นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการ กทพ. เปิดเผยว่า ปัจจุบันการเดินทางสู่ จ.สระบุรี มีปริมาณการจราจรหนาแน่น เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักสู่ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนั้น ยังมีปริมาณรถบรรทุกขนาดใหญาเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง โดยเฉพาะในวันหยุดและช่วงเทศกาลจะเกิดปัญหาการจราจรติดขัดตลอดแนวเส้นทางตั้งแต่กรุงเทพมหานครถึง จ.สระบุรี
ด้วยเหตุนี้ กทพ. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาการจราจร จึงได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี มีจุดเริ่มต้นที่จุดเชื่อมต่อกับทางพิเศษฉลองรัชที่ด่านจตุโชติ และไปสิ้นสุดบริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ในเขต อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เพื่อเพิ่มศักยภาพของระบบทางพิเศษ ช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพหลโยธินและพิ้นที่ใกล้เคียง อีกทั้งเชื่อมโยงจังหวัดสระบุรี นครนายก ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชน รวมถึงเป็นเส้นทางคมนาคมในกรณีที่เส้นทางคมนาคมระดับดินไม่สามารถใช้งานได้ กทพ. จึงได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด, บริษัท โชติจินดา มูเซล คอนซัลแตนท์ จำกัด, บริษัท ไวส โปรเจ็ค คอนซัลติ้ง จำกัด และบริษัท เอ็นไวร์ไซน์ จำกัด ให้ดำเนินงานการศึกษาความเหมาะสมของโครงการฯ โดยรวมระยะเวลาดำเนินการ 17 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2557 - ธันวาคม 2558
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เป็นการประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจโครงการฯ โดยนำเสนอความเป็นมา รายละเอียดโครงการฯ เบื้องต้น และขอบเขตการศึกษา รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อห่วงกังวล เพื่อนำไปใช้ในการศึกษาโครงการฯ รวมทั้งเพื่อให้ความสอดคล้อง เหมาะสม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป
ที่มา : การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
ผู้เสนอ : กองสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
ที่มา: http://www.thaigov.go.th