เมียนมาชื่นชมพัฒนาการทางการเมืองของไทยและมั่นใจต่อกระบวนการปฏิรูปประเทศ พร้อมสานสัมพันธ์ทุกภาคส่วน

ข่าวทั่วไป Monday November 24, 2014 11:02 —สำนักโฆษก

นาย ขิ่น อ่อง มินต์ ประธานสภาชาติพันธุ์แห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมชื่นชมพัฒนาการทางการเมืองของไทยและแสดงความมั่นใจต่อกระบวนการปฏิรูปประเทศ

วันนี้ เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นาย ขิ่น อ่อง มินต์ ประธานสภาชาติพันธุ์แห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สำหรับผลการหารือ ร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าว ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับนายขิ่น อ่อง มินต์ ประธานสภาชาติพันธุ์แห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในโอกาสเดินทางเยือนไทยในฐานะแขกของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และยินดีที่ทราบว่า ระหว่างการเยือนครั้งนี้ ประธานสภาฯเมียนมามีโอกาสได้พบปะหารือกับ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้วย

โดยนายกรัฐมานตรีได้ย้ำว่า เมียนมาเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทยยาวที่สุด ดังนั้น จึงต้องร่วมกันพัฒนาความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ทางการทูต การค้าการลงทุน ประชาชนและวัฒนธรรม ทั้งนี้ ประธานสภาชาติพันธุ์เมียนมาสนับสนุนและเห็นว่า ความสัมพันธ์ระดับประชาชนสำคัญทีสุดเนื่องจากเป็นทางลัดของการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน และยินดีที่ไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์กับเมียนมาในทุกระดับ ทั้งระหว่างรัฐบาล รัฐสภา ภาคเศรษฐกิจ และประชาชน

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่มชมการจัดโครงสร้างของสภาฯเมียนมา ทั้งสองสภา ที่มีการกำหนดจำนวนสุภาพสตรีไว้อย่างสมดุล และเห็นว่า ประเทศไทยควรกำหนดที่นั่งของสุภาพสตรีในสภาฯเช่นเดียวกัน โดยปัจจุบัน รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับบทบาทของสตรี เยาวชน ตลอดจนผู้ด้อยโอกาส

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมบทบาทของประธานาธิบดี เต็ง เส่ง ทั้งในฐานะผู้นำประเทศและในฐานะประธานอาเซียนซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยขณะนี้ ความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-เมียนมาอยู่ในระดับที่ดี และนายกรัฐมนตรียืนยันที่จะเร่งพัฒนาความร่วมมือให้เกิดผลประโยชน์แก่ทั้งสองประเทศอย่างเท่าเทียม ด้วยความจริงใจ

ทั้งนี้ ประธานสภาชาติพันธุ์แห่งเมียนมา ได้แสดงความเข้าใจต่อสถานการณ์ทางการเมือง และเห็นว่า รัฐบาลปัจจุบันมิได้มีความมุ่งหวังทางการเมือง แต่มุ่งสร้างประเทศและความปรองดอง โดยขณะนี้ ประเทศไทยมีเสถียรภาพและมีความสงบสุข ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สามารถพัฒนาประเทศต่อไปข้างหน้าได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า รัฐบาลได้ดำเนินการตามโร้ดแม็ปที่วางไว้และขณะนี้อยู่ในระยะที่สอง คือ การปฏิรูปประเทศ โดยประเทศไทยจะเร่งเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยให้เร็วที่สุด ซึ่งในโอกาสนี้ ประธานสภาฯเมียนมากล่าวชื่นชมต่อพัฒนาการทางการเมืองของไทยและแสดงความมั่นใจต่อกระบวนการปฏิรูปประเทศ นอกจากนี้ ยังกล่าวชื่นชมที่โครงสร้างของสนช. ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วน ทำให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้และประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ