรัฐโดยยึดแนวพระราชดำริที่ให้ประชาชนอยู่ร่วมกับป่าได้

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าได้มีโอกาสหารือกับอธิบดีกรมป่าไม้ถึงสิ่งที่เรากำลังทำว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสม ถูกต้องและดำเนินการอย่างแข็งขัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ท่านเป็นประธานของคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ โดยมีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นฝ่ายเลขานุการฯ มีนโยบายที่จะจัดสรรที่ดิน แต่ไม่ได้ออกเอกสารสิทธิ์ให้กับบุคคล แต่ออกร่วมในพื้นที่ของรัฐ เช่น พื้นที่ธนารักษ์ พื้นที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และพื้นที่ต่างๆ เหล่านี้ที่มีปัญหาดูว่ามีที่ตรงไหนสามารถจัดเป็นที่ทำกินร่วมได้

อีกทั้ง จากการรายงานของชุมชนทำให้ทราบว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลที่ดิน ทำงานร่วมกันอย่างแข็งขัน โดยใช้เทคโนโลยีแผนที่สารสนเทศภูมิศาสตร์ ทำให้การทำงานลุล่วงไปได้ อย่างกรณีที่ดินบูโด – สุไหงปาดี มีระบบป้องกันที่ดินเปลี่ยนมือ หรือสูญเสียที่ดินโดยใช้เรื่องการจัดสิทธิร่วมของชุมชนแทนสิทธิแบบปัจเจก และมีกองทุนที่ดินที่ถือเป็นธนาคารที่ดินระดับชุมชนท้องถิ่น ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงกับธนาคารที่ดินในระดับชาติได้

จากข้อเสนอนโยบายในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินที่เครือข่ายชุมชนร่วมกันเสนอนั้น บางเรื่องก็เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงไว้แล้ว แต่เนื่องจากเรื่องที่ดินเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานและกฎหมายหลายฉบับ คงต้องนำข้อเสนอเหล่านี้ไปหารือในรายละเอียดร่วมกันต่อไป รวมทั้ง ในช่วงนี้ที่มีการทำงานเพื่อปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งได้มีสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว ขอให้เครือข่ายชุมชนได้ร่วมกันเสนอแนวทางการปฏิรูปที่ดิน ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องมีการปฏิรูปไปพร้อมกันด้วย

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนท้ายว่า ขอบคุณทุกคนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ซึ่งถือเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนไม่สามารถแก้ไขได้โดยรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว แต่ชุมชนท้องถิ่นที่เป็นเจ้าของปัญหาจะต้องมีส่วนร่วมกับรัฐบาลหน่วยงานรัฐและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ