พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาในระดับสากลที่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ตระหนักและให้ความสำคัญ จนเกิดเป็นกระแสสังคมที่ทุกภาคส่วนตื่นตัวที่จะผลักดันให้เกิดการป้องกันและแก้ไขปัญหา เนื่องจากปัญหาดังกล่าวไม่เพียงส่งผลกระทบต่อบุคคล แต่ยังส่งผลถึงการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมอย่างยั่งยืนอีกด้วย โดยเฉพาะความรุนแรงในครอบครัว ที่เป็นรากเหง้าของปัญหาสังคมและอาชญากรรมต่างๆ ซึ่งยังคงมีสถิติเพิ่มสูงขึ้น ผู้ถูกกระทำมักต้องเผชิญกับปัญหาความรุนแรงดังกล่าวโดยลำพัง เนื่องจากทัศนคติในสังคมที่มองว่า ความรุนแรงในครอบครัวเป็นเรื่องส่วนตัว บุคคลอื่นไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทำให้ปัญหาไม่ได้รับการเยียวยาแก้ไขอย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ การมุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในมิติพื้นที่ จึงน่าจะเป็น กลยุทธ์สำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ความพยายามในการลดความรุนแรงดังกล่าวมีประสิทธิผลมากขึ้น ตนเชื่อมั่นว่าพลังความร่วมมือของภาคประชาสังคมและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะช่วยหนุนเสริมให้มีการป้องกัน เฝ้าระวัง และช่วยเหลือคุ้มครองได้อย่างทันท่วงที สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ได้รับผลกระทบอย่างตรงจุด ดังนั้น ตนจึงหวังว่า การส่งมอบพันธกิจที่เกี่ยวข้องไปสู่พื้นที่ เพื่อสร้าง "ตำบลเข้มแข็งไร้ความรุนแรง” ในครั้งนี้ จะสามารถผลักดันให้ท้องถิ่นเกิดความตื่นตัว ตระหนัก เข้าใจ และเข้าถึงช่องทางบริการต่างๆ ตลอดจนให้ความร่วมมือในการ "ไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำ” ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว จนบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปี ๒๕๕๗ นี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย จัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว ประจำปี ๒๕๕๗ ขึ้น ภายใต้แนวคิด "รวมพลังแห่งรัก หยุดความรุนแรง - Start to Stop Violence” เพื่อให้สังคมเกิดความตระหนักต่อประเด็นปัญหา โดยสร้างแรงกระตุ้นจากนวัตกรรมความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ ธุรกิจเอกชน สื่อมวลชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคม ถึงเวลาที่ทุกภาคส่วนต้อง "เริ่ม” ตระหนักคิดและตื่นตัวรวมพลังกันยุติความรุนแรงดังกล่าวในทุกรูปแบบ มีส่วนร่วมย้ำเตือนสังคมให้ ใส่ใจต่อสิทธิของตนเองและผู้อื่น
ที่มา: http://www.thaigov.go.th