นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสัมพันธ์ไทย-ลาว ที่เข้มแข็ง ส่งเสริมความร่วมมืออาเซียนให้เข้มแข็ง

ข่าวทั่วไป Thursday November 27, 2014 15:48 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีระบุการเดินทางมาเยือน สปป.ลาว ครั้งนี้ เพื่อเป็นการติดตามความก้าวหน้าและสานต่อความร่วมมือด้านต่างๆ โดยเฉพาะความเชื่อมโยงระหว่างกัน พร้อมเร่งผลักดันผลการพูดคุยในเวทีต่างๆ ทั้งอาเซม เอเปค และอาเซียน ให้มีการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม

วันนี้ (27 พฤศจิกายน 2557) เวลา 11.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์คณะสื่อมวลชนถึงผลการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2557 ประกอบด้วย พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพิเชษฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตามคำเชิญของนายทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีแสดงความประทับใจต่อการต้อนรับอย่างอบอุ่น การเดินทางมาเยือนครั้งนี้ เพื่อเป็นการติดตามความก้าวหน้าและสานต่อความร่วมมือด้านต่างๆโดยเฉพาะความเชื่อมโยงระหว่างกัน พร้อมเร่งผลักดันผลการพูดคุยในเวทีต่างๆ ทั้งอาเซม เอเปค และอาเซียน ให้มีการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับการส่งเสริมความเชื่อมโยงนั้น จะครอบคลุมการบริหารจัดการค่าผ่านแดน การศุลกากร การให้เงินกู้ยืมการสร้างสะพานแห่งที่ 5 (บึงกาฬ - ปากซัน ) และพร้อมพิจารณาโครงการสะพานแห่งที่ 6 (อุบลราชธานี-แขวงสาละหวัน) การสร้างถนนภายในประเทศและบริเวณแนวชายแดน เพื่อเพิ่มมิติการค้าการลงทุน เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยรัฐบาลยังย้ำถึงความสำคัญในการจัดตั้งและพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวบริเวณชายแดน รวมทั้งการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟสายหนองคาย เพื่อเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟในสปป.ลาว ที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนเช่นกัน

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงการพบปะภาคเอกชนไทยในสปป.ลาว ว่า ด้วยปริมาณและมูลค่าการค้าที่หนาแน่น อาจเปิดกำหนดเขตเศรษฐกิจด้านมุกดาหารอีกแห่งหนึ่ง เพิ่มเติมจากที่กำหนดไว้แล้วที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่ทราบว่า คนลาวชอบใช้สินค้าและอาหารการกินไทย เพราะมีคุณภาพดี

ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวนั้น จะมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศนั้น มาใช้ประโยชน์ทั้งการให้บริการนักท่องเที่ยว ทั้งการตรวจเข้าเมือง การขอวีซ่า การใช้บัตร smart card รวมทั้งสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวร่วมกันในลักษณะ Joint Package รวมทั้งการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ไทยและ สปป.ลาว ในปีหน้า

นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงความสัมพันธ์ของไทยและสปป.ลาว ที่ใกล้ชิดมีความคล้ายคลึงกันทั้งภาษาและวัฒนธรรม มีความร่วมมือในการพัฒนาการศึกษา ความร่วมมือตลาดทุนตลาดหลักทรัพย์ ไทยจะต้องร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประทศ โดยใช้ประโยชน์เชิงกายภาพ จากการที่ไทยเป็นศูนย์กลางภูมิรัฐศาสตร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้ไทยมีความเข้มแข็ง ลาวเข้มแข็ง เพื่อนบ้านเข้มแข็งและอาเซียนจะมีเข้มแข็งยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหลักการนโยบายต่างประเทศ เน้นส่งเสริมความร่วมมือ ลดความหวาดระแวง สร้างความไว้วางใจ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในแต่ละประเทศ

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเข้าเยี่ยมคารวะพลโทจูมมาลี ไชยะสอน ประธานประเทศแห่ง สปป.ลาว ที่ได้สอบถามพระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยินดีที่ทราบว่าทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง พร้อมถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ ด้วย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประธานประเทศแห่ง สปป. ลาว กล่าวถึงความขัดแย้งในอดีตที่มีอยู่ทุกที่ทั่วโลก ขออย่าติดกับดักความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของไทย ไทยต้องไม่ขัดแย้งกับใคร ต้องไม่ขัดแย้งกันเอง ทุกคนต้องช่วยกันร่วมมือ ร่วมใจ ประเทศไทยเดินหน้าได้

กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ