นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร ว่า เนื่องจากได้มีมติจากคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน เพื่อกำหนดนโยบาย มาตรการ แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ ด้านการเกษตร พัฒนาระบบการบริหารจัดการ บูรณาการแผนงาน และงบประมาณให้แก่หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง นั้น ในครั้งนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการฯชุดนี้ ซึ่งได้มีการดำเนินงานมาก่อนแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม ในขณะนั้นองค์ประกอบของคณะกรรมการฯยังไม่เรียบร้อย จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่ และที่ประชุมได้มีการทบทวนสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตรที่เกิดขึ้นในปี 2557 สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และวางมาตรการในการแก้ไขปัญหาในอนาคต โดยคณะกรรมการฯ ได้มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการเข้ามาดูแลรายละเอียดของปัญหาอย่างทั่วถึงภายใต้กลไกเดิม ซึ่งมีการทำงานมาจากจังหวัดส่งต่อมายังส่วนกลาง และหากในกรณีมีความจำเป็นที่จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม อันเกี่ยวเนื่องกับงบกลางก็สามารถดำเนินงานได้ทันที
นายอำนวย กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านกรณีภัยแล้งที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ ได้มีการแจ้งงดปลูกข้าวนาปรัง โดยมอบหมายให้กรมชลประทานดำเนินการส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกร เพื่อช่วยเหลือให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และได้มีการจ้างงานเกษตรกร ในพื้นที่งดปลูกข้าวนาปรังบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและลุ่มแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งปัจจุบันได้มีการจ่ายค่าจ้างไปแล้วบางส่วน โดยได้ดำเนินการวางแผนการจ้างงานและการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรทุกๆ 2 สัปดาห์ จากเดิมที่มีกำหนด 30 วัน เพื่อให้เงินจำนวนนี้ถึงมือเกษตรกรอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการประเมินสถานการณ์ภัยแล้งเพื่อเตรียมรับมือในปีต่อไปด้วย
สำหรับกรณีการเกิดอุทกภัย ที่ จ.สงขลานั้น กระทรวงเกษตรฯ ได้มีการเร่งประเมินความเสียหาย และขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทางจังหวัด หากได้รับข้อมูลแล้วจะมีการเร่งดำเนินการวางมาตรการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
ส่วนสถานการณ์ยางพารา นั้น มีการรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรใน จ.ระยอง กว่า 15,000 ตัน เป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท และหวังให้เป็นจังหวัดเครือข่ายของตลาดกลางในการรับซื้อ รวมถึงจังหวัดในแถบภาคอีสานด้วย โดยรับซื้อน้ำยางและยางดิบ เพื่อให้กลไกของมาตรการที่วางไว้เดินหน้า ส่วนงบประมาณที่เหลือจะนำมาใช้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ยางพารา ด้านราคายางพาราในขณะนี้อยู่ที่เกือบ 60 บาท/กก. ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่านี้ สำหรับยางพาราที่รับซื้อไป ได้มีการเตรียมส่งออกไปขายประเทศจีน 200,000 ตัน ตามออเดอร์ที่มีอยู่แล้ว และมีการสนับสนุนการใช้ยางภายในประเทศเพิ่มเติมด้วย นายอำนวย กล่าว
กลุ่มโฆษกและวิเคราะห์ข่าว กองเกษตรสารนิเทศ
สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
โทร 02-2810859 แฟกซ์ 02-2822871
moacnews@gmail.com
www.moac.go.th
www.facebook.com/kasetthai
ที่มา: http://www.thaigov.go.th