ในโอกาสนี้ นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเน้นให้ความสำคัญต่อการพัฒนาด่านชายแดนและพื้นที่ชุมชนชายแดน และมีนโยบายจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zone : SEZ) ขึ้นในจังหวัดต่างๆ ตามแนวชายแดน ในระยะแรกได้กำหนดพื้นที่ชายแดนที่มีศักยภาพที่เหมาะสม 5 พื้นที่ ได้แก่ 1. ด่านแม่สอด จังหวัดตาก 2. ด่านอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว 3. ด่านคลองใหญ่ จังหวัดตราด 4. ด่านมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร และ 5. ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา (ด่านศุลกากรสะเดาและปาดังเบซาร์) ซึ่งขณะนี้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้เร่งดำเนินการออกแบบผังเมืองรวมบริเวณชุมชนที่จะรองรับการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวของเมืองในพื้นที่เขตชายแดน
และประกอบกับวันที่ 8 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันผังเมืองโลก (World Town Planning Day) ซึ่งทั่วโลกจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการผังเมือง ตลอดจนเพื่อให้ตระหนักถึงบทบาทของการผังเมืองที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ กระทรวงมหาดไทยจึงได้จัดการสัมมนาทางวิชาการฯ ในวันนี้ขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของผังเมืองต่อการพัฒนาประเทศไทย และถือเป็นเวทีในการนำเสนอนโยบาย และแนวทางปฏิบัติงาน และความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษและการก้าวสู่ AEC ของหน่วยงานต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมและระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการวางและจัดทำผังเมืองร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเพื่อหารือถึงแนวทางการปรับปรุงกฎหมายผังเมืองให้มีความทันสมัย สามารถนำไปใช้เป็นกรอบในการพัฒนาพื้นที่ชุมชน/เมือง และพื้นที่เศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ด้านนายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดสัมมนาครั้งนี้มี 2 ส่วน ส่วนของการบรรยายและการสานเสวนาโดยจะมีการบรรยายในหัวข้อสำคัญ อาทิเช่น เรื่องยุทธศาสตร์การผังเมืองกับการเข้าสู่ AEC การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจกับการเข้าสู่ AECบทบาทของกรุงเทพมหานครกับการรองรับการเข้าสู่ AEC และมิติใหม่ของการพัฒนาภาคมหานคร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นต้น โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญจากกรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมนักผังเมืองไทย สมาพันธ์โลจิสติกส์ เป็นต้น โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 350 คน ประกอบด้วยผู้บริหาร และบุคลากรที่รับผิดชอบงานวางผังเมือง และงานวิเคราะห์ผังเมือง จากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และผู้ที่เกี่ยวข้องจากกรมโยธาธิการและผังเมือง บุคลากรจากภาครัฐ ส่วนราชการต่างๆ รัฐวิสาหกิจ ผู้แทนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตเศรษฐกิจพิเศษ 5 จังหวัด ภาคเอกชน สมาคม และผู้ที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานอื่นๆ
ทั้งนี้ คาดว่าผู้ที่เข้าร่วมการสัมมนาจะได้รับทราบนโยบาย ข้อมูล แนวทางปฏิบัติ ความรู้ แนวคิดทฤษฎีด้านการผังเมืองเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ชุมชนชายแดนและเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศและพัฒนาเมืองในอนาคตต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th