นายกรัฐมนตรีอินเดียถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว

ข่าวทั่วไป Wednesday November 12, 2014 13:54 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 25 ณ กรุงเนปยิดอ สาธารณรัฐแห่งสภาพเมียนมา

วันนี้ (12 พ.ย.57) เวลา 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 25 ณ กรุงเนปยิดอ สาธารณรัฐแห่งสภาพเมียนมา หลังเสร็จสิ้นการหารือ ร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือ สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีอินเดีย ก่อนหน้านี้ ได้มีโอกาสพบกับพล.อ. V.K. Singh รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ระหว่างการประชุมอาเซม 10 ณ นครมิลาน ขอชื่นชนผลงานในการบริหารรัฐคุชราด ประสบความสำเร็จมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เป็นตัวอย่างความสำเร็จแก่รัฐอื่นๆ และนโยบายของนายกรัฐมนตรีอินเดีย ที่เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ การกินดีอยู่ดีของประชาชนทุกภาคส่วน ตรงกับแนวนโยบายในการพัฒนาประเทศของรัฐบาลไทย ทั้งนี้ ขอเชิญนายกรัฐมนตรีอินเดียเข้าร่วมการประชุมสุดยอด ACD ไทยจะเป็นจ้าภาพจัดการประชุมในช่วงไตรมาสที่ 4 ในปี 2558 และในปีนี้ ไทยจะมีงานนิทรรศการเกี่ยวกับหลักปรัชญาด้านการพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและมหาตมะ คานธี เพื่อเทิดเกียรติพระบาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาและเป็นสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์ระหว่างกันด้วย

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีอินเดียกล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอินเดีย พร้อมกล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม พร้อมชื่นชมสมเด็จพระโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฏราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอินเดีย เป็นส่วนสำคัญช่วยสนับสนุนความร่วมมือระหว่างไทยและอินเดียมาโดยตลอด พร้อมยินดีที่จะส่งผู้แทนร่วมงานนิทรรศการที่ไทยจะจัดขึ้นและตอบรับที่จะร่วมการประชุมสุดยอด ACD ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในปีหน้าด้วย

นายกรัฐมนตรีอินเดียยังกล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยในความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าว เพื่อร่วมมือกันในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ การก่อการร้ายรวมทั้งการกระทำผิดกฏหมาย ซึ่งถือว่าเป็นภัยอันตรายต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งไทยและอินเดียต่างให้ความสำคัญในการต่อต้านการก่อการร้ายและภัยต่อความมั่นคงต่างๆ

สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและอินเดียนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมนโยบายอินเดีย ในการจัดตั้ง “Smart City” และ “ Made in India” เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ สอดคล้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย กระตุ้นการค้าการลงทุน ไทยทั้งสองประเทศยังมีนโยบายพัฒนาความเชื่อมโยงภายในอาเซียนและภูมิภาค โดยมีไทยเป็นศูนย์กลาง เช่นโครงการถนน สามฝ่าย ไทย-เมียนมา-อินเดีย รวมทั้งโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย ที่กำลังเดินหน้าไปด้วยดี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเชื่อมโยงตลาดอาเซียนและเอเชียใต้ นอกจากนี้ ไทยยังปรับปรุงสิทธิประโยชน์การลงทุนของ BOI เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนจากต่างประเทศ หน่วยงานไทยพร้อมที่จะข้อมูลแก่เอกชนอินเดียที่สนใจ

นายกรัฐมนตรีอินเดียได้แสดงความสนใจและเห็นว่าโครงการดังกล่าวข้างต้นจะต้องเร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างไทย-อินเดีย และการเร่งรัดการยกเลิกภาษีซ้อน เพื่อประโยชน์ต่อการค้าการลงทุน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ ไทยและอินเดียยังมีความร่วมมือด้านความมั่นคงมานาน ทั้งความร่วมมือด้านหน่วยงานข่าวกรองและการลาดตระเวนร่วมทางทะเล หวังว่ากองทัพไทยและอินเดียจะทำการฝึกผสมร่วมกันภายใต้รหัส “ไมตรี” ในเร็ววันนี้

กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ